"... เราเกิดมา พบพระพุทธศาสนาแล้ว ได้พบหนทาง ที่ประเสริฐที่สุดสำหรับชีวิต ของเราแล้ว ถ้าเราไม่เดิน ไปตามนั้นเรา จะไม่เสียดายหรือ? เมื่อชาตินี้ไม่ปฏิบัติแล้ว อีกกี่ชาติ จึงจะได้พบหนทางเช่นนี้อีก..."
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
“เมื่อเกิดก็ไม่ได้เอาอะไรมา เมื่อตายก็ไม่ได้เอาอะไรไป ทรัพย์สมบัติข้าวของเงินทอง หมดสิ้น ไม่ไช่ของเราเป็นของ กลางสำหรับแผ่นดิน
ตายแล้ว ทิ้งเสียหมด เอาไปไม่ได้ อย่าหลงมัวเมาไปเลย
แต่ความแก่ ความเจ็บ ความตายนี้เป็นของ ของเราแท้ หนีไม่พ้น เหตุนั้น เราจึงอุตส่าห์รีบเร่งก่อสร้าง บุญกุศล ซึ่งเป็นที่พึ่งของตน จงอุตส่าห์บำเพ็ญศีล แลเจริญ จตุรารักข์*.. แลวิปัสนานี้เป็น ทางสวรรค์ แลนฤพานเถิด.. ”
*หมายเหตุ
จตุรารักขกัมมัฏฐาน คือ 1. เจริญพุทธานุสติ ระลึกถึงคุณของพระรัตนตรัย
2. เจริญอสุภกัมมัฏฐาน พิจารณากายให้เห็นเป็นของปฏิกูล
3. เจริญเมตตา แผ่เมตตาให้ตนเองและผู้อื่น
4.เจริญมรณานุสติ พิจารณาความตายทั้งของตนเองและของผู้อื่น โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล
“#พระอริยบุคคล”
ถาม : กราบนมัสการครับพระอาจารย์ ขอถามครับ โสดาบันนี้ยังมีกิเลสอยู่ใช่ไหมครับ แต่ไม่มีเหมือนปุถุชนทั่วไป ภูมิโสดาบันนี้คืออริยะเบื้องต้นใช่ไหมครับ เหนือกว่า เทพ อินทร์ พรหม ใช่ไหมครับ แต่คนทั่วไปจะมองดูไม่รู้ด้วยตา จะต้องปฏิบัติเองใช่ไหมครับ ขอความกรุณาพระอาจารย์อธิบายขยายความด้วยครับ
พระอาจารย์ : ใช่ทั้งหมดแหละที่ถามมา #พระอริยบุคคลขั้นที่ ๑ #นี้ท่านได้กำจัดกิเลสบางส่วนไปแล้ว ๓๐ % ละสังโยชน์ได้ ๓ ตัว สังโยชน์มีทั้งหมด ๑๐ ตัว กิเลสมีอยู่ ๑๐ ตัว พระโสดาบันละได้ ๓ ตัว แล้วถ้าปฏิบัติต่อไปก็จะละได้อีก ๒ ตัว เป็น ๕ ตัว แล้วปฏิบัติขั้นสุดท้ายก็จะละอีก ๕ ตัว เป็น ๑๐ ตัว
ดังนั้น พระอริยบุคคลนี้ไม่เหมือนกับคนธรรมดา เพราะท่านกำจัดกิเลสได้ ทำให้การกลับมาเกิดนี้น้อยลง นับชาติที่เหลือได้ เช่น...พระโสดาบันนี้จะกลับมาเกิดไม่เกิน ๗ ชาติ กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ไม่เกิน ๗ ชาติ ถ้าเป็นพระอนาคามี ก็ไม่เกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป แต่ยังต้องกลับไปเกิดเป็นพรหมอยู่ แล้วส่วนพระอรหันต์นี้ก็ไม่เกิดเป็นพรหมเลย จะไม่เกิดเป็นอะไรทั้งหมด อันนี้ก็เป็นเรื่องของพระอริยบุคคล.
ธรรมะบนเขา วันที่ ๑๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๑ (พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต) วัดญาณสังวรารามฯ จังหวัดชลบุรี ณ จุลศาลา เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน
|