เสาร์ 08 มี.ค. 2025 5:23 am
#เพราะธรรมก็ชื่อว่าทำ
"..คนสมัยใหม่นี่เป็นคนสุขสบาย คือไม่อยากทำแต่อยากได้...มันเป็นไปไม่ได้ เพราะธรรมก็ชื่อว่าทำอยู่แล้ว คือจะต้องลงมือทำ จะต้องใช้ร่างกายทำ ไม่ใช่ว่าเราพูดทำได้ คือเราพูดให้เป็นวัตถุเป็นสมบัติเป็นอะไร ให้มันเป็นขึ้นมา มันเป็นไม่ได้หรอก มันเป็นได้ก็เพราะการทำ เราจึงพูดว่าธรรม เราทำมันน้อยไปมันก็ไม่เห็นเพราะว่าพระพุทธเจ้าเราทำมามาก ทำมาจนเกินหล่ะทีนี้ จนว่าสละชีวิต เลือดเนื้อร่างกายทุกอย่าง พระองค์สละหมดแล้วไม่ห่วงคือไม่ห่วงร่างกายไม่ห่วงชีวิต.."
โอวาทธรรม
#หลวงพ่อประสิทธิ์_ปุญญมากโร
สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เราต้องหาประโยชน์ในด้านธรรมะให้ได้ หลักการสำคัญที่สุดก็คือ อะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม เราต้องรักษาความผ่องใสของใจเอาไว้ให้ได้ อย่าได้หวั่นไหวไปกับสิ่งต่าง ๆ รอบข้าง อะไรที่ดีเกิดขึ้นกับเรา จิตใจก็อย่าฟูมากนัก อะไรที่ร้ายเกิดขึ้นกับเรา ก็อย่าห่อเหี่ยวแฟบฟุบมากจนเกินไป รักษาสภาพจิตของเราให้มั่นคง แน่วนิ่ง ไม่หวั่นไหว ไม่ยินดีและไม่ยินร้าย ถ้าทำอย่างนั้นได้โอกาสที่เราจะหลุดพ้นจากกองทุกข์นี้จึงจะมีขึ้นมาได้
...................................
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
www.watthakhanun.com#บุญเกิดจากการปฏิบัติจึงเป็นบุญที่ถูกต้อง
เป็นบุญที่บริสุทธิ์ เป็นบุญที่ไม่หวังเอาหน้าเอาตา เอาเกียรติ เอายอด
เอาความยิ่งใหญ่อะไรมาเป็นใจของเรา เรียกว่า
เป็นธรรมะเป็นกลาง ธรรมะเป็นหลักหนึ่งเดียวเท่านี้.
โอวาทธรรม
#หลวงพ่อประสิทธิ์_ปุญญมากโร
#เรื่องของบุญ
เปรียบเหมือนกับว่า ฝนตกลงในโอ่งใหญ่ๆ เรื่องทำบุญก็เหมือนกัน เรามีน้อย เราก็ใส่ตามที่เรามี ตามฐานะที่เราหามาได้ด้วยความบริสุทธิ์ เราก็ได้บุญมาก เหมือนเม็ดฝนที่ตกลงในโอ่ง มันตกที่ละเม็ด แต่มันตกตลอดทั้งวันทั้งคืน มันก็เต็มโอ่งใหญ่ ๆได้
โอวาทธรรม
#หลวงพ่อประสิทธิ์_ปุญญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
.
#วิธีสิ้นทุกข์
วิธีสิ้นทุกข์ทำยังไง เรามีการให้ทาน เป็นปกติ ถ้าอารมณ์เราพร้อมเพรียง ในทาน ก็ชื่อว่าเป็นการตัดโลภะ ความโลภ เรามีเมตตาเป็นปกติ อารมณ์ของเมตตาที่้เราทรงอยู่คือ รักษาศีลได้ ถ้ามีเมตตาอยู่ศีลมันก็ไม่ ขาด ถ้ามีเมตตาอยู่เป็นปกติ นอกจาก มีเมตตาอยู่ศีลไม่ขาดแล้ว เมตตามันยัง เป็นตัวทำลายโทสะเราก็มาพิจารณา หาความจริงว่า
"ชาติปิ ทุกขา ความเกิดเป็นทุกข์" เจ้าอยากเกิดนี่ มันจะทุกข์อย่างไรก็ ช่างมัน ใจเราก็วางเฉยไว้
"ชราปิ ทุกขา ความแก่เป็นทุกข์" อาการงกๆ เงิ่นๆ ร่างกายไม่แข็งแรง ไม่กระปรี้กระเปร่า มีความปรารถนา ไม่สมหวังเพราะทำเองไม่ได้แล้วเรา ก็เลยมีทุกข์ ถือว่านี่เป็นเรื่องธรรมดา ของคนแก่ เกิดมาเพื่อแก่
"มรณัมปิ ทุกขัง ความตายเป็นทุกข์" เรื่องของชาวบ้านธรรมดาเราไม่ทุกข์ ถือว่าเป็นกฎธรรมดา ตายเสียได้ก็ดี เพราะมันจะได้หมดเรื่องยุ่ง แล้วเราเห็น ว่าขันธ์ ๕ เป็นโทษเป็นทุกข์สำหรับเรา เราก็เลยคิดต่อไปว่า ขึ้นชื่อว่าขันธ์ ๕ ความเกิดมามีร่างกายขันธ์ ๕ แบบนี้จะ ไม่มีสำหรับเราอีก เราจะไม่โง่ยอมรับ นับถือให้มีร่างกายต่อไป ถ้าอารมณ์ใจ ของเราคิดไว้อย่างนี้เป็นปกติ เราก็จะ หมดความทุกข์ มันค่อยๆ เข้าใจไปเอง
นี่เป็นบทที่บรรดาพุทธบริษัทควรจะคิด ให้เป็นปกติ เพื่อความเข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน นี่เป็นวิปัสสนาญานตัวสุดท้าย
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
____________
จากหนังสือธรรมวิโมกข์ ปีที่ ๓๗ ฉบับที่ ๔๑๘. หน้า ๖๒ คัดลอกโดย คณะบุญสุประวีณ์
#ต้องใช้สติต่างเชือก_มัดจิตไว้กับหลัก
คือ ลมหายใจให้ได้
จิตคิดวิ่งไปที่ไหน ก็ใช้สติระลึกรู้ตาม ไปประคองจิตไว้
ไม่ให้คิดในเรื่องชั่ว อันเป็นบาปทุจริต ประคองจิตไว้
ให้คิดในเรื่องดี อันเป็นบุญสุจริตเท่านั้น
ความผ่องใสในจิต จะเกิดเพิ่มขึ้น ... ความทุกข์ ก็จะค่อยสิ้นไป
มีสติรู้ตัว รู้ลมหายใจเข้า-ออก ... มีสติรู้ตัว ทุกอิริยาบถของร่างกาย
มีสติระลึกรู้ตัว ตั้งแต่ตื่นนอนลืมตาขึ้นมา ยืน เดิน นั่ง นอน
แม้จะยังไม่บริบูรณ์ ด้วยจิตหนีหายหลบไป เมื่อรู้ตัวก็กำหนดสติต่อไป
จะเกิดผล!! เป็นผู้มี "พลังสติคุมจิต" ตั้งมั่นเกิด "สมาธิ"
โอวาทธรรม
#หลวงพ่อประสิทธิ์_ปุญญมากโร
คนเฮา เมื่อยังไม่ถึงเวลาจะได้
เทวดาฟ้าดินที่ไหน ก็บันดาลช่วยบ่ได้
แต่เมื่อถึงเวลาจะได้ ช้างร้อยเชือก ก็ดึงไว้บ่อยู่
หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต
“ไม้มันเอนไปทางไหนมันก็ล้มไปทางนั้น ผู้ทำบุญก็เหมือนกัน ทำบุญก็ต้องได้บุญ ทำบาปก็ต้องได้บาป คนดี-คนชั่วไม่ต้องนั่งญาณดูหรอก ดูแค่การกระทำในวันนี้“
#พระอาจารย์โสภา สมโณ
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
#การฝึกตนดีแล้วจึงฝึกผู้อื่น ชื่อว่าทำตามพระพุทธเจ้า
"..ปุริสทมฺมสารถิ สตฺถา เทวมนุสฺสานํ พุทฺโธ ภควา
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงทรมานฝึกหัดพระองค์จนได้ตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็น พุทฺโธ ผู้รู้ก่อนแล้วจึงเป็น ภควา ผู้ทรงจำแนกแจกธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ สตฺถา จึงเป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้ฝึกบุรุษผู้มีอุปนิสัยบารมีควรแก่การทรมานในภายหลัง จึงทรงพระคุณปรากฏว่า กลฺยาโณ กิตฺติสทฺโท อพฺภุคฺคโต ชื่อเสียงเกียรติศัพท์อันดีงามของพระองค์ย่อมฟุ้งเฟื่องไปในจตุรทิศจนตราบเท่าทุกวันนี้ แม้พระอริยสงฆ์สาวกเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้วก็เช่นเดียวกัน ปรากฏว่าท่านฝึกฝนทรมานตนได้ดีแล้ว จึงช่วยพระบรมศาสดาจำแนกแจกธรรม สั่งสอนประชุมชนในภายหลัง ท่านจึงมีเกียรติคุณปรากฏเช่นเดียวกับพระผู้มีพระภาคเจ้า ถ้าบุคคลใดไม่ทรมานตนให้ดีก่อนแล้ว และทำการจำแนกแจกธรรมสั่งสอนไซร้ ก็จักเป็นผู้มีโทษ ปรากฏว่า ปาปโกสทฺโท คือเป็นผู้มีชื่อเสียงชั่วฟุ้งไปในจตุรทิศ เพราะโทษที่ไม่ทำตามพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์สาวกเจ้าในก่อนทั้งหลาย.."
มุตโตทัย
โอวาทธรรมโดย พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร จากหนังสือประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเทระ
"..สิ่งใดเป็นไปเพื่อทุกข์ เป็นไปเพื่อโทษ ก็รีบชำระสะสางให้หมดสิ้นไปจากดวงใจของเรา ให้พึงเข้าใจในสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอมิใช่ว่าเราไม่รู้ คือให้รู้ภายในจิตใจของตน อย่าส่งรู้ออกภายนอกจิตใจของตน ให้พากันดูให้พากันฟัง สมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งมีอยู่ในตัวเราทุกคนครบบริบูรณ์ ขณะนี้เราอยู่ในสมถกรรมฐาน คือความสงบ วางอารมณ์ภายนอกทังหมดได้ ไม่กำหนัดรักใคร่ยินดี ใจไม่หงุดหงิด ไม่ซึมเซา ไม่ท้อแท้ และไม่งมงาย เราอยู่ในวิปัสสนากรรมฐาน ก็ตัดหมด ตัดภพ ตัดชาติทั้งหลาย อารมณ์สัญญาที่เป็นไปตามกระแสโลกตัดหมด ไม่มีเหลือ เป็นเรื่องสมมตินิยมกันเท่านั้น จิตของเราเป็นวิมุติ หลุดพ้นไปหมด เรื่องภพ เรื่องชาติ เรื่องทุกข์ เรื่องภัย ไม่มีอีกแล้ว นี้แหละเป็นข้อปฏิบัติ.."
อาจาโรวาท
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ. พรรณานิคม จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
เหมือนกับผลไม้หวานๆ ใบหนึ่ง ผลไม้นั้นมันหวานอยู่ก็จริง #แต่ว่ามันต้องอาศัยการกระทบประสบจึงรู้ว่ามันหวานหรือมันเปรี้ยวจริงผลไม้นั้น #ถ้าไม่มีอะไรกระทบ มันก็หวานอยู่ตามธรรมชาติ หวานแต่ไม่มีใครรู้จัก
เหมือนธรรมะของพระพุทธเจ้าของเรา เป็นสัจธรรมจริงอยู่ก็ตาม #แต่สําหรับคนที่ไม่รู้จริงนั้นก็เป็นของไม่จริง #ถึงมันจะดีเลิศประเสริฐเท่าไรก็ตามทีเถอะ มันไม่มีราคาเฉพาะกับคนที่ไม่รู้เรื่อง
ฉะนั้น จะไปเอาทุกข์ทําไม ใครในโลกนี้อยากเอาทุกข์ใส่ตัว มีไหม ไม่มีใครทั้งนั้นแหละ #ไม่อยากได้ทุกข์แต่ว่าสร้างเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้นมา มันก็เท่ากับเราไปแสวงหาความทุกข์นั่นเอง แต่ใจจริงของเราแสวงหาความสุขไม่อยากได้ทุกข์ นี่มันก็เป็นของมันอยู่อย่างนี้ #ทําไมจิตใจของเรามันสร้างเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้นมาได้ #เรารู้เท่านี้ก็พอแล้ว
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
“จำไว้นะ ถ้าไม่มีใครคบ จงเลือกเดินคนเดียว
ถ้าหาคนมีศีลเสมอกัน หรือสูงกว่าเดินไปด้วยกัน
ไม่ได้ พระพุทธองค์ทางให้เลือกเดินคนเดียว
เพราะเลือกคบคนอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคบคนพาลคนโกง หลงกามคุณ ถ้าสติเราไม่พอ อีกไม่นาน เราก็จะซึมซับสิ่งเหล่านั้นได้โดยไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มีคนที่มีศีลธรรมรอบตัวเลย
จงเลือกเดินคนเดียว และมีสติเป็นเพื่อน”
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องคุ้มกันมากเท่ากับ “สติ”
ท่านพุทธทาสภิกขุ