#กระแสน้ำที่มันไหลมา ไม่ต้องกางกั้นมัน ให้มันไหลไปตามสะดวกของมันนั้นแหละ #เพราะมันไหลอย่างนั้น #กระแสธรรมก็เป็นอย่างนั้น กระแสจิตของเราที่ไม่รู้จัก มันไปกางกั้นธรรมะด้วย ที่ว่าเป็นมิจฉาทิฏฐิ แล้วไปตะโกนโน้น มิจฉาทิฏฐิ อยู่ที่โน้น คนโน้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ #แต่ตัวเราเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ #คือทุกข์เกิดขึ้นมา #เพราะเราเป็นมิจฉาทิฏฐิ อันนั้นเราไม่รู้เรื่อง อันนี้ก็น่าสังเกตน่าพิจารณาเหมือนกันนะ #ถ้าเป็นมิจฉาทิฏฐิเมื่อไรก็เป็นทุกข์เมื่อนั้น ไม่ทุกข์ในเวลาปัจจุบันนั้น ต่อไปมันก็ให้ผลมาเป็นทุกข์
อันนี้พูดเฉพาะคนเรามันหลงเท่านั้น อะไรมันปิดไว้ อะไรมันบังไว้ #สมมุติมันบังวิมุตติให้คนมองไม่เห็นชัดในธรรมทั้งหลาย ต่างคนก็ต่างศึกษา ต่างคนก็ต่างเล่าเรียน ต่างคนก็ต่างทํา แต่ทําด้วยความไม่รู้จัก ก็เหมือนกันกับคนหลงตะวันนั้น แหละ เดินไปทางตะวันตก เข้าใจว่าเดินไปทางตะวันออก หรือเดินไปทิศเหนือ เข้าใจว่าเดินไปทิศใต้ มันหลงขนาดนี้
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
"..เรือแห่งชีวิตที่เราเคยขี่มานาน ด้วยอำนาจแห่งกิเลส กรรม วิบาก อันเป็นประดุจลูกคลื่นนั้น เมื่อถึงชายฝั่งแล้ว เราก็ทิ้งเรือไม่แบกเรือขึ้นฝั่งไปด้วย” เรือคืออะไร ก็คือศีล คือธรรมทั้งหลาย ที่ปฏิบัติมา เป็นประดุจลำเรือ อาศัยปัญญาเป็นเครื่องนำทาง อาศัยพระพุทธเจ้าเป็นเครื่องส่องทิศ อาศัยครูบาอาจารย์เพื่อเดินสู่จุดหมาย มีพระธรรมวินัยเป็นแผนที่ มีพระสงฆ์เป็นลูกเรือ เมื่อถึงฝั่งอย่างที่เราต้องการแล้ว ย่อมทิ้งเรือต่างๆ ไว้เบื้องหลัง เป็นเอกจิต เอกธรรมชั่วนิรันดร.."
#เทศนาธรรมคำสอน พระครูสุทธิธรรมรังษี (หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท) วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี (พ.ศ.๒๔๕๙-๒๕๔๗)
นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ กตญฺญูกตเวทิตา ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายแห่งคนดี
ความกตัญญูกตเวที เป็นพื้นฐานของการเป็นคนดี
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระอนุศาสน์สั่งสอนไว้ว่า "ความกตัญญูกตเวที เป็นพื้นฐานของการเป็นคนดี" ดังนี้ .., บุคคลใดที่ประสงค์จะประสบความสุขความเจริญในชีวิต บุคคลนั้นต้องอบรมสั่งสมความดีให้เพิ่มพูนขึ้นในการกระทำทางกาย วาจา และใจของตนอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี … ความดีทุกประการจะงอกงามขึ้นไม่ได้เลย หากปราศจากภูมิธรรมสำคัญเป็นรากฐานประดุจผืนดินอันอุดม กล่าวคือ "กตัญญู" รู้คุณท่าน และ "กตเวที" ตอบแทนบุญคุณท่านผู้มีอุปการคุณ
พระคติธรรม สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
"..พระพุทธศาสนาสอนอย่างไรบ้าง เราต้องขบให้แตก ก็เรื่องศีลห้า เท่านั้นแหละ การรบราฆ่าฟันจะมาจากประตูไหน เท่านั้นพอแล้ว ถ้าโลก ทั้งหลายเต็มไปด้วยศีลห้า ศีลห้าเป็นทรัพย์มากกว่าแผ่นดิน แผ่นฟ้า ผู้ใดมีศีลห้าบริสุทธิ์ ผู้นั้นจะขอทานเขากินก็ตาม ก็คล้ายกับว่ามีทรัพย์ เก็บไว้ครอบแผ่นดินแล้ว ทรัพย์ภายในเรียกว่า อริยทรัพย์ ผู้ใดจะมี เงินหมื่น เงินล้าน เงินเท่าไหร่ก็ตาม เมื่อศีลห้าไม่มี เมื่อหิริ ความละอาย ต่อบาปไม่มี โอตัปปะ ความกลัวบาปก็ไม่มี กิน คอรัปชั่น-รัปเชิ่นอะไรสารพัด คนนั้นแหละนายรับเหมานรก...(หัวเราะ)...นรกอยู่ที่ใจนายรับเหมานรก จะแสดงเป็นผู้วิเศษวิโสเพียงใดก็ตามเถิด การแสดงนั้นก็เป็นการโกหก พกลมตนอยู่ในตัว ทำใจตนให้เป็นหมัน ทำใจตนให้เป็นคนนอนใจเสีย อีกด้วย.."
#พระธรรมคำสอน หลวงปู่หล้า เขมปัตโต วัดบรรพคีรี (ภูจ้อก้อ) ต.หนองสูง อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร (พ.ศ.๒๔๕๔–๒๕๓๙)
"..ธาตุมนุษย์เป็นธาตุตายตัว ไม่เป็นอื่นเหมือน นาค เทวดาทั้งหลายที่เปลี่ยนเป็นอื่นได้ มนุษย์ มีนิสัยภาวนาให้สำเร็จง่ายกว่าภพอื่น อคฺคํ ฐานํ มนุสฺเสสุ มคฺคํ สตฺต วิสุทฺธิยา มนุษย์มีปัญญาเฉียบแหลมคม คอยประดิษฐ์ กุศล อกุศล สำเร็จอกุศล...มหาอเวจีเป็นที่สุด ฝ่ายกุศล มีพระนิพพานให้สำเร็จได้ ภพอื่นไม่เลิศเหมือนมนุษย์ เพราะมีธาตุที่บกพร่อง ไม่เฉียบขาดเหมือนมนุษย์ ไม่มีปัญญากว้างขวางพิสดารเหมือนมนุษย์ มนุษย์ธาตุพอหยุดทุกอย่าง สวรรค์ไม่พอ อบายภูมิธาตุไม่พอ มนุษย์มีทุกข์ สมุทัย...ฝ่ายชั่ว ฝ่ายดี...กุศลมรรคแปด นิโรธ รวมเป็น ๔ อย่าง มนุษย์จึงทำอะไรสำเร็จ ดังนี้ ไม่อาภัพเหมือนภพอื่น.."
#เทศนาธรรมคำสอน พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร บันทึกธรรมโดยหลวงปู่หลุย จันทสาโร
#สติธรรม มันเป็นกฎธรรมชาติ "เหมือนที่เราอ่านหนังสือ ถ้าเราอ่านหนังสือแกว่งไปแกว่งมามันจะรู้เรื่องไหม ยิ่งแกว่งไปแกว่งมาเร็วๆ ยิ่งดูไม่รู้เรื่องเลย ฉะนั้น การอ่านหนังสือดูหนังสือ ต้องให้หนังสืออยู่นิ่งๆ ตัวเราก็อยู่นิ่งๆ เมื่อเราอ่านเราจะเข้าใจ นั้นคือความเป็นธรรมชาติ ความตั้งใจ ตั้งสติ ตั้งหนังสือ ตั้งตัวตั้งอยู่นิ่งๆ แล้วอ่านมัน ถึงจะรู้มัน ถึงจะเข้าใจ"
#โอวาทธรรม #หลวงปู่อุทัย สิริธโร #วัดเขาใหญ่ญาณสัมปันโน
"..ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี ที่หาได้ยากยิ่ง.." แม้เพียงการตั้งใจนึกไว้ให้เสมออย่างน้อยวันละครั้งก็ยังดี ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งที่สำเร็จด้วยใจ นี้เป็นพระพุทธศาสนสุภาษิต ขอให้นึกถึงพระพุทธศาสนสุภาษิตนี้
ทำความเข้าใจให้ถูกต้องชัดเจนว่าใจของเราทุกคนเป็นใหญ่ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ความรู้พระคุณท่านผู้ใดก็ตามก็เกิดที่ใจ ดังนั้นการตอบแทนพระคุณท่านก็ทำได้ด้วยใจ อะไรอื่นก็ไม่สำคัญไปกว่าใจ ใจรู้พระคุณท่านได้ ใจก็ตอบแทนพระคุณท่านได้
เพียงให้เป็นความรู้พระคุณท่านจริงใจเท่านั้น ความสำเร็จก็จะเกิดตามมาแน่นอน ดังพระพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "..ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ.." ทั้งที่ดีชั่วไม่ได้เกิดแต่อะไรอื่นเป็นสำคัญ เกิดแต่ใจที่มุ่งดีหรือไม่มุ่งดีเท่านั้นเป็นสำคัญ.."
สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร
“จำไว้นะ ถ้าไม่มีใครคบ จงเลือกเดินคนเดียว ถ้าหาคนมีศีลเสมอกัน หรือสูงกว่าเดินไปด้วยกัน ไม่ได้ พระพุทธองค์ทางให้เลือกเดินคนเดียว เพราะเลือกคบคนอย่างไร เราก็จะเป็นอย่างนั้น
ถ้าคบคนพาลคนโกง หลงกามคุณ ถ้าสติเราไม่พอ อีกไม่นาน เราก็จะซึมซับสิ่งเหล่านั้นได้โดยไม่รู้ตัว
ถ้าไม่มีคนที่มีศีลธรรมรอบตัวเลย จงเลือกเดินคนเดียว และมีสติเป็นเพื่อน”
หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องคุ้มกันมากเท่ากับ “สติ”
ท่านพุทธทาสภิกขุ
|