นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 11 เม.ย. 2025 2:19 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: รักษาศีล 5
โพสต์โพสต์แล้ว: พุธ 12 มี.ค. 2025 4:54 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4886
คาถารักษาโรคกรรมอันเกิดแต่กรรม

ครั้งหนึ่งเมื่อพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พักอยู่บ้านจีด มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งไอทั้งวันทั้งคืน แม้ขณะฟังเทศน์ ก็ไอตลอดเวลารบกวนสมาธิของผู้อื่นเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อเทศน์จบพระอาจารย์ฝั้นจึงถามว่า ทำไมไม่รักษา

โยมนั้นก็ตอบว่า กินยานับขนานไม่ถ้วนก็ยังไม่หาย

ท่านจึงบอกโยมผู้นั้นว่า คงเป็นกรรมที่ทำมาแต่ปางก่อน ขอให้หัดภาวนา แล้วท่านบอกคาถาให้บริกรรมว่า

" ปฏิกะ มันตุ ภูตานิ "

ท่านให้ภาวนาตั้งจิตบริกรรม โดยกำหนดจิตที่ใดที่หนึ่ง

วันแรกนั่งบริกรรมได้สักพักก็ยังไออยู่ตลอด

วันที่สองปรากฎว่ามีอาการค่อยชุ่มคอขึ้น อาการไอห่างไปบ้าง

พอถึงวันที่สามอาการไอก็หายราวกับปลิดทิ้ง รู้สึกคอชุ่มขึ้น โยมผู้นั้นนั่งบริกรรมอยู่จนดึกดื่น ใครๆเขาหลับกันหมดก็ยังไม่ยอมหลับ ในที่สุดอาการไอก็หาย โดยเด็ดขาดตั้งแต่ วันนั้นเป็นต้นมา

พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จังหวัดสกลนคร








"มีสติ รู้ตัว พูดจาให้น้อยลง
พูด เท่าที่จำเป็น จะต้องพูด
ด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่

การพูดมาก มีโอกาส พูดผิดได้มาก
ไม่เกิดประโยชน์ แล้วยัง เป็นโทษอีกด้วย
เป็นผู้ฟัง แล้วตามคิด เลือกจำสิ่งดีๆ มาใช้
จะได้ ประโยชน์กว่า

คนพูดมาก มักขาดสติง่าย
เป็น ผู้ฟังที่โทษน้อย หรือไม่มีเลย
แต่ เป็นผู้ได้รู้มากกว่า ผู้พูด"

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่






"ตายแล้วจะมาขอกันกินเหมือนตอนมีชีวิตอยู่ไม่ได้นะ
รีบเร่งสร้างบุญกุศลให้เป็นที่พึ่งเถิด

มนุษย์เฮาบ่ว่ารวยหรือจนกะกินข้าววันละสามครั้งคือกัน! กินกะได้แค่อิ่ม
ตอนเป็นมนุษย์อยู่นี้ให้พากันสร้างไว้หลายๆ กรรมดี
เพราะว่าตอนเป็นมนุษย์นี้ คนบ่มีกะยืมกันกินได้ ขอกันกินได้ หาเก็บ ผัก หาปลา มากินได้ เดินบ่ได้กะแบกกะหามกันไปนั้นมานี้ได้
แต่ข้างหน้านั้นมันขอกันกินบ่ได้ ยืมกันกินบ่ได้ เป็นไปตามกรรมไผมันเด้อ

เป็นฆราวาสมีครอบครัวบ่ต้องเอาหยังหลาย
สวดมนต์ไหว้พระทุกวันก่อนนอน แล้วกะตอนเช้าตื่นนอน นั่งภาวนาเช้าแลงให้ได้วันละ 20 นาทีแค่นี้เหลือกินแล้ว
เฮ็ดไปทุกวันๆ แบบนี้ คือเฮากินข้าวทุกวัน บางวันกะกินกับพริกกับกินเกลือ กินไปทุกๆ วัน มันสิเจอเองของดี…"

#หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร
วัดถ้ำสหายธรรมจันทร์นิมิต จ.อุดรธานี






"พากันจำไว้ให้ดี วันนี้อาตมาก็พูดมาก็มาก พูดเรื่องนี้แหละให้บำเพ็ญจิตดวงนี้ไม่ต้องเสียเงิน ไม่ต้องไปแสวงหาที่ไหน ไม่ต้องไปปฏิบัติธรรมที่นั่น ไม่ต้องไปปฏิบัติธรรมที่นี่

แก้จิตดวงนี้ อยู่ที่ไหนก็แก้ ถ้าจิตมีกำลังเพียงพอบารมีแก่กล้าขึ้นมา ตาในเกิดขึ้น อยู่ในโลกไม่ได้แล้วเรื่องสวยเรื่องงามเป็นร่างกระดูกหมด ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องสวยเรื่องงาม ตาในท่านว่าสว่างจ้าขึ้นมาชัดเจน ชัดเจนสลดสังเวชในใจเจ้าของเอง

ให้สร้างพุทโธตัวนี้ทุกวันทุกวัน เกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนาแล้วอย่าพากันประมาท เสียเงินเสียทอง พากันจำให้ดี เอาละวันนี้พูดมากก็เหนื่อยขอยุติไว้แค่นี้จบพอ…"

#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวก จ.บึงกาฬ







"...ใส่บาตรก็เป็นมหาบุญ
ไปจังหันถวายเพลก็มหาบุญ
เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่นี่ก็มหาบุญ
กราบพระรัตนตรัยก็เป็นมหาบุญ
ยิ่งรักษาศีลภาวนา นั่นล่ะ ยิ่งมหาบุญ ไม่ต้องเสียตังค์ แต่ได้บุญมาก
ไม่ใช่ว่าจะมีแต่บุญกฐิน ที่เป็นมหาบุญ เพียงแต่กฐิน มันตามกาล แต่นอกนั้น ทำบุญได้ตลอดเลย..."

#หลวงพ่อโสภา สมโณ
วัดแสงธรรมวังเขาเขียว จ.นครราชสีมา







"..หลวงพ่อทำสมาธิมาตั้งแต่เล็กจนโต ๘๐ ปี สำหรับเวลาทำสมาธิ จนมาถึงเดี๋ยวนี้หลวงพ่อก็ยังไม่ลืมพุทโธ พุทโธ ต้องกำกับไว้

เพราะว่าธุลีคืออารมณ์ต่างๆนี้ มันไม่ได้เลือกใคร
มันเข้าสู่ใจได้ทุกคนๆ ต่างคนต่างแบกหามอารมณ์
อารมณ์มันจะกลายไปเป็นอุปทาน

เพราะฉะนั้น เมื่อเราได้นึกพุทโธแล้ว ก็เป็นอันว่าได้ชำระอารมณ์ให้ออกไป เมื่อชำระอารมณ์ออกไปได้
มีอารมณ์ดีก็เข้ามา

ถ้าชำระอารมณ์ไม่ดีอารมณ์ชั่ว ชำระออก
อารมณ์ชั่วที่ชำระไม่ออก ความคิดมันก็ทำให้เศร้าหมอง

ทีนี้พอเกิดอารมณ์ นั่นก็หมายความว่า พุทโธ
เมื่อเรานึกพุทโธ ก็จะเป็นอารมณ์อันหนึ่ง อารมณ์อันนี้จะเป็นอารมณ์ดี ที่ชักชวนอารมณ์ที่ไม่พาให้เศร้าหมอง เกิดขึ้นกับตัวของเรา นี่เป็นประการสำคัญ
เพราะว่าเราจำเป็นต้องเป็นผู้ไม่ประมาทอยู่ตลอดเวลา

ร่างกายของเรานี้เราได้มา แต่ว่าร่างกายอันนี้มันจะต้องสลายตัวไป ไม่รู้วันใดวันหนึ่งมันก็จะต้องสลายตัวไปแน่ เมื่อสลายตัวไปแล้วเราจะเอาอะไรไป

ถ้าเราไม่มีการชำระอารมณ์ด้วยพุทโธ เราก็จะเอาอารมณ์ที่เป็นสิ่งไร้สาระ หรือว่าอารมณ์ที่ไม่ดีต่างๆ
มันก็จะเข้ามาหาเรา ในขณะที่เวลา เราจะต้องหมดลมหายใจตายไป ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ถือว่าขาดทุน
ในการเกิดเป็นมนุษย์ครั้งหนึ่ง.."

สมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงปู่วิริยังค์ สิรินฺธโร)
คัดจากหนังสือ ๑๐๐ คำสอน พระพรหมมงคลญาณ
พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร หน้า ๑๑๕-๑๑๖







"มีสติ รู้ตัว พูดจาให้น้อยลง
พูด เท่าที่จำเป็น จะต้องพูด
ด้วยความมีสติ รู้ตัวอยู่

การพูดมาก มีโอกาส พูดผิดได้มาก
ไม่เกิดประโยชน์ แล้วยัง เป็นโทษอีกด้วย
เป็นผู้ฟัง แล้วตามคิด เลือกจำสิ่งดีๆ มาใช้
จะได้ ประโยชน์กว่า

คนพูดมาก มักขาดสติง่าย
เป็น ผู้ฟังที่โทษน้อย หรือไม่มีเลย
แต่ เป็นผู้ได้รู้มากกว่า ผู้พูด"

หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร
วัดป่าหมู่ใหม่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่







#ถ้าไม่มีสติ

จะนั่งจนตาย ก็ไม่เกิดประโยชน์
เดินจงกรม จนขาหัก ก็ไม่ได้เรื่องได้ราว อยู่กับสติเป็นสำคัญ ถ้าสติติดแนบอยู่กับความเพียรแล้ว อยู่ที่ไหนก็เป็นความเพียรตลอด
... สตินี้จะเป็นธรรมคุ้มครองจิตใจของเราให้เป็นความสงบเย็นใจลงไปได้เป็นลำดับลำดา ...

โอวาทธรรม
#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน






"ถาม : #ในมหาสติปัฏฐานบอกว่า
ทางนี้...เป็นทางสายเดียว เพื่อความพ้นทุกข์
ก็มีต้องพิจารณากาย เวทนา จิต ธรรม ผู้ที่จะพ้นทุกข์ จะต้องพิจารณาทั้ง๔ อย่าง ทั้งหมด หรือเปล่าครับ ?

ตอบ : กาย เวทนา จิต ธรรม น่ะ
อันนี้ มันของอย่างเดียวกัน
รู้อันหนึ่ง ก็เหมือนรู้หมด เหมือนเรารู้คน
คนหนึ่ง ก็รู้หมดทุกคนในโลก
เหมือนเรา รู้จักลิงตัวหนึ่ง ลิงตัวอื่นนอกนั้น เหมือนลิงตัวนี้...เหมือนกัน

นี่จะพูดกันง่าย ๆ
หลักใหญ่ของสติปัฏฐาน มันเป็นอย่างนี้
อันนั้น มันเป็นลักษณะของมัน
เมื่อรู้กาย เวทนา จิต ธรรม
สักแต่ว่า กาย
สักแต่ว่า เวทนา
สักแต่ว่า จิต
สักแต่ว่า ธรรม
มันเป็นสักแต่ว่าทั้งนั้นแหละ ทั้ง ๔ นั่นน่ะ
มันก็พอแล้วนะ

ถึงแม้ว่า...มันจะรู้อันเดียว มัน ก็ได้

โอวาทธรรม
#หลวงพ่อชา_สุภัทโท
วัดหนองป่าพง
ที่มา: จากมรดกธรรมเล่มที่ ๓๔
คำตอบหลวงพ่อชา สุภัทโท หน้า ๕๑






#ที่จริงสิ่งที่ควรได้ของทุกคนมีอยู่

แต่แม้เป็นสิ่งที่ควรได้เพียงใดก็ตาม หากไม่มีความโลภอยากได้
ก็จะไม่เป็นทุกข์เมื่อจะเกิดไม่ได้ในสิ่งที่ควรได้
ตรงกันข้ามกับผู้มีความโลภ แม้ไม่ได้สิ่งที่ไม่ควรได้
ก็ยังเป็นทุกข์ อย่าว่าแต่จะไม่ได้สิ่งที่ควรได้เลย

และการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนเป็นลาภ
ยศสรรเสริญ คือทางดำเนินที่ถูกต้องไปสู่ความละ
ความโลภในขั้นต้นสำหรับทุกคน จึงควรที่ทุกคน
ผู้ปรารถนาความสงบเย็นจากความไม่โลภจะหัด
เป็นผู้ให้เสียแต่บัดนี้เป็นต้นไป เริ่มทำเหตุดีเมื่อใด
จักได้รับผลดีเมื่อนั้นแน่นอน...

โอวาทธรรม
#สมเด็จพระญาณสังวร ( เจริญ สุวฑฺฒโน )
ที่มา หนังสือ ความสุขหาได้ไม่ยาก






#ขอร้องไว้ประการหนึ่งว่า_เมื่อท่านเป็นอุบาสก

ขอให้เป็นอุบาสกที่แท้จริง คือขอจงรักษาศีล ๕ ให้ได้อย่างบริสุทธิ์ อย่าให้ด่างพร้อย เพราะศีล ๕ หรือเบญจศีลนั้นเป็นวินัยพื้นฐานสำหรับความเป็นมนุษย์ ขอให้ทุกท่านเป็นผู้มีมนุษยธรรม คือ มีศีล ๕ เป็นวินัยประจำชีวิต รับรองว่าท่านจะไม่มีวันตกต่ำ และจะยิ่งรุ่งเรืองด้วยโภคสมบัติ มีสุคติ และพระนิพพานเป็นที่หมายได้ในเบื้องหน้า..

โอวาทธรรม
#สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ_สมเด็จพระสังฆราช_สกลมหาสังฆปริณายก







#การภาวนาอย่าเข้าใจว่าเป็นของยาก

ไม่กิจกรรมการงานอะไร อย่างหยาบๆ ก็ดี ถ้าเราไม่ทำไม่ประกอบก็ยิ่งเป็นอุปสรรค แต่ถ้าเราตั้งใจทำจริงๆ แล้ว มันมีทางออก ภาวนาไปรวมจิตใจลงไป จนกระทั่งจิตใจเชื่อตามความเป็นจริง เชื่อต่อคุณพระพุทธเจ้าจริงๆ เชื่อต่อคุณพระธรรมจริงๆ เชื่อต่อคุณพระอริยสงฆ์สาวกจริงๆ แล้ว บุคคลผู้นั้นก็มีทางที่จะได้บรรลุมรรคผล เห็นแจ้งเห็นธรรม ในปัจจุบันชาตินี้

โอวาทธรรม
#หลวงปู่สิม_พุทฺธาจาโร






#ทุกคนต้องรับผิดชอบต่อกรรมของตนเอง

จะป้ายไปให้คนอื่นไม่ได้ คนทำดีจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ตามก็เป็นคนดี เพราะกรรมของตน ใครจะรู้หรือชื่นชมหรือไม่ก็ตาม ตัวผู้ทำรู้สึกตัวเองว่าทำดี คนที่ทำไม่ดี เช่น ประพฤติตนเกะกะระรานเป็นคนหัวขโมย ก็เป็นคนชั่วเพราะกรรมของตน

ใครจะรู้หรือไม่ก็ตาม ตัวผู้ทำเองก็รู้สึกว่าตัวทำชั่ว อาจจะป้ายความผิดให้ผู้อื่นด้วยการหลอกให้คนอื่น เข้าใจผิด แต่จะหลอกตัวเองไม่ได้ ตัวเองย่อมรู้สึกย่อมรู้สึกสำนึกตัวเองอย่างเต็มที่ ฉะนั้น เมื่อทำดีทำชั่วแล้ว จึงปัดดีปัดชั่วออกไปให้พ้นตัวเองไม่ได้ เพราะรู้สึกตัวเองอยู่ทางจิตของตน ใครจะแย่งดี ไปจะใส่ชั่วให้ก็ไม่ได้นอกจากจะหลอกให้คนอื่นเข้าใจผิดเท่านั้น

โอวาทธรรม
#สมเด็จพระสังฆราชเจ้า_กรมหลวงวชิรญาณสังวร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 17 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO