"..ถ้าเรามีคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ที่ใจของเรา บริบูรณ์เต็มที่ เราจะไปอยู่โลกไหนก็ไปได้ เพราะเรามีที่พึ่งที่อาศัย ที่ไป ที่อยู่แล้ว เราจะไปจะอยู่ก็มีความสุข เราจะพึ่งอะไรก็พึ่งได้ เมื่อเรามีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ในใจของเราอย่างล้นฝั่งอยู่เสมอ ไม่บกพร่อง เราจะพึ่งโลกไหนก็ พึ่งได้โดยแท้ ไม่ต้องสงสัย เมื่อพวกท่านทั้งหลาย ได้สดับในโอวาทานุศาสนีแล้ว ให้พากันกำหนดจดจำไว้ในใจ นำเอาไปปฏิบัติตาม อย่าพากันมีดวามประมาท ดังได้แสดงมาด้วยประการ ฉะนี้.."
#เทศนาธรรมคำสอน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
เทวดาผู้ทรงฌาน มาทดสอบผู้ปรารถนาพุทธภูมิ และวิธีแก้ไข
การต้องถูกพิสูจน์นี่มีน้อยคน ไม่ใช่ทุกคน ท่านที่ถูกพิสูจน์อย่างหนักจริงๆ หนักมาก ก็ต้องเป็นพวกที่มาจากพระโพธิสัตว์ อดีตเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน
อยากเป็นพระพุทธเจ้า การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้ ก็ต้องถือว่าจอมทัพ ท่านที่จะเป็นจอมทัพ ปราบข้าศึกคือ กิเลส ต้องมีความเข้มแข็งมาก
ท่านพวกนี้จะถูกพิสูจน์ด้วยเทวดาชั้นจาตุมหาราช ซึ่งเป็นเทวดาผู้ทรงฌาน แต่เทวดาเขาจะพิสูจน์เรา ก็ต่อเมื่อเราไม่กลัว ถ้าเรายังกลัวอยู่เขาไม่มาหรอก เสียเวลา
และท่านพวกนี้ต้องมาจากสายพุทธภูมิ สายสาวกภูมิเขาไม่ลองมากเดี๋ยวเป็นบ้าไปเลย ดีไม่ดีเดี๋ยวเลิก เพราะกำลังใจอ่อนการทดลองของเขาก็ไม่ซ้ำแบบ ถ้าเรากลัวเขาก็เลิก หรือเราไม่รู้จักกลัวเขาก็เลิก คนไม่กลัวจริงๆ นี่เลยบาท
กำลังใจของคนทุกคน อาจสู้กันไปสู้กันมา สู้ให้พ้นความตายเหมือนสู้กับข้าศึก คนเลยบาทคิดสู้เอาชีวิตเป็นเดิมพันว่าร่างกายนี้นี่จะตายก็ช่างมัน แต่ความดีส่วนหนึ่งต้องเอาให้ได้ ถ้าความดีส่วนนี้ เราไม่ได้เพียงใดเราจะไม่ยอมเลิกเด็ดขาด มันจะตายก็ยอม เรียกว่า รักธรรมะยิ่งกว่ารักชีวิต อย่างนี้เขาเรียก "คนเกินบาท" มีกำลังใจเข้มแข็งมาก
บทพิสูจน์ของเทวดา ถ้าอารมณ์เข้าถึงขั้นใกล้จะเป็นพระอริยเจ้า โดยเฉพาะถ้าท่านพุทธบริษัทเคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน จึงจะมี
วิธีป้องกันตัว คือ ภาวนาหรือพิจารณาคิดว่า "มันจะตายเวลานี้ก็เชิญ ถ้าตายเวลานี้อย่างเลวเราไปสวรรค์ อย่างกลางไปพรหมโลก อย่างสูงสุดเราไปนิพพาน อะไรจะเกิดขึ้นอย่างไรก็ตาม เราไม่ยอมหวั่นไหวไม่ยอมแพ้"
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง
“อย่าเข้าใจอย่าหลงลืมตัวเองว่าเรามีผู้กราบไหว้สักการะบูชา เขาได้ทำบุญให้ทาน เราได้รู้จักคนมาก แต่คนนับถือก็ให้อุปการะเลี้ยงดูเรา เลยไปถือตัวเราเองเป็นเกณฑ์ ใช้ไม่ได้ แม้ว่าคนไม่รู้ความจริงของเรา เขาก็ยังหลงใหลอยู่ มีตัวอย่างมากต่อมากแล้ว เอาตัวเองเป็นอุปมาแล้ว ยังพยายามปฏิบัติให้คนรักให้คนชอบ ให้คนนับถือ ไม่ได้แก้ไขจิตใจของตนเองให้เป็นตามคำสอนพระพุทธเจ้า โดยความถูกต้องหรือโดยความชอบ ผลที่สุดก็ถูกทอดทิ้ง ถูกขจัดออก อยู่กับหมู่คณะไม่ได้ ถูกประณามถูกลงโทษ ด้วยความสำคัญตัวเองผิด มัวเมาหลงตัวเองผิด เราต้องพิจารณา”
โอวาทธรรม: พระโพธิธรรมาจารย์เถร (สุวัจน์ สุวโจ) วัดป่าเขาน้อย ตำบลเสม็ด อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
“ถ้าผู้มีปัญญา ย่อมระลึกถึงพระคุณ ของผู้มีอุปการคุณได้ เราต้องระลึกถึงและตอบแทน พระคุณของท่าน”
โอวาทธรรม: หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี
#ของทั้งหลายเหล่านี้เป็นอยู่อย่างนั้น ที่เรายึดมั่นว่าอันนี้ของเรา ใครเป็นคนได้ พ่อเราได้ไหม แม่เราได้ไหม ญาติเราได้ไหม ใครได้ไหม ไม่มีใครได้ #ฉะนั้นพระพุทธองค์จึงบอกให้วางมันเสีย ปล่อยมันเสีย รู้มันเสีย รู้มันโดยที่ว่ายึดแต่อย่า ให้มั่น #ใช้มันไปในทางที่เป็นประโยชน์ อย่าใช้มันในทางที่เป็นโทษ #คือความยึดมั่น #ถือมั่นที่ให้เราเป็นทุกข์
รู้ธรรมะมันต้องรู้อย่างนี้ #คือรู้ในแง่ที่มันพ้นทุกข์ ความรู้นี้เป็นสิ่งที่สําคัญ รู้เครื่องยนต์กลไก รู้อะไรสารพัดอย่างก็ดีอยู่ แต่ว่ามันไม่เลิศ ธรรมะก็ต้องรู้อย่างนี้ เห็นอย่างนี้ ไม่ต้องรู้อะไรมากหรอก ให้รู้เท่านี้ก็พอ สําหรับผู้ประพฤติปฏิบัติรู้แล้วก็วาง #ไม่ใช่ว่าตายแล้วจึงจะไม่มีทุกข์นะ #มันไม่มีทุกข์ในเมื่อยังมีชีวิตอยู่ เพราะมันรู้จักแก้ปัญหา #มันรู้จักสมมุติวิมุตตินี้เอาเมื่อเรามีชีวิตอยู่ เมื่อเราประพฤติปฏิบัตินี่เอง ไม่ใช่เอาที่อื่นหรอก
ดังนั้น #ท่านอย่าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรมาก #ยึดอย่าให้มันมั่น บางทีจะคิดว่า ท่านอาจารย์ทําไมจึงพูดอย่างนี้ สอนอย่างนี้ จะไม่ให้สอนอย่างไร ไม่ให้พูดอย่างไร เพราะว่ามันแน่นอนอย่างนั้น มันจริงอย่างนั้น
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
สวรรค์และนรกมันมีจริง ๆ แต่เราจะไม่เชื่อ เพราะเรายังปฏิบัติไม่ถึง ถ้าเราสามารถปฏิบัติทางด้านจิตใจจนเห็นชัดในเรื่องอย่างนี้ เขาจะมีมิติหนึ่งของเขาอยู่ในสวรรค์ เขาจะลอยอยู่ในชั้นอากาศเป็นชั้น ๆ อยู่ ส่วนนรกนั้นเขาก็จะมีหลุมที่อยู่ในเมืองนั้น ซึ่งในแต่ละหลุม ๆ นั้น จะไม่มีเครื่องนุ่งเครื่องห่มเลย เปลือยกายหมด อย่างศีล ๕ มี ๕ ข้อ ก็มี ๕ หลุมแน่นอน คนก็กองพะเนินเทินทึกอยู่ในนั้นแหละ แต่ก่อนเราไม่เชื่อ พอนั่งสมาธิเห็น เชื่อได้ด้วยตัวเอง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์เลย
ทีนี้สวรรค์ก็เหมือนกัน อาตมาขึ้นไปคุยกับเขาที่ปราสาทต่าง ๆ ทีแรกเขาสร้างวิหารหลังเล็ก ๆ อยู่ในวัดนี้ วิหารนี้ ก็ไปปรากฏเป็นปราสาทอยู่ในสวรรค์ เมื่อเขาตายไปเขาก็ไปอยู่ในปราสาทนั้น อาตมาไปยืนคุยกับเขามาแล้ว จึงมีความเชื่อมั่นว่าสวรรค์เป็นอย่างนี้เอง สวรรค์ชั้นอื่น ๆ ก็ชั้นของใครของมัน อยู่ในบรรยากาศโลกนี้แหละ มีสัก ๕๐๐ ชั้นก็จะได้ เพราะฟ้านี้ไม่รู้มันสูงเท่าไร เครื่องบินจะบินข้ามหรือบินลอดเขาไปก็แล้วแต่ ไม่เห็นเขา
เมืองสวรรค์นี้เป็นของทิพย์ เหมือนเราสร้างกุฏิวิหารศาลาไว้อย่างนี้ พอเราอยากจะไปอเมริกาหรือไปอยู่ที่ว่างอื่น เมื่อนึกอย่างนี้ พอเราไป ปราสาทจะไปตั้งปรากฏคอยอยู่เลย พอเราคิดว่าที่นี่ไม่ต้องการที่จะอยู่แล้วแหละ มันจะหายแว้บไปเลย มันก็จะไปตั้งอยู่ในที่ ๆ เราจะไป มันเป็นของทิพย์
ทีนี้ใครทำบุญอะไร จะเป็นน้ำส้ม น้ำหวาน อาหารการกินต่าง ๆ เพียงนึกอยากจะกิน มันจะอิ่มเหมือนกับเราได้กินสิ่งนั้น แต่ไม่ได้กิน เขาเรียกบุญทิพย์ ถ้าไม่ได้ถวายน้ำส้มไว้แล้วเกิดอยากกิน มันก็หิวอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่ได้อิ่มเหมือนกินน้ำส้ม นี่ เป็นเป็นอย่างนี้ มันเป็นเมืองทิพย์ กินบุญทิพย์ ของอย่างนี้มีแน่นอน ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
โอวาทธรรม: หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
“โยมมีปัญหาในใจ เอาลูกกุญแจไขจิตให้มันหลุด จิตนี่เป็นลูกดอกกุญแจไขปัญหา ลูกกุญแจคืออะไร คือ สติ ไขออกทุกราย คือ แก้ปัญหา ไขปัญหา ไขความแก้ปัญหาชีวิตได้ ไม่ต้องไปถามหมอดูแล้ว อยู่ตรงนี้ คนที่ไปหาหมอดู คือ คนโง่ โง่ที่สุด แก้ไขปัญหาไม่ได้ ไปหาหมอดูมากเท่าไร หาเจ้าเข้าทรงมากเท่าไร มีปัญหามากเท่านั้น มีปัญหาจริง ๆ”
คำสอน หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม จากเรื่อง อัสสาสะ-ปัสสาสะ หนังสือกฎแห่งกรรม-ธรรมปฏิบัติ เล่ม ๗
#เห็นทุกข์ทำให้เกิดปัญญา
"ทุกข์" "..เป็นข้อแรกของอริยสัจจ์ คนทั้งหลายพากันเกลียดกลัวทุกข์ อยากหนีทุกข์ ไม่อยากให้มีทุกข์เลย ความจริง ทุกข์นี่แหละจะทำให้เราฉลาดขึ้นล่ะ ทำให้เกิดปัญญา ทำให้เรารู้จักพิจารณาทุกข์ สุขนั่นสิมันจะปิดหูปิดตาเรา มันจะทำให้ไม่รู้จักอด ไม่รู้จักทน ความสุขสบายทั้งหลายจะทำให้เราประมาท กิเลสสองตัวนี้ทุกข์เห็นได้ง่าย ดังนั้นเราจึงต้องเอาทุกข์นี่แหละมาพิจารณา แล้วพยายามทำความดับทุกข์ให้ได้ แต่ก่อนจะปฏิบัติภาวนาก็ต้องรู้จักเสียก่อนว่าทุกข์คืออะไร
ตอนแรกเราจะต้องฝึกใจของเราอย่างนี้ เราอาจยังไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร ทำไป ทำไปก่อน ฉะนั้นเมื่อครูอาจารย์บอกให้ทำอย่างใดก็ทำตามไปก่อน แล้วก็จะค่อยมีความอดทนอดกลั้นขึ้นเองไม่ว่าจะเป็นอย่างไรให้อดทนอดกลั้นไว้ก่อน เพราะมันเป็นอย่างนั้นเองอย่างเช่นเมื่อเริ่มฝึกนั่งสมาธิ เราก็ต้องการความสงบทีเดียวแต่ก็จะไม่ได้ความสงบ เพราะมันยังไม่เคยทำสมาธิมาก่อน ใจก็บอกว่า"จะนั่งอย่างนี้แหละจนกว่าจะได้ความสงบ.."
#เทศนาธรรมคำสอน พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภทฺโท) วัดหนองป่าพง ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
#คนเราประพฤติปฏิบัติอยู่ ทําไมมันยังไปไม่ได้ #ทําไมมันถึงวางไม่ได้ คือ #มันยังไม่เห็นโทษอย่างแน่ชัด คือยังไม่รู้แจ้งนี่แหละ รู้ไม่ถึงหรือรู้มืด #มันจึงละไม่ได้
#ถ้ามันรู้แจ้งอย่างอรหันตสาวกหรือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ก็เลิกกันเท่านั้นแหละ แก้ปัญหาหลุดไปทีเดียวแหละ #ไม่เป็นของยากไม่เป็นของลําบาก
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
"..ทาน คือเครื่องแสดงน้ำใจมนุษย์ผู้มีจิตใจสูง ผู้มีเมตตาจิตต่อเพื่อนมนุษย์และสัตว์ผู้อาภัพ ด้วยการให้การเสียสละแบ่งปันมากน้อย ตามกำลังของวัตถุเครื่องสงเคราะห์ที่มีอยู่ จะเป็นวัตถุทาน ธรรมทาน หรือวิทยาทานแขนงต่าง ๆ ก็ตาม ที่ให้เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นโดยมิได้หวังค่าตอบแทนใด ๆ นอกจากกุศลคือความดีที่เกิดจากทานนั้น ซึ่งจะเป็นสิ่งตอบแทนให้เจ้าของทานได้รับอยู่โดยดีเท่านั้น ตลอดอภัยทานที่ควรให้แก่กันในเวลาอีกฝ่ายหนึ่งผิดพลาดหรือล่วงเกิน คนมีทานหรือคนที่เด่นในการให้ทาน ย่อมเป็นผู้สง่าผ่าเผยและเด่นในปวงชนโดยไม่นิยมรูปร่างลักษณะ ผู้เช่นนี้มนุษย์และสัตว์ตลอดเทวดาที่มองไม่เห็นก็เคารพรัก จะตกทิศใดแดนใดย่อมไม่อดอยากขาดแคลน หากมีสิ่งหรือผู้อุปถัมภ์จนได้ ไม่อับจนทนทุกข์.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือประวัติท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
"วันหนึ่งๆ ควรจะระลึกถึงความตายในตัวบ้าง อย่างน้อย ๕ หน ก็ยังดี จิตใจของเรา จะได้มีการยับยั้งจากความฟุ้งเฟ้อเห่อเหิม ความโลภก็จะไม่มากนัก ความโกรธก็จะไม่มากนัก ความหลงก็จะไม่มากนัก เพราะมองเห็นป่าช้า"
หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน
"โลกไม่ได้วุ่นวายหรอก ใจเราต่างหากที่วุ่นวาย"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
“ขนาดมีบุญพามาเกิดเป็นคน ยังบอกว่าทุกข์ขนาดนี้ ถ้าหากไม่มีบุญ แล้วต้องไปเกิดเป็นเปรต เป็นผี มันจะต้องทุกข์ขนาดไหน”
หลวงปู่อุทัย สิริธโร
|