พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อาทิตย์ 16 มี.ค. 2025 5:49 am
"..คนเราต่างมีกรรมเป็นของของตน มีกรรมเป็นผู้ให้ผล มีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นผู้ติดตาม มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย เราทำกรรมอันใดไว้ เป็นบุญหรือเป็นบาป เมื่อยังมีชีวิตอยู่ กรรมนั้นจักเป็นทายาทให้เราได้รับผลกรรมนั้นต่อ ๆ ไป คือ หมายความว่า กรรมต่างจำแนกสัตว์ให้เป็นไปต่างๆ นานา ให้เลว ให้ดี ให้ชั่ว ให้ประเสริฐ.."
#เทศนาธรรมคำสอน
หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล
วัดเลียบ อ. เมือง จ. อุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๐๒–๒๔๘๔)
ก็เหมือนกันกับเรานั่นแหละ หูเราได้ยินเสียงก็ให้มันทํางานตามหน้าที่ของมันสิ ตาทํางานทางรูปก็ให้มันสิ จมูกทํางานทางกลิ่นก็ให้มันสิ ร่างกายทํางานถูกต้อง โผฏฐัพพะก็ให้มันทํางานตามเรื่องของมันสิ ถ้าแบ่งให้มันทํางานตามหน้าที่ของมันแล้ว มันจะมีอะไรมาแย้งกัน มันไม่ได้ขัดขวางกันเลย
อันนี้ก็เหมือนกัน สิ่งเหล่านี้มันก็เป็นสมมุติ เราก็ให้มันสิ สิ่งเหล่านั้นก็เป็นวิมุตติ เราก็แบ่งมันสิ เราเป็นผู้รู้เฉยๆ เท่านั้นแหละ รู้ไม่ให้มันขัดข้อง รู้แล้วก็ปล่อยมัน วางมันตามธรรมดา เป็นของมันอยู่อย่างนั้น
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
"..การต่อสู้กามกิเลส เป็นสงครามอันยิ่งใหญ่
กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทุกทาง
พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริง ก็ถอนได้
กามนี้มันหมุนรอบโลก มันเป็นเจ้าโลก
กามกิเลสนี้แหละ ที่ทำให้เกิดสงครามต่อสู้กัน
เกิดก็เพราะกาม ตายก็เพราะกาม รักก็เพราะกาม ชังก็เพราะกาม
กามทุกอย่างนี้เรียกว่ากามกิเลส
การต่อสู้กามกิเลสเป็นสงครามอันยิ่งใหญ่
กามกิเลสนี้ร้ายนัก มันมาทุกทิศทุกทาง
ความพอใจก็คือกิเลส ความไม่พอใจก็คือกิเลส
กามกิเลสนี้อุปมาเหมือนแม่น้ำ
ธารน้ำน้อยใหญ่ไม่มีประมาณไหลลงสู่ทะเลไม่มีที่เต็มฉันใดก็ดี
กามตัณหาที่ไม่พอดี ภวตัณหา วิภวตัณหา
เป็นแหล่งก่อทุกข์ ก่อความเดือดร้อนไม่มีที่สิ้นสุด
ทั้งหมดอยู่ที่ใจ สุขก็อยู่ที่ใจ ทุกข์ก็อยู่ที่ใจ
ใจนี่แหละคือตัวเหตุ ทำความพอใจให้อยู่ที่ใจนี่
หมั่นเพียรและตั้งสัจจะให้มั่น
รักษาศีล รักษาตา รักษาหู รักษาตัว รักษาปาก สำรวมอินทรีย์ รักษาธาตุ ๔
ขันธ์ ๕ พิจารณาเข้าไป ตจปัญจกกรรมฐาน ๕ กายคตากรรมฐาน
พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงก็จะถอนได้
พวกหมู หมา เป็ด ไก่ มันก็เสพกามกันทั่วแผ่นดิน อย่าได้ไปอัศจรรย์
มีแต่ศีล สมาธิ ปัญญา ผู้ใดรักษาศีล
ภาวนาเข้าจนเกิดสมาธิแล้ว สติก็ดิ่งเข้าไปแล้ว
ก็จะได้ทำจิตทำใจของตนให้บริสุทธิ์
พระธรรมแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ ท่านชี้เข้าหาใจนี่แหละ
ทำใจให้บริสุทธิ์ ให้มีสติสัมปชัญญะนำคืนออกให้หมด
ถ้ามีสติแล้วก็นำความผิดออกจากกายจากใจของตน
อย่าหลงสมมติทั้งหลาย มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส อย่าเอามาหมักไว้ในใจ
กามตัณหาเปรียบเหมือนแม่น้ำไหลไปสู่ทะเล ไม่รู้จักเต็มสักที
อันนี้ฉันใด ความอยากของตัณหามันไม่พอ ต้องทำความพอจึงจะดี
เราจะต้องทำใจให้ผ่องใส
ตั้งอยู่ในศีล ตั้งอยู่ในทาน ตั้งอยู่ในธรรม ตั้งอยู่ในสมาธิก็ดี
ทุกอย่างเราทำความพอดี ความพอใจนำออกเสีย ความไม่พอใจก็นำออกเสีย
เวลานี้เราจะพักจิต ทำกายของเราทำใจของเราให้รู้แจ้งในกายในใจของเรานี้ รู้ความเป็นมา
วางให้หมด วางอารมณ์ วางอดีตอนาคตทั้งปวง ที่ใจนี่แหละ
เรื่องสังขารนี้ สังขารมันปรุง สังขารมันแต่ง
มันเกิด มันแก่ มันเจ็บ มันดับ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
วางอยู่นี่แหละ อดีตอนาคตมันก็มานี่แหละ
ตัดอดีตอนาคตลงหมด จิตดิ่งอยู่ในปัจจุบัน รู้ในปัจจุบัน ละในปัจจุบัน วางในปัจจุบัน
ทำจิตทำใจของเราให้สว่าง ให้รู้แจ้งในมรรคในผล ในศีล สมาธิ ปัญญา
เอาที่ใจนี้แหละ ให้มันสำเร็จขึ้นที่ใจ
เวลาปฏิบัติจริงกิเลสมันมาได้ทุกทิศทุกทาง
ใจนี้มันสำคัญ เหตุมันเกิดจากใจนี้ ตั้งสัจจะ จริงกายจริงวาจาจริงใจ
อย่าหลงไปตามเขา ตามอารมณ์
ละทิ้งความที่เกิดขึ้นทางตา หู จมูก ลิ้น กาย
สมบัติของเจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหมดนี้
เป็นที่ตั้งของทาน เป็นที่ตั้งของมรรค เป็นที่ตั้งของพระนิพพาน
จงละและวางให้เป็นพุทโธ ละวางหมดก็เป็นสุข ปล่อยวางก็สบาย.."
คัดจาก หนังสืออนุสรณ์
หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ โดย มูลนิธิหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
นครนายก : โรงพิมพ์มูลนิธินวมราชานุสรณ์,
"..จิตใจเป็นของละเอียดอ่อน จะน้อมไปเป็นอะไรมันก็เป็นได้ จะน้อมไปทางไหนมันก็ไปทางนั้น มันสัมปยุตด้วยกับเรื่องใด เรื่องนั้นก็เป็นขึ้นมา จิตน้อมไปในทางบ้า มันก็เป็นบ้าขึ้นมา จิตน้อมไปในทางดี ก็เป็นคนดี ไปเป็นสัตว์ก็จิตอันนี้ ไปเป็นเปรต อสุรกาย ภูตผีปีศาจ ก็ไป จากจิตอันนี้ จิตนั้นพาให้เป็น ไม่ใช่สิ่งอื่นพาให้เป็นไป เป็นเทาบุตร เทพธิดา เป็นพระอินทร์ พระพรหม พญายม พญายักษ์ ก็จิตนี่แลเป็น ตลอดถึงคนมั่งมี คฤหบดี เศรษฐี พระราชามหากษัตริย์ หรือจะไปเป็นพระพุทธเจ้า ปัจเจกพุทธเจ้า อริยสงฆ์สาวกของพระพุทธเจ้า ก็จิตนี้เองเป็น ถ้าจิตไม่เป็นก็ไม่มีอะไรเป็น ธรรมทั้งหลายสำเร็จมาจากใจ.."
#เทศนาธรรมคำสอน
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
"..เราละฆราวามาบรรพชาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา เป็นทรัพย์ภายในมีคุณค่ามากแล้ว พร้อมทั้งเพศก็เป็นเพศสูง พร้อมทั้งเป็นเพศชักจูงตนเองและท่านผู้อื่นที่มีนิสสัยดี ให้ชวนพิจารณา..
อันคำสอนของพระบรมศาสดา ก็บริบูรณ์ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ พร้อมทั้งเหตุสัมปทาอันถึงพร้อมด้วยเหตุบริบูรณ์ในทางโลกุตระ ไม่มีศาสนาใดๆในโลกนี้และโลกอดีต และโลกอนาคตทันเทียมถึงได้ มิได้ทรงสรรเสริญเข้าข้างตัวบูชากิเลสให้มานะแก่กล้า.. แต่ปรารภตามธรรมที่ไม่ตาย..."
โอวาทธรรม : หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร
"..ท่านผู้ไม่หวังมาเกิดอีก ต้องประมวลโลกทั้งสามภพลงในไตรลักษณ์ที่หมุนไปด้วย อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ตามขั้นหยาบละเอียดของภพชาตินั้น ๆ ด้วยปัญญาจนปราศจากความสงสัย อุปาทานที่ว่ายึด ๆ ชนิดแกะไม่ออกนั้น จะถอนตัวออกมาอย่างรวดเร็วจนมองไม่ทันนั่นแล ขอแต่ปัญญาเครื่องตัดสิ่งกดถ่วงให้คมกล้าเถอะ ไม่มีอะไรจะเป็นเครื่องมือแก้กิเลสทุกประเภทอย่างทันสมัยเหมือนสติปัญญาเลยในสามภพนี้.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.