ทุกข์ สุข...อยู่ที่ใจ
สร้างอะไรก็ไม่เท่ากับสร้างจิตสร้างใจเจ้าของดอก สุขอยู่ที่ใจ ทุกข์อยู่ที่ใจ สวรรค์นิพพานอยู่ที่ใจ พากันสร้างเอาเด้อ
พระผู้เฒ่าที่ละที่วางทุกสรรพสิ่งหมดแล้ว
๙๙ ปี #หลวงปู่ปั่น สมาหิโต สำนักสงฆ์ศรีอุทัย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
"พ่อพาเฮ็ดพาทำนี้ บ่แม่นเพื่อพ่อเด้ เพื่อให้พวกลูกได้สร้างบุญเอาไว้ เที่อตายไปสิได้บ่ตกไปอบายภูมิ..."
#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต อายุ ๙๙ ปี
สำนักสงฆ์ศรีอุทัย อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร
# คำสอนหลวงปู่มั่นสอนหลวงปู่ชา สุภัทโท # .. ท่านถ่ายทอดบทสนทนาของท่านกับหลวงปูมั่น ให้ศิษย์ฟังว่า...
เกล้ากระผมเป็นผู้ปฏิบัติใหม่ ไม่รู้จะปฏิบัติอย่างไร มีความสงสัยมาก ยังไม่มีหลักในการปฏิบัติเลยครับ
.. " มันเป็นยังไง " หลวงปูมั่นถาม...
ผมหาทางปฏิบัติ ก็เลยเอาหนังสือวิสุทธิมรรคขึ้นมาอ่าน มีความรู้สึกว่า มันจะไปไม่ไหวเสียแล้ว เนื้อความใน สีลนิทเทส สมาธินิทเทส ปัญญานิทเทส นั้น ดูเหมีอนไม่ใช่ วิสัยของมนุษย์จะทำได้ ผมมองเห็นว่ามนุษย์ทั่วโลกนี้ มันจะทำตามไม่ได้ครับ มันยาก มันลำบาก มันเหลือวิสัยจริง ๆ .. หลวงปูมั่นจึงกล่าวให้ฟังว่า ..
ท่าน ของนั่นมันมากก็จริงอยู่ ถ้าเราจะกำหนดทุก ๆ สิกขาบทในสีลนิทเทสนั้นนะมันก็ลำบาก แต่ความจริงแล้ว สีลนิทเทสก็คือ สิ่งที่บรรยายออกมาจากใจของคนเรานั่นเอง
ถ้าหากว่าเราอบรมจิตของเราให้มีความละอาย มีความกลัว ต่อความผิดทั้งหมด เราก็จะเป็นคนที่สำรวมสังวรระวัง เพราะมีความละอายและเกรงกลัวต่อความผิด
เมื่อเป็นอย่างนั้น ก็จะเป็นเหตุให้เราเป็นคนมักน้อยและสติก็จะกล้าขึ้น จะยืน เดิน นั่ง นอนอยู่ที่ไหน มันจะตั้งอกตั้งใจ มีสติเต็มเปี่ยมเสมอ ความระวังมันก็เกิดขึ้น
อะไรทั้งหมดที่ท่านศึกษาในหนังสือน่ะ มันขื้นต่อจิตทั้งนั้น ถ้าท่านยังไม่อบรมจิตของท่านให้มีความรู้ มีความสะอาดแล้ว ท่านจะมีความสงสัยอยู่เรื่อยไป
ดังนั้น ท่านจงรวมธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าไว้ที่จิต สำรวมอยู่ที่จิต อะไรที่เกิดขึ้นมา ถ้าสงสัย ถ้ายังไม่รู้แจ้ง แล้วอย่าไปทำ อย่าไปพูด อย่าไปละเมิดมัน
.. คืนนั้น หลวงพ่อนั่งฟังธรรมร่วมกับศิษย์ของหลวงปู่มั่น จนกระทั่งถึงเที่ยงคืน จิตใจเกิคความสงบระงับเป็นสมาธิ ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าจากการเดินทางได้อันตรธานไปสิ้น.
"ใต้ร่มโพธิญาณ" พระโพธิญาณเถร (หลวงปู่ชา สุภัทโท)
ผู้ภาวนาพุทโธ เป็นแล้ว จึงไปกำหนดภาวนาอานาปานสติ กำหนดหายใจเข้าออก ก็จักจับจิตของตนได้ง่าย ทีแรกฝึกหัดใหม่ เอาสติคุมจิต
เอาพุทโธจับใจ ให้รู้ตัวอยู่จนกว่าจะชำนาญ แล้วกำหนดพร้อม กับลมหายใจเข้า พร้อมหายใจออก นานไปก็ให้รู้แต่ลม จนกว่าจะชัดเจนชำนาญ แล้วตัวผู้รู้จะเด่นชัดขึ้นมา ก็ค่อยๆวางลมหายใจนี้ จนลมละเอียดสุด เหลือแต่ผู้รู้ รู้อยู่ ชัดเจนอยู่ เป็นอารมณ์ ของผู้รู้อยู่ ให้รู้อย่างนั้น
อย่าทิ้งผู้รู้ รู้สงบ สงบก็รู้ ปัญญาไม่พอก็ถอนออกมา กำลังใจไม่พอก็ถอนออกมา ตั้งต้นใหม่ ไม่อยากไม่หลง ทำดีประกอบใจเข้าไว้.
โอวาทธรรม หลวงปู่จาม มหาปุญโญ
มันยังเหลืออยู่มากเหมือนกัน #การปฏิบัติธรรมะมันลึกซึ้งไปจนเรามองไม่เห็น ที่เรานึกว่าเราพูดถูก แต่มันจะผิดไปทุกคํา #ผิดจากหลักความจริงทุกคํา แต่ก็นึกว่าเราพูดถูกไปทุกคํา พูดง่ายๆ เราพูดอะไรบ้าง ทําอะไรบ้าง อันที่มันเป็น #เหตุให้ทุกข์เกิดนั่นแหละ เรียกว่าเป็น #มิจฉาทิฏฐิ เรียกว่า #คนหลง #คนโง่
#โดยมากนักปฏิบัติเราไม่ค่อยจะทบทวนอย่างนี้ เห็นว่าเราดีก็ดีเรื่อยๆ ไป เช่นว่า เราได้อันหนึ่งขึ้นมา จะเป็น #ลาภก็ดี #ยศก็ดี #สรรเสริญก็ดี ก็นึกว่ามันดี ดีตลอดกาล ตลอดเวลา แล้วก็ถือเนื้อถือตัวขึ้นมา ไม่รู้จักว่าเรานี้คือใคร ที่มันดีมันเกิดจากอะไร เดินไปพบนาย ก. นาย ข. เหมือนกันหรือไม่อย่างนี้ #พระพุทธองค์ท่านให้วางเป็นปกติอย่างนี้
ถ้าเราไม่สับ ถ้าเราไม่ขบไม่เคี้ยว #ไม่ปฏิบัติค้นคว้าอันนี้ก็เรียกว่า อันนี้ก็ยังจมอยู่ #จมอยู่ในใจของเรานั่นแหละ เรียกว่า #ติดลาภบ้าง #ติดยศบ้าง #ติดสรรเสริญบ้าง ก็เปลี่ยนเป็นคนอื่น เพราะสําคัญตัวว่าเรานี้ดีขึ้นแล้ว สําคัญว่าเราเลิศขึ้นแล้ว สําคัญว่าเราเป็นโน้นเป็นนี่แล้ว ก็เกิดอะไรต่ออะไรขึ้นมาวุ่นวาย
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
"คนเราอาศัยต้นไม้ใด ไม่ควรตัดต้นไม้นั้น ควรแต่จะต้องใส่ปุ๋ยดูแล ให้มันงอกงามนี้เป็นการบำรุง เมื่อเราได้รับความสุขจากคนใด
เราก็ต้องไม่ลืมบุญคุณผู้นั้น ต้องทำความดี ตอบแทนเขาแม้กายวาจา จะไม่สามารถทำได้ ก็ต้องระลึกด้วยใจ"
โอวาทธรรม หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตโต
"..อย่าพากันประมาทนอนใจว่ากิเลสคือเชื้อแห่งภพความเกิดตายไม่มีทางสิ้นสุด เป็นของเล็กน้อยไม่เป็นภัยแก่ตน แล้วไม่กระตือรือร้นเพื่อแก้ไขถอดถอนเสียแต่กาลที่ยังควรอยู่ เมื่อถึงกาลที่สุดวิสัยแล้ว จะทำอะไรกับกิเลสเหล่านี้ไม่ได้นะ จะว่าไม่บอกไม่เตือน คนและสัตว์ทุกข์ทรมานมาประจำโลก อย่าเข้าใจว่าเป็นมาจากอะไร แต่เป็นมาจากกิเลสตัณหาที่เห็นว่าไม่สำคัญและไม่เป็นภัยนั่นแล ผมค้นดูทางมาของการเกิดตาย และการมาของกองทุกข์มากน้อยจนเต็มความสามารถของสติปัญญาที่มีอยู่แล้ว ไม่มีอะไรเป็นตัวเหตุชักจูงจิตใจให้มาหาที่เกิดตายและรับความทุกข์ทรมานมากน้อยเลย มีแต่กิเลสตัวที่สัตว์โลกเห็นว่าไม่สำคัญและมองข้ามไปมาอยู่นี้ทั้งสิ้นเป็นตัวการสำคัญ.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร (พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒) อ้างอิงหนังสือชีวประวัติพระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถระ
"เวลาเราโกรธ เราเคยรู้ใจตัวเองไหมว่ากำลังโกรธ
เวลาเราเกลียด เรารู้ทันความเกลียดในใจเราไหม
เวลาเราเบื่อ เราเศร้า เราเคยรู้ทันความเบื่อ ความเศร้า ทั้งๆ ที่มันเกิดขึ้นอยู่กลางใจเรา หรือไม่
รู้ใจอย่างนี้แหล่ะ ที่สำคัญไปกว่าการ ไปกะเกณฑ์ให้ใครต่อใครมารู้ใจเรา"
พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล
"เรื่องของคนอื่น พยายามอย่าให้เข้ามาที่จิตใจเรา ถ้าไม่ระวัง ก็จะยุ่งแต่เรื่องของคนอื่นไปเรื่อยๆ หาเรื่องอยู่อย่างนั้น เอาเรื่องโน้นเรื่องนี้ มาเป็นเรื่อง ของเราไปหมด มีแต่ยินดียินร้าย พอใจไม่พอใจทั้งวัน อารมณ์มาก จิตไม่ปกติไม่สบายทั้งวันๆ ก็หมดแรง"
หลวงปู่ชา สุภัทโท
|