"..ธรรมหมุนได้รอบตัวรอบด้าน ต้านทานได้ทุกแง่ทุกมุมที่นำมาใช้มาช่วยตัวเอง จงอย่าเกรงธรรมที่นำไปสู่ทางดี แต่จงกลัวกิเลสที่จะนำไปสู่ทางชั่ว มั่วกับกองทุกข์ สุขไม่มีวันเจอ แบบคนหมดหวัง ทั้งที่ยังมีชีวิตลมหายใจอยู่ ไม่สมควรแก่เราอย่างยิ่ง จงอย่านิ่งนอนใจ อย่าเห็นภัยว่าเป็นคุณ อย่าเห็นบุญว่าเป็นบาป จงเข็ดหลาบกับความชั่วแลกองทุกข์ทั้งมวลเสียแต่บัดนี้ จะเป็นคนดี สุคโตเป็นที่ไป ไม่สงสัยในตัวเราเอง สมกับธรรมท่านสอนไว้ว่า พระธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมไม่ให้ตกไปในที่ชั่ว.."
จากหนังสือประวัติ หลวงปู่ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัด หนองบัวลำภูโดยท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสมปนฺโน
#ปัจจุบันธรรมปัจจุบันธรรม
มันจะเป็นอย่างไร #แก้มันเดี๋ยวนี้_ปฏิบัติเดี๋ยวนี้_ปัจจุบันธรรม เพราะว่า #ปัจจุบันธรรมคือปัจจุบันนี้_มันเป็นทั้งเหตุทั้งผล ปัจจุบันนี้มันตั้งอยู่ในเหตุผล อย่างเราอยู่เดี๋ยวนี้ อดีตเป็นเหตุ ปัจจุบันเป็นผล ทุกๆ อย่างที่ผ่านมาถึงเดี๋ยวนี้มันมาจากเหตุทั้งนั้น อย่างท่านมาจากกุฏิของท่านนี่เป็นเหตุ ที่มานั่งอยู่นี่เป็นผล มันเป็นอย่างนี้ มันมีเหตุผลอย่างนี้เรื่อยๆ ไป #อดีตเป็นเหตุ_ปัจจุบันเป็นผล #ปัจจุบันเป็นเหตุ_อนาคตเป็นผล ที่เราอยู่เดี๋ยวนี้ก็เป็นเหตุ อดีตเหตุ อยู่ในปัจจุบันนี้ก็เป็นผล ผลเดี๋ยวนี้มันก็เป็นเหตุของอนาคตอีก ฉะนั้น #พระพุทธเจ้าท่านมองเห็นว่า #ทิ้งอดีต_แล้วก็ทิ้งอนาคต คําที่พูดว่าทิ้งนี่ ไม่ใช่ทิ้งนะ คือมันมาอยู่จุดเดี๋ยวนี้ #อดีต_อนาคตมันอยู่ที่ปัจจุบัน_ปัจจุบันนี้มันเป็นผลของอดีต_และมันเป็นเหตุของอนาคตต่อไป
ฉะนั้น #ทิ้งเหตุและผลมันเสีย_เอาปัจจุบันนี้ เมื่อทิ้งมันก็เป็นเหตุผลของมันอยู่แล้ว คําที่พูดว่าทิ้งนั้น ก็สักแต่ว่าภาษาพูดเท่านั้นล่ะ แต่ความเป็นจริงนั้น ก็เรียกว่าจุดนี้เป็นจุดครึ่ง มันตั้งอยู่ในเหตุผลอยู่แล้ว #ท่านว่าให้ดูปัจจุบันก็จะเห็นความเกิดดับ_เกิดดับ_อยู่เสมอเรื่อยๆ
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
เขาเล่าลือว่า พระป่าเป็นอรหันต์เบิดซุองค์ กะอย่าซุไปเชื่อ... พระดีเบิด พระชั่วเหมิด กะอย่าซุไปเชื่อ... เชื่อด้วยเหตุ เชื่อด้วยผล ไปจ้องจับผิดสำนักของพระพุทธเจ้า ยังมีพระไม่ดี มันมีทุกที่แหล่ะ คนดี คนชั่ว จะไปรวมทั้งวัดว่าไม่ดีไม่ได้ ผู้เพิ่นดีกะมีอยู่... ความชั่ว ความดี มันมีอยู่ทุกที่ แต่จะมากหรือน้อย...
#หลวงพ่อพล ยโสธโร วัดภูหล่มขุม อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร
"..ตัวของเรานี้แล อันได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นชาติสูงสุด เป็นผู้เลิศตั้งอยู่ในฐานะอัน เลิศด้วยดี คือมีกายสมบัติ วจีสมบัติ แลมโน สมบัติบริบูรณ์ จะสร้างสมเอาสมบัติภายนอก คือ ทรัพย์สินเงินทองอย่างไรก็ได้ จะสร้างสม เอาสมบัติภายในคือมรรคผลนิพพานธรรมวิเศษ ก็ได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระธรรมวินัย ก็ทรงบัญญัติแก่มนุษย์เรานี้เอง มิได้ทรงบัญญัติ แก่ ช้าง ม้า โค กระบือที่ไหนเลย
มนุษย์นี้เองจะเป็นผู้ปฏิบัติถึงซึ่งความบริสุทธิ์ได้ ฉะนั้นจึงไม่ควรน้อยเนื้อต่ำใจว่า ตนมีบุญวาสนา น้อย เพราะมนุษย์ทำได้ เมื่อไม่มี ทำให้มีได้ เมื่อมีแล้วทำให้ยิ่งได้สมด้วยเทศนานัยอันมาในเวสสันดรชาดกว่า ทานํ เทติ สีลํ รกฺขติ ภาวนํ ภาเวตฺวา เอกจฺโจ สคฺคํ คจฺฉติ เอกจฺโจ โมกฺขํ คจฺฉติ นิสฺสํสยํ เมื่อได้ทำกองการกุศล คือ ให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา ตามคำสอนของพระบรมศาสดาจารย์เจ้า แล้ว บางพวกทำน้อยก็ต้องไปสู่สวรรค์ บางพวกทำมากและขยันจริงพร้อมทั้งวาสนาบารมี แต่หนหลังประกอบกัน ก็สามารถเข้าสู่พระนิพพานโดยไม่ต้องสงสัยเลย พวกสัตว์ดิรัจฉานท่านมิได้กล่าวว่าเลิศ เพราะจะมาทำเหมือนพวกมนุษย์ไม่ได้ จึงสมกับคำว่ามนุษย์นี้ตั้งอยู่ในฐานะอันเลิศด้วยดี สามารถนำตนเข้าสู่มรรคผล เข้าสู่พระนิพพานอันบริสุทธิ์ได้แล.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร (๒๔๑๓-๒๔๙๒)
#ถูกของเขา_ถูกของเรา
พระพุทธองค์ท่านสอนว่า #คนที่ยังเชื่อคนอื่นอยู่นั้นท่านไม่สรรเสริญ บุคคลยังดีใจเสียใจกับคําคนอื่นที่พูดหรือกระทํา ตรงนั้นพระพุทธเจ้ายังไม่สรรเสริญ เพราะเป็นของของคนอื่นเขา #รู้แล้วต้องวาง #ถึงแม้จะถูกก็ถูกคนอื่นเขา_ถ้าเราไม่เอามาทําให้มันถูกที่ใจเราแล้ว_ความถูกก็ไม่มาถึงเรา ถูกอยู่โน้น อาจารย์นั้นผิดอยู่โน้น ถูกอยู่โน้น ไม่มาถูกถึงเรา ถูกก็จริงแต่มันถูกคนอื่น ไม่ถูกเรา หมายความว่า #ถ้าไม่ปฏิบัติในจิตให้รู้เห็นตามความเป็นจริงแล้ว_พระพุทธเจ้าท่านไม่สรรเสริญ
ผมเคยเทศน์บ่อยๆ ว่า #โอปนยิโก_น้อมเข้ามา_ให้มันรู้ให้มันเห็น_ให้มันเป็น อย่างเขาว่าถูกแล้วก็เชื่อ ไม่ถูกก็เชื่อ อย่าทําอย่างนั้น ถูกก็ถูกเรื่องคนอื่นเขาพูด #เอาเรื่องอันนั้นมาปฏิบัติให้เกิดกับจิตเจ้าของในปัจจุบันนี้_ให้มีพยานในตัวของตัวนี้ ผมเคยพูดให้ท่านฟังเสมอว่า ผลไม้นี้เปรี้ยวอย่างนี้ เอาผลไม้นี้ไปทานเสีย เอาไปฉัน มันเปรี้ยวนะนี่ บางคนก็เชื่อ อย่างนี้ท่านก็จะเชื่อว่ามันเปรี้ยว ความเชื่อของท่านน่ะ #มันเป็นโมฆะ ไม่มีความหมายอะไรมากมาย เพราะที่ท่านว่าเปรี้ยวนะ ท่านเชื่อจากผมพูดว่ามันเปรี้ยวเท่านั้นล่ะ พระพุทธเจ้ายังไม่สรรเสริญ #แต่เราก็ไม่ทิ้ง_เอาไปพิจารณา เอาผลไม้มาฉันดูเสีย เมื่อความเปรี้ยวปรากฏขึ้นมานั้น #เรียกว่าเรามีพยานในตัวแล้ว ท่านว่าเปรี้ยว เราเอามาฉันดู ก็เปรี้ยว นี่สองอย่างแล้ว เชื่อแล้วทีนี้ เพราะเรามีพยาน ท่านครูบาอาจารย์มั่นท่านเรียกว่าเป็น #สักขีภูโต อันนี้เป็นพยานในตัวของตัวแล้ว สิ่งที่เรารู้จากคนอื่น ไม่มีใครเป็นพยาน เอาคนอื่นเป็นพยานเท่านั้น อันนี้ให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ เรารู้จากท่านว่าผลไม้นี้เปรี้ยว นี่ได้เพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเราเอาผลไม้นั้นมาฉันดู เปรี้ยวอีก #ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย_เป็นสักขีภูโต_ได้พยานกับตัวเกิดขึ้นมาแล้วอย่างนี้
ฉะนั้น จึงว่าโอปนยิโก น้อมเข้ามาให้เป็น #ปัจจัตตัง (#รู้เฉพาะตัว) #เห็นอยู่กับคนอื่นไม่ใช่เห็นปัจจัตตัง_เห็นนอกปัจจัตตัง_ไม่เห็นเฉพาะจิตของเจ้าของ เฉพาะตัวของเรา เห็นจากคนอื่น แต่ก็ไม่ควรประมาท ให้เป็นที่ศึกษาของเรา เป็นข้อศึกษาของเราเหมือนกัน คล้ายๆ กับว่าเราเห็นในหนังสือ อ่านหนังสือพบเราก็เชื่อ แต่จิตเรายังไม่เป็น นี่มันก็ยังไม่เกิดประโยชน์เต็มที่ มันเพียงห้าสิบเปอร์เซ็นต์เท่านั้น มาปฏิบัติในจิตของเจ้าของให้จิตเราเป็นอย่างนั้น รู้อย่างนั้นเป็นอย่างนั้น อย่างนี้มันจึงเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องสงสัยแล้ว #ถ้าเรารู้ในตัวของเราเอง_มันหายสงสัย_มันหมดเลย
#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
|