Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

บุญวาสนา

อาทิตย์ 30 มี.ค. 2025 5:48 am

#เราเกิดมาในแดนมนุษย์นี้

ไม่ได้เกิดมาอย่างง่ายดายนะ
สัตว์เขาอยากเป็นมนุษย์นี่
มีจำนวนมาก แต่เขาไม่มีโอกาสวาสนาไม่อำนวย เขาก็มาเกิดเป็นมนุษย์เหมือนเราไม่ได้

เรามีวาสนาบารได้มาเกิดเป็นมนุษย์แล้วยังได้พบพระพุทธศาสนา อย่าปล่อยอย่าวางให้นิสัยวาสนาอันดีงามของเรานี้ได้ขาดไปจากเรา ให้ส่งเสริมเพิ่มเติมคุณงามความดีทั้งหลายนี้เข้าไปเป็นลำดับลำดา ...

โอวาทธรรม
#หลวงตามหาบัว_ญาณสัมปันโน






#ถ้าตั้งใจจริงย่อมมีเวลาภาวนา

ความจริงแล้วคนเราทุกคน เคยมาเกิดเคยมาตาย มีสุขมีทุกข์อยู่ในโลกมนุษย์ เทวโลก พรหมโลก เปรตโลก ยมโลก นรกอเวจี อสุรกาย
มันเคยเกิดเคยตายอย่างนี้มา เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็เคยเกิด เกิดเป็นสัตว์น้ำ สัตว์บก สัตว์ปีก สัตว์ไม่มีปีก สัตว์สองเท้า สี่เท้า มากเท้า ไม่มีเท้า ก็เคยเกิดกันมาอย่างนี้ตายมาอย่างนี้

แต่จิตนี้มันยังโง่เขลาเบาปัญญา ภาวนายังไม่ถึงก็เลยมีความลุ่มหลงมัวเมา" แทนที่เราเกิดมาเป็นคน ไม่ควรให้ใจคิดไปในที่จะไปสู่อบาย คือว่าทางต่ำ "เราต้องหน่วงเหนี่ยวอารมณ์เอาพระพุทธเจ้า พระอริยเจ้าทั้งหลายเป็นอารมณ์

เมื่อเรามีพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ มีภาวนาในใจแล้ว "สิ่งที่เราว่าทำไม่ได้ ปฏิบัติไม่ได้ เป็นไปไม่ได้นั้น มันก็เป็นไปได้อยู่" มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละบุคคล

โอวาทธรรม
#หลวงปู่สิม_พุทฺธาจาโร







#สิ่งที่เป็นโลกก็ได้กล่าวมาแล้ว

คือ เรื่องที่อยู่นอกตัวของเรา
ซึ่งเป็นเรื่องยืดยาว ส่วนที่เป็นธรรมก็คือ
เรื่องสั้นๆ ที่มีอยู่ภายในตัวของเราเอง คือ ธาตุทั้ง ๔
ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม ซึ่งประกอบขึ้นเป็นส่วนของ
ร่างกาย กับธาตุรู้ซึ่งเป็นตัวจิต พูดสั้นๆ ก็คือกาย
กับจิต สองอย่างนี้เป็นตัวธรรม เพราะเกิดขึ้นจาก
ธาตุแท้ หรือพูดอีกอย่างหนึ่งก็ได้แก่ รูปกับนาม
คือลมหายใจ เป็นตัวรูป เพราะเป็นผู้สร้างร่างกาย
ให้มีชีวิต ธาตุอื่นจะตั้งอยู่ไม่ได้ ถ้าปราศจากลม
หายใจ ส่วนความรู้ก็เป็นนามคือตัวจิต สองอย่างนี้
ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน จึงจะตั้งอยู่ได้และเป็นไป
ด้วยดี ทั้งเป็นตัวที่จะทำให้เกิดบุญกุศลทั้งหลาย
ด้วย...

โอวาทธรรม
#ท่านพ่อลี_ธัมมธโร
วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
#ที่มา หนังสือ แนวทางปฏิบัติวิปัสสนา - กัมมัฏฐาน






"..ตัวของเรานี้แล อันได้กำเนิดเกิดมาเป็นมนุษย์
ซึ่งเป็นชาติสูงสุด เป็นผู้เลิศตั้งอยู่ในฐานะอัน
เลิศด้วยดี คือมีกายสมบัติ วจีสมบัติ แลมโน
สมบัติบริบูรณ์ จะสร้างสมเอาสมบัติภายนอก
คือ ทรัพย์สินเงินทองอย่างไรก็ได้ จะสร้างสม
เอาสมบัติภายในคือมรรคผลนิพพานธรรมวิเศษ
ก็ได้ พระพุทธองค์ทรงบัญญัติพระธรรมวินัย
ก็ทรงบัญญัติแก่มนุษย์เรานี้เอง มิได้ทรงบัญญัติ
แก่ ช้าง ม้า โค กระบือที่ไหนเลย

มนุษย์นี้เองจะเป็นผู้ปฏิบัติถึงซึ่งความบริสุทธิ์ได้
ฉะนั้นจึงไม่ควรน้อยเนื้อต่ำใจว่า ตนมีบุญวาสนา
น้อย เพราะมนุษย์ทำได้ เมื่อไม่มี ทำให้มีได้ เมื่อมีแล้วทำให้ยิ่งได้สมด้วยเทศนานัยอันมาในเวสสันดรชาดกว่า ทานํ เทติ สีลํ รกฺขติ ภาวนํ ภาเวตฺวา เอกจฺโจ สคฺคํ คจฺฉติ เอกจฺโจ โมกฺขํ คจฺฉติ นิสฺสํสยํ
เมื่อได้ทำกองการกุศล คือ ให้ทานรักษาศีลเจริญภาวนา ตามคำสอนของพระบรมศาสดาจารย์เจ้า
แล้ว บางพวกทำน้อยก็ต้องไปสู่สวรรค์
บางพวกทำมากและขยันจริงพร้อมทั้งวาสนาบารมี
แต่หนหลังประกอบกัน ก็สามารถเข้าสู่พระนิพพานโดยไม่ต้องสงสัยเลย พวกสัตว์ดิรัจฉานท่านมิได้กล่าวว่าเลิศ เพราะจะมาทำเหมือนพวกมนุษย์ไม่ได้
จึงสมกับคำว่ามนุษย์นี้ตั้งอยู่ในฐานะอันเลิศด้วยดี
สามารถนำตนเข้าสู่มรรคผล เข้าสู่พระนิพพานอันบริสุทธิ์ได้แล.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(๒๔๑๓-๒๔๙๒)








"..ตัณหารักเมียเปรียบเหมือนเชือกผูกคอ ตัณหารักลูกรักหลานเปรียบเหมือนปอผูกศอก ตัณหารักวัตถุข้าวของต่างๆ เปรียบเหมือน ปอผูกตีน”

สมบัติพัสถานต่างๆ ที่สร้างสมไว้ เมื่อตายลง ไม่เห็นมีใครหาบหามเอาไปได้เลยสักคนเดียว มีแต่คุณงามความดีกับความชั่วเท่านั้นที่ติดตัวไป พระอาจารย์ฝั้นปลงด้วยว่า ถ้าเธอเป็นพระกัมมัฏฐาน ไม่ควรคิดสร้างโลกวัฏฏสงสารเช่นนั้น ควรตั้งใจ ภาวนาให้รู้ให้เห็นในอรรถธรรมสิ่งทั้งหลายในโลกนี้ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ทั้งสิ้น.."


จากหนังสืออนุสรณ์งานศพ
พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร









"..อยากได้ของดีที่มีอยู่กับตัวเราทุกคนก็พากันปฏิบัติเอาทำเอา เมื่อเวลาตายแล้วจึงพากันวุ่นวาย หานิมนต์พระมาให้บุญกุสลามาติกา นั่นไม่ใช่เกาถูกที่คันนะ จะว่าไม่บอก ต้องรีบเกาให้ถูกที่คันเสียแต่บัดนี้ โรคคันจะได้หาย คือเร่งทำความดีเสียแต่บัดนี้ จะได้หายห่วงหายหวงกับอะไร ๆ ที่เป็นสมบัติของโลก มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา แต่พากันจับจองเอาแต่ชื่อของมันเปล่า ๆ ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล.."


ภูริทตฺโตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)





คุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ
เมื่อได้ลงเรื่องราวของพระธรรมวชิรเมธาภรณ์แล้ว ปรากฎว่ามีผู้สนใจในตัวท่าน บ้างถามความใกล้ชิด ก็ตอบว่าเป็นหนึ่งในร้อยศิษย์ที่เคยเรียนบาลีกับท่านเท่านั้น ไม่ได้ดีเด่นอะไร แต่หลวงพ่อท่านความจำดี จำศิษย์ที่สอนผ่านมือได้ทุกคนทั้งชื่อนามสกุลและบุคลิกส่วนตัว บ้างถามถึงความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ก็ตอบเพียงว่า ไม่เคยเห็น หลวงพ่อเองก็ไม่นิยมเรื่องเหล่านี้ ขอเล่าในจุดความขลังที่พอจะจำเรื่องเล่าพอเป็นคติได้บ้างดังนี้ พระธรรมวชิรเมธาภรณ์เมื่อครั้งได้เปรียญสามอยากจะไปเรียนต่อที่วัดในกรุงเทพมหานคร จึงไปขอฝากตัวตามวัดพระอารามหลวงต่างๆ แต่ไม่มีวัดใดรับท่าน จนได้พบหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ได้จำพรรษาที่วัดธรรมิการาม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อมาได้มาสร้างวัดธรรมมงคล ตอนตั้งวัดใหม่ๆนั้นงูชุกชุมมาก สามเณรก็มาก หลวงพ่อวิริยังค์ดำริสร้างแหวนเงินกันงู โดยเสกด้วยขันธปริตร จนเป็นปรากฏการณ์ว่าสามเณรยุคนั้นผูกแหวนที่ประคตเอวกันงู นอกจากนั้นมีการทำตะกรุดใต้น้ำ โดยดำลงในน้ำจารด้วยอักขระ 4 ตัว เรื่องนี้ไม่มีได้แพร่หลายนัก ทราบกันในพระเถระ สำหรับป้องกันภัยต่างๆในการสร้างวัดธรรมมงคล พระเดชพระคุณอยู่ในเหตุการณ์และจดจำการทำได้แม่นจำ แต่ไม่ได้ใส่ใจจะนำไปทำต่อ ด้วยอุปนิสัยที่ถือธรรมและเน้นสอนบาลีฝ่ายคันถธุระมากกว่า พระธรรมวชิรเมธาภรณ์เป็นดั่งมือข้างขวาสร้างสำนักเรียนให้หลวงพ่อวิริยังค์ในยุคเริ่มต้น ทั้งวัดผ่องพลอยวิศยาราม สมุทรปราการ วัดหนองพงนก จังหวัดนครปฐม ท่านถูกส่งไปสอนหนังสือสามเณร เมื่อมาอยู่ที่กำแพงเพชรก็มาสร้างสำนักเรียนวัดนาควัชรโสภณถวายพระครูนาควัชราธร(หลวงพ่อวิชัย ปสนฺโน) ที่นี่ถือเป็นมงคลสถานที่อยู่นานที่สุด หลวงพ่อชอบแจกพระพิมพ์ดินเผา เป็นพระซุ้มกอบ้าง พระเม็ดขนุนบ้าง เคยกราบเรียนถามว่า “ขอโอกาสครับผม หลวงพ่อแจกพระใหม่ ได้อธิษฐานจิตปลุกเสกไหมครับ”
หลวงพ่อถามกลับว่า ”พระพุทธเจ้าตรัสรู้ใครไปเสกท่าน“
คำหอม ”ไม่มีครับผม“
หลวงพ่อ ”ใครจะเสกท่านขลังได้ทีนี้ คำถามต่อไป คุณของพระพุทธเจ้ามีเท่าไหร่“
คำหอม ”9 ครับผม“
หลวงพ่อ ”คุณของพระเจ้ามีมากเท่าไหร่“
คำหอม ”ไม่ทราบจะเอาอะไรมาเทียบครับ“
หลวงพ่อ ”อัปปะมาโณ พุทโธ คุณพระพุทธเจ้าไม่มีประมาณ คุณของพระองค์ก็เป็นไปเพื่อดับทุกข์โดยถ่ายเดียว พระเครื่องเป็นเพียงสิ่งระลึกเท่านั้น สิ่งแทนพระพุทธเจ้าคือพระธรรม
ใครเห็นธรรมคนนั้นเห็นพระพุทธเจ้า เข้าใจไหม คำถามต่อไป ขลังไหมทีนี้ ”
คำหอม “ขลังครับ”
หลวงพ่อ “ขลังยังไง”
คำหอม “ขลังดับทุกข์โดยถ่ายเดียวครับ”
หลวงพ่อ “อื้อ เข้าใจนะทีนี้ “
เป็นอันหมดสงสัยว่าพระพิมพ์เนื้อดินขลังไหม หลวงพ่อประสงค์มอบของที่ระลึกอันเป็นพุทธศิลป์เมืองกำแพงเพชรแท้ๆ ทั้งเป็นภูมิปัญญาสมบัติของบรรพชนที่ใช้จรรโลงศาสนา พระพุทธเจ้าทรงแผ่พระฉัพพัณณรังสีโปรดเวไนยสัตว์รู้จักการดับทุกข์สิ้นไป เป็นความสง่างามเหนือกาลเวลา ทั้งเวลาแจกจะสอนกำกับว่า ทำดีย่อมได้ดี จงทำดี

หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร คือ สมเด็จพระญาณวชิโรดม วัดธรรมมงคล
เครดิตภาพ วัดประชาบำรุง จังหวัดมหาสารคาม
ตอบกระทู้