นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน อังคาร 22 เม.ย. 2025 7:37 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ทำแต่ความดี
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 05 เม.ย. 2025 11:21 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4897
พวกตะหนี่ถี่เหนียวนี้นะ ตายไปแล้วมันไปเป็นตุ๊กแกเด้ มือมันเหนียวมันแน่น ไม่รู้จักเสียสละให้ทานกองการกุศล ก่อนจะร้องมันส่ายหัวส่ายหาง เสียงร้องมันนะ ทุกข์แท้ ทุกข์แท้ ทุกข์แท้ นี้มันเรื่องบาปกรรม...

โอวาทธรรม
#หลวงปู่แผ่นทอง จาครโต









ทุกอย่างนี่ ในที่สุดเราต้องปฏิบัติ
ไม่ปฏิบัติไม่ได้ เพราะหลายสิ่งหลายอย่าง
ยิ่งพูดยิ่งให้ข้อคิด บางครั้งก็ยิ่งไม่เข้าใจ
แต่หากเรายอมให้เวลาและอยู่กับตัวเองทุกวัน ๆ
ไม่ต้องแสวงหาสิ่งใด ไม่ใช่นั่งเพื่อให้สงบ
แต่นั่งเพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง
กับชีวิตจริงของตัวเอง

เมื่อความคิดฟุ้งซ่าน
ความเพลินอยู่ในความทรงจำ
เพลินอยู่ในความปรุงแต่งต่าง ๆ หายไป

จิตรู้อยู่ในปัจจุบัน
ปัญญาก็เริ่มผุดขึ้นมา
เริ่มต้นปัญญาจะเป็นเรื่องสามัญทั่วไป

อย่างเช่นว่า
เรื่องนี้ไปทุกข์กับมันทำไม
เป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ปล่อยวางเถอะ

ปัญญาจะขึ้นมาเป็นกัลยาณมิตรภายใน
บางครั้งก็จะเป็นลักษณะว่า
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ
เรื่องนี้สำคัญนะ ปล่อยไม่ได้นะ
ต้องรีบจัดการนะ ปัญญามีอยู่

แต่เราสื่อสารกับปัญญาตัวเองไม่ค่อยเป็น
มัวแต่สื่อสารกับคนอื่น
หากเราให้เวลาอยู่กับตัวเอง
สิ่งที่อยู่ในใจ สิ่งที่เรารู้แล้ว
แต่เก็บกดไว้หรือยังไม่ถึงเวลา
ที่มันจะผุดขึ้นมา พอจิตใจสงบ
จากความฟุ้งซ่านวุ่นวายต่าง ๆ
มันก็เป็นการเปิดช่อง
เปิดโอกาสให้ปัญญาทำงาน

“ล้มเป็น ลุกเป็น“

#พระพรหมพัชรญาณมุนี
#พระอาจารย์ชยสาโร
บ้านบุญ
วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๘





"..เขาว่าทำบุญทำทานนั้น ทำไปทำไม คนทำบุญก็ต้องตาย ไม่ทำก็ตาย ตายด้วยกันจริงอยู่ดอก แต่ว่าตายผิดกัน คนทำบาปนั้นตายไปกับผีกับเปรต ตายตามป่าตามดงตามถนนหนทาง แต่คนทำบุญนั้น ตายไปในกองบุญกองกุศล ตายสบาย แล้วไปเกิดก็สบายอีก ไม่ต้องไปเกิดในที่ทุกข์ที่ยากเหมือนคนทำบาป.."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ท่านพ่อลี ธมฺมธโร)
วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
(พ.ศ.๒๔๔๙-๒๕๐๔ )







#ภาวนาให้เอาความตายไว้ทางหลัง

บ่ต้องย้านตาย ครูบาอาจารย์เพิ่นผ่านมาเหมิดแล้ว มันบ่ตายดอกนั่งภาวนา ตั้งแต่นั่งอยู่ในท้องแม่ 9 เดือนมันกะยังบ่ตาย มันกะจิตดวงเดียวกันนี้ละ มีสติ นั่งภาวนา เพิ่นให้นั่งเอาความสบาย บ่แม่นนั่งเอาทุกข์ นั่งปวดขาแหน่กะหยุด นั่งแบบนี้ละนั่งเอาทุกข์ มันปวดกะปล่อยมันไป มันปวดหลายๆ มันกะหายไปเอง คือเฮาเป็นเหน็บนี้ มันสิเซาเจ็บเอง ถ้ามันผ่านไปได้จิตมันกะสบาย นั่งสามมื้อกะได้ถ้าจิตมันบ่ถอน

หลวงปู่กล่าวไว้ว่า ..."คืออาจารย์นี้ถ้าตั้งใจสินั่งซอดแจ้ง กลางวันสิเตรียมซักผ้าไว้ให้เรียบร้อย ค่ำมาตั้งคำสัตย์ไว้เลยว่าจะนั่งภาวถึงสว่าง ถ้าออกก่อนเดินไปให้แผ่นดินสูบ เอาคำสัตย์เหยียบมันไว้ เอาปานนั้นเด้มันจังได้..."

#หลวงปู่จันทร์เรียน คุณวโร






.เรานี้ก็เหมือนกัน ถูกกําหนดว่าเป็นพระ มาบวชในพระพุทธศาสนาแล้ว แต่ยังไม่เป็นพระหรอก #เป็นแต่เพียงสมมุติ ยังไม่เป็นจริงๆ คือ จิตใจของเรานั้น #เมตตา #กรุณา #มุทิตา #อุเบกขา จิตทั้งหลายยังไม่พรั่งพร้อม ความบริสุทธิ์ยังไม่ทันถึงที่ #มีความโลภ_มีความโกรธ_มีความหลงกั้นไว้ ไม่ให้ความเป็นพระเกิดขึ้นมา เพราะสิ่งเหล่านี้เราถือว่ามีมาตั้งแต่ก่อนโน้น ตั้งแต่วันเกิด ตั้งแต่ชาติก่อนๆ มีโลภ มีโกรธ มีหลง หล่อเลี้ยงมาตลอดถึงทุกวันนี้ ฉะนั้น เมื่อเอาพวกนี้มาบวชจะให้เป็นพระ มันก็ยังเป็นพระสมมุติ คือยังอาศัยความโลภ อาศัยความโกรธ อาศัยความหลงนั่นแหละที่เป็นอยู่ในใจของเรานั้น #ถ้าเป็นพระท่านก็ละพวกนี้ออก_ละความโลภออกจากใจ_ละความโกรธ_ละความหลงออกจากใจ หมดพิษหมดภัย ถ้ายังมีพิษอยู่ มันก็ยังไม่เป็น #จะต้องละสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ออกให้ถึงความบริสุทธิ์

...ฉะนั้น เราจึงพากันมาริเริ่มที่จะทําลายความโลภ ทําลายความโกรธ ทําลายความหลง ซึ่งเป็นกิเลสส่วนใหญ่มีในตัวของทุกๆ ท่านทุกๆ องค์ มันกั้นเราไว้ในภพชาติทั้งหลาย ให้ถึงความสงบไม่ได้ก็เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง #สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ขวางกั้นสมณะ คือ #ความสงบให้เกิดขึ้นทางใจของเราไม่ได้ ถ้าเกิดขึ้นไม่ได้ เราก็ยังไม่เป็นสมณะ ก็คือ ใจของเรายังไม่สงบจากความโลภ ความโกรธ ความหลงนั่นเอง ฉะนั้น เราจึงมาปฏิบัติ ปฏิบัติเพื่อทําลายโลภ โกรธ หลง ออกจากใจของเรา #ถ้าเอาโลภหรือโกรธหรือหลงอันนี้ออกจากใจของเราแล้วมันถึงจะเป็นความบริสุทธิ์ #ถึงความเป็นพระแท้ ที่เราปฏิบัติอยู่นี้ก็เรียกว่า เราเป็นพระโดยสมมุติ สมมุติเฉยๆ ยังไม่ได้เป็นพระ ฉะนั้นเรามาสร้างพระขึ้นในใจของเรา สร้างพระขึ้นทางใจ ไม่ใช่ทางอื่นทางใด

#พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)







“... เรามีบุญเก่าสร้างมา เปรียบเหมือนผึ้ง
กับแมลงวัน

... ถ้าเป็นผึ้งจะเลือกตอม แต่ของหอม..
เหมือนกับการรักษาศีลของเรา เพราะกลิ่นของศีลหอมยิ่งกว่ากลิ่นดอกไม้ทั้งปวง

... แต่ถ้าเป็นแมลงวันจะเลือกตอมแต่ สิ่งที่
เป็นปฏิกูล ให้ดูว่าบุญเก่าเราทำให้เป็นนิสัยเหมือนผึ้งหรือแมลงวัน ..."
-------------------------------------------------------------
โอวาทธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์
#หลวงปู่อว้าน_เขมโก วัดป่านาคนิมิตต์
อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร






"..บุคคลผู้มีสติปัญญาดี เมื่อได้เห็น ได้ยิน ได้ฟังพระสัจธรรมอันเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว เขาย่อมเป็นผู้มีจิตแสนฉลาด รู้ความหมายมีศรัทธาเลื่อมใส เข้าใจในอรรถในธรรม เขาทำแต่กรรมดี ละกายทุจริต ดังจิตเจตนา เว้นห่างจากบาป เช่น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักขโมยเอาข้าวของของผู้อื่น ไม่ประพฤติผิดมิจฉาทางกาม ไม่พูดความเท็จ พูดแต่ความจริง ไม่พูดส่อเสียดให้เกิดความทะเลาะแตกความสามัคคีต่อกันไม่พูดคำหยาบ ไม่แสลงหู ทำให้ผู้ฟังเกิดความเข้าใจดี ไม่มีภัยในคำพูด พูดมั่นคงมีหลักฐาน ไม่เป็นคำเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้ประโยชน์ เป็นวาจาสะอาด นักปราชญ์นิยมชมชอบ.."

ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต)
วัดป่าสุทธาวาส ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 25 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO