พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
จันทร์ 07 เม.ย. 2025 5:41 am
"..สร้างอะไรก็ไม่เท่ากับ #สร้างจิตสร้างใจเจ้าของดอก สุขอยู่ที่ใจ ทุกข์อยู่ที่ใจ สวรรค์นิพพานอยู่ที่ใจ พากันสร้างเอาเด้อ.."
โอวาทธรรม
#หลวงปู่ปั่น สมาหิโต อายุ ๙๙ ปี
"..คนเราถ้ายอมรับความจริงตามหลักศาสนาที่สอนไว้ ตัวย่อมได้รับความเป็นธรรม คือตัวเย็น ผู้เกี่ยวข้องมากน้อยก็เย็น โลกร่มเย็นไม่ค่อยมีการทะเลาะเบาะแว้งแย่งชิง เพื่อแข่งดิบแข่งดีกันให้เดือดร้อนไปทั้งสองฝ่าย ซึ่งสุดท้ายก็เป็นไฟไปตาม ๆ กัน ไม่มีใครได้ครองความสุขดังใจหวัง เพราะเอาใจดวงกำลังเป็นไฟทั้งกอง เข้าไปเป็นหัวหน้าว่าความในกิจการในโรงในศาล ในเรื่องต่าง ๆ ไม่มีประมาณ ด้วยเหตุนี้แลคนเราจึงหาประมาณความทรงตัวได้ยาก อยู่ที่ไหนก็ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟไม่เป็นสุข เพราะใจแบกกองไฟไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่คิดจะปลงวางลงบ้าง พอได้หายใจไกลทุกข์ประสบสุขเสียบ้าง.."
ภูริทตฺตธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ.สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)
คนไทยต้องรู้จักใช้สมบัติตัวเองที่มีอยู่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และบรรพบุรุษ ได้ฝากสมบัติอันล้ำค่าไว้ สิ่งนั้นก็คือพุทธศาสนา ถ้าคนไทยรู้จักใช้รู้จักนำไปปฏิบัติ คนไทยก็จะได้รับผลประโยชน์อันมหาศาล หลักธรรมของพระพุทธเจ้า สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกอย่าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สิ่งแวดล้อม รวมทั้งเรื่องของจิตใจ...
#พระอาจารย์ปสันโน ภิกขุ
วัดป่าอภัยคีรี
มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
#เวลาใกล้จะตายสำคัญ
"..ตายคาภาวนายังดีกว่าตายคานึกถึงสิ่งของ เวลาเราจะตาย เรานึกถึงสิ่งของอันใด ใจขาดด้วย ก็ไปเป็นเขียดกะปาดบ้าง อยู่ตามรั้วอยู่ตามไร่ตามนา ถ้าเรานึกถึงหลานคนนั้นคนนี้ แล้วก็ใจขาดคาที่นั่น เราไปเกิดเป็นเป็ดเป็นไก่เขาหรือเป็นหลานเขา เวลาจะตายสำคัญ อสัญกรรม กรรมเมื่อจวนเจียน
เวลาใกล้จะตายเห็นแสงไฟ ปรากฏเห็นแสงไฟมา ยังไม่คิดไปทางอื่นแล้วก็เลยตายในขณะนั้นก็ไปเกิดในนรก
ถ้าเวลาใกล้จะตายปรากฏเห็นท่าน้ำหรือป่าไม้ แล้วก็สิ้นลมปราณในเวลานั้นยังไม่คิดไปทางอื่น ก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน
เวลาใกล้จะตายปรากฏว่ามืดมนอนธกาล มองไม่เห็นอะไรเลยคล้ายๆว่ากลางคืน สิ้นลมปราณในขณะนั้นก็ไปเกิดเป็นเปรต
เวลาใกล้จะตาย ได้ปรากฏเห็นวิมานและปรากฏเห็นเทวบุตรเทวดา แล้วก็สิ้นลมปราณในขณะนั้น ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวดาเป็นอินทร์เป็นพรหมอยู่ในสรวงสวรรค์หรือพรหมโลก
เวลาใกล้จะตาย ปรากฏเห็นครรภ์มารดา ก็ไปถือปฏิสนธิเกิดอีกในครรภ์
ส่วนพระอรหันต์ไม่ได้เป็นอย่างนั้น เวลาใกล้จะตายก็มาเห็นกายเราส่วนใดส่วนหนึ่ง เช่น ลมหายใจเข้าออกเป็นต้น หรือ กระดูกท่อนใดท่อนหนึ่งเป็นต้น หรือผม ขน เล็บ ฟัน อันใดอันหนึ่งเป็นต้น หรือธาตุน้ำอันใดอันหนึ่งในสกลร่างกายเป็นต้น มีดี เสลด น้ำเลือด เหงื่อ น้ำมันข้น น้ำลาย ไขข้อ น้ำมูตร หรืออันใดอันหนึ่งเป็นต้น ต่อจากนั้นแล้วท่านก็พลิกจิต ไม่ได้ติดอยู่ในผู้รู้ทั้งหลาย ทั้งอดีต อนาคต ปัจจุบันด้วย ท่านก็เข้าสู่พระนิพพานไปซะ หาธรรมอันไม่ตาย
ถ้าเราไม่หัดไว้ทีนี้ ใกล้จะตายมาพุทโธๆแด่เด้อ พุทโธๆเด้อ พุทโธๆยังไงเมื่อมีชีวิตอยู่มันก็ยังไม่ภาวนา เดี๋ยวจะเจ็บอันนั้นปวดอันนี้ ร้องครางไปสารพัดแล้วไม่หัดไว้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ จำเป็นต้องหัดไว้ ถ้าตายคาภาวนาพุทโธ ถึงจะมีเกิด แก่ เจ็บ ตาย อีกก็ตาม เราก็ไปสุคตินานอยู่เหมือนกัน.."
#เทศนาธรรมคำสอน
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
วัดบรรพตคีรี (ภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร
#หลวงพ่อทองพูน กาญจโน ท่านเล่าว่า..
สมัยเฮาไปเที่ยวธุดงค์ทางเหนือไปหาหลวงพ่อเปลี่ยน ปญฺญาปทีโป ไปขอฟังธรรมนำเพิ่น แต่กะบ่ได้อยู่วัดนำเพิ่นดอก ไปอยู่ป่าแถบใกล้ๆ วัดนั่นหละเทียวไปเทียวมาเอา
ไปพ้อกันกับพระฝรั่งเลยได้อยู่นำกัน พระฝรั่งองค์นี่ธุดงค์เก่งคือกัน..เก่งกว่าพระไทยบางองค์อีก แต่เพิ่นพรรษาหลายกว่าเฮา 2 พรรษา ธุดงค์บุกป่าฝ่าดงบ่ย่านเลย ถึงไหนถึงกันขนาดเพิ่นเป็นฝรั่ง แต่ก่อนกะพอเว้ากันรู้เรื่อง แต่ไปกันได้
เวลาเฮาไปวัดเพิ่น (วัดป่ารัตนวัน) พาเฮานั่งรถกอล์ฟ..ลิ่วๆ เที่ยวเบิ่งมุมนั่นมุมนี่เลยตั้ว เพราะคุ้นเคยกันแต่สมัยไปหาหลวงพ่อเปลี่ยนพ้อกันพุ้นหละ อาจารย์ญาณะ
#หลวงพ่อฟิลลิป ญาณธมฺโม
วัดป่ารัตนวัน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
"..เราควรตามรู้ตามเห็น เพราะเราต้องการอยากพ้นทุกข์ และตัวเราเป็นผู้รู้อยู่ ถ้าเรารู้ว่าสิ่งนั้นเป็นไปเพื่อทุกข์เพื่อโทษ เราจะปล่อยให้เราเป็นทุกข์เป็นโทษอยู่ตั้งหลายภพหลายชาติหลายกัปหลายกัลป์เช่นนั้นหรือ เราต้องรีบชำระสะสางอารมณ์สัญญาของเราที่ลุ่มหลงมัวเมาให้เกิดความรู้เท่าเอาทัน ให้นั่งพิจารณาดูว่า เราต้องการความสุขคือความพ้นทุกข์ ถ้าสิ่งเหล่านั้นเป็นไปเพื่อความพ้นทุกข์ เป็นไปเพื่อความสุขแล้ว เราก็ต้องรักษาและปฏิบัติเอาใจใส่ในสิ่งเหล่านั้น ทำให้มากเจริญให้มากขึ้น.."
พหุลกถาโอวาท
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
วัดป่าอุดมสมพร อ. พรรณานิคม จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๔๒-๒๕๒๐)
..#หนทางเดินเข้าหาความสงบระงับที่ถูกต้อง ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงบัญญัติไว้นั้น #ท่านบัญญัติศีลไว้ #บัญญัติสมาธิไว้ #บัญญัติปัญญาไว้ นี่คือ #หนทางเป็นหนทางที่นําไปสู่ความบริสุทธิ์_นําไปสู่ความเป็นสมณะ เป็นหนทางที่ ชําระโลภ โกรธ หลง ออกได้ ฉะนั้น จะต้องเดินจากศีล เดินจากสมาธิ เดินจาก ปัญญา นี่ก็ไม่ได้ผิดแผกกันไปอย่างไร เทียบข้างนอกกับข้างในไม่ได้ผิดแผกกัน
#พระโพธิญาณเถร (ชา สุภทฺโท)
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.