นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน ศุกร์ 18 เม.ย. 2025 9:44 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: สติเป็นปัจจัย
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 08 เม.ย. 2025 5:16 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4893
#ต้องตายเหมือนกันหมดทุกคน

#ให้รีบทำความดีสร้างความดี

"เป็นพระก็ตายเหมือนกัน
เป็นญาติเป็นโยมก็แก่
ก็เจ็บ ก็ตายเหมือนกัน
หนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย
มันเป็นของตาย
ท่านจึงให้รีบทำความดี
ถ้าไม่ทำเอาไว้
ก็ไม่มีโอกาสทำแล้ว
เกิดเป็นสัตว์ให้ทานไม่เป็น
รักษาศีลไม่เป็น ภาวนาไม่เป็น
จะทำบุญให้ทาน
อย่างหนึ่งอย่างใดก็ไม่ได้

มันดีที่เป็นมนุษย์นี่แหละ
เป็นเทวดาก็สู้มนุษย์ไม่ได้
มันเสวยผลบุญอย่างเดียว
เสวยความสุขความสบายอย่างเดียว
ไม่เหมือนเราเป็นมนุษย์
ฉะนั้นการเกิดมาเป็นมนุษย์
เป็นลาภอันประเสริฐแล้ว
ท่านว่ากิจโฉ มนุสสปฏิลาโภ
การเกิดเป็นมนุษย์
เป็นลาภอันประเสริฐแล้ว
พระพุทธเจ้าท่านว่า
เป็นเทวบุตรเทวดา

ก็มาทำความดีอย่างมนุษย์ไม่ได้"
#หลวงปู่คำบ่อ ฐิตปญฺโญ
วัดใหม่บ้านตาล อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร






#ความดีมีอยู่_แสวงหาซิ..!!

"... มนุษย์ทั้งหลายท่านหาความดีได้ ทำไม
เราหาไม่ได้ เวลาไพล่ไปหาความเลวทรามต่ำช้าทำไมหาได้
สิ่งเหล่านั้นมันวิเศษวิโสอะไร ถ้ามันพาคนให้วิเศษ มนุษย์พากันวิเศษเลิศโลกไปนานแล้ว ไม่จมปลักดังที่เห็นกันอยู่นี้เลย

... จึงไม่ควรเพลิดเพลิน ไม่ควรมัวเมาไม่เข้าเรื่องอยู่เปล่าๆ อะไรดีมีสาระรีบแสวงหา
เวลาตายจะมีที่ยึดที่เกาะ
ไม่เป็นไฟทั้งกองไปเสียถ่ายเดียวคนหมด
ที่พึ่งหมดที่อาศัยเป็นคนดีวิเศษละหรือ ใน
โลกก็เห็นๆ กันอยู่ยังจะสงสัยอะไรอยู่อีก ถ้าไม่อยากจมน่ะ ...”
--------------------------------
โอวาทธรรมโดย/.......
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
(พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๕๒๖)






"..ทุกคนเกิดมาก็ต้องการพ้นความทุกข์ทั้งนั้น คือต้องการดับกรรมนั่นเอง แต่ดับไม่ถูก เหมือนกับไฟฟ้านั่นแหละ ไฟฟ้าโรงใหญ่ มันติดเครื่องดังอยู่ตุบๆ ส่งกระแสไฟกระจายอยู่ทั่วไปหมด ผู้ต้องการดับไฟไปดับหลอดเล็กหลอดน้อย มันดับได้เฉพาะหลอดเท่านั้น แต่ไฟต้นตอมันยังเดินอยู่ ถ้าดับต้นตอมันก็ดับวูบหมดด้วยกัน ถึงเปิดมันก็ไม่ติดอีกฉันใด กรรมก็ฉันนั้น ตัวกรรมนั้นเป็นต้นเหตุ ถ้าจะดับทุกข์ ก็ต้องดับกรรมอันเป็นต้นเหตุอย่างที่อธิบายแล้ว เมื่อไม่กระทำกรรม คือใจไม่กระทำ มันก็หมดเรื่องกันไป มันก็ดับหมดเท่านั้นแหละ มีใจอยู่ตราบใด มันต้องทำอยู่ตราบนั้น ถ้าดับตัวใจ ไม่มีใจแล้ว กรรมมันก็ดับหมด ไม่ไปต่อที่ไหน มันไม่เกิดอีกก็ไม่มีกรรมอีก จึงต้องฝึกหัดให้เห็นตัวใจที่แท้.."

#เทศนาธรรมคำสอน
พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
(พ.ศ.๒๔๔๕-๒๕๓๗)






คำว่า "#เปรต" นั้นคืออะไร? จึงได้ไปเป็นเปรต คนเราเกิดมาจนมาเป็นมนุษย์แล้วทำไมจึงได้เป็นเปรตได้

"...เปรตนั้น เป็นไปเพราะด้วยอำนาจของการทำบาปอะไร พวกเราก็จะได้พากันศึกษา คำว่าเปรตนั้นก็คือความหิว ความไม่พอ ความไม่มีทางอิ่ม เพราะหิวโหยอยู่ตลอด จึงเรียกว่าเปรต คำว่าเปรตนั้นมีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่มันจะแสดงเป็นเรื่องของเปรตนั้นแต่ละระดับ..เพิ่นว่า

เปรตมีตั้งหลายจำพวก...
เปรตกินเลือดกินเนื้อของตนเองก็มี
เปรตกินมูตรกินคูตก็มี
กัดตนเองกินก็มี
เปรตหิวน้ำก็มี
เปรตหิวข้าวหิวอาหารก็มี
เปรตเฝ้าสิ่งเฝ้าของทั้งหลายยึดมั่นถือมั่นก็มี

มีหลายชนิดจนถึงกล่าวไว้ตั้ง
12 จำพวกเปรต ให้พวกเราพิจารณาอย่างง่าย ๆ มาดูว่า ก็ไม่ใช่ของง่ายล่ะควรที่จะกำหนดจิตพินิจพิจารณาตามว่า...เราทำบาปความชั่วอะไรจึงได้ไปเป็นเปรต

เปรตทั้งหลายนั้นเปรียบที่บุคคลบางบุคคลเคยเป็นมนุษย์มาแล้ว แต่เข้าไปขโมยสิ่งของอยู่ในวัดในวา เหมือนเขาขโมยกันอยู่ทุกวันนี้แหล่ะ เขาไม่รู้ขโมยอาหารการกินก็ดี ขโมยสิ่งของต่าง ๆ ของในวัดในวา จนเขาขโมยพุทธรูป หรือทรัพย์สมบัติของสงฆ์อยู่ภายในวัด เอาไปซื้อไปขายกัน เขาเป็นกันอยู่ เปรตจำพวกนี้เมื่อตายไปแล้วไปตกนรก

คำว่าตกนรกนั้นก็คือ..อาจจะมาได้ง่าย ๆ มาเกิดเป็นเปรตการมาเกิดเป็นเปรตที่จะมาใช้กรรมนั้นก็คือว่า..แล้วแต่จะตกมา เป็นสัตว์เดรัจฉานก็ได้ เหมือนคนที่ลักขโมยเอาสิ่งของ อาหารการกินของวัดไป ที่ญาติโยมซื๊อมาไว้ว่าจะถวายพระสงฆ์ ยังไม่ได้ถวายพระสงฆ์ แต่พวกนั้นมาขโมยเอาไป เมื่อล่วงลับดับไปแล้ว ก็ไปตกนรก กลับมาเป็นสัตว์เดรัจฉาน ก็มาเฝ้าอยู่ในวัดนี่ก็ได้ มันเป็นอย่างนี้.."

#หลวงพ่อพระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป







"..ถ้าใครกลัวตายเพราะความเด็ดเดี่ยวทางความเพียร ผู้นั้นจะต้องกลับมาตายอีกหลายภพหลายชาติไม่อาจนับได้ ส่วนผู้ใดไม่กลัวตายผู้นั้นจะตัดภพชาติให้น้อยลงถึงกับไม่มีภพชาติเหลืออยู่ และผู้นั้นแลจะเป็นผู้ไปไม่กลับหลังมาหาบทุกข์อีก ตัวผมเองสลบไปถึง ๓ หน เพราะความเพียรกล้าเวทนาทับถม ยังไม่เห็นตายและยังรอดมาเป็นอาจารย์สอนหมู่คณะอยู่ได้ หมู่เพื่อนทำความเพียรยังไม่ถึงขั้นสลบไสลเลย ทำไมจึงกลัวตายกันนักหนาเล่า ถ้าไม่ตายไปพักหนึ่งก่อนก็น่ากลัวไม่เห็นธรรมชาติอัศจรรย์.."


ภูริทตฺธมฺโมวาท
พระครูวินัยธร (หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต) วัดป่าสุทธาวาส อ.เมือง จ. สกลนคร
(พ.ศ.๒๔๑๓-๒๔๙๒)





#เมตตาตัวเองเเน่เด้อ

ในใจพามันนั่งสมาธิ สวดมนต์ภาวนาจักน่อยเเน่ ถ้าเฮาบ่เมตตาพาตัวเองปฏิบัติ ใครจะมาช่วยเราได้ อย่างเก่งสวดมนต์นั่งสมาธิ เมื่อมีสมาธิตั่งมั่นเเนวเเน่เเล้ว
เวลามีปัญหา เวลาอธิฐานขอพรอะไรมันก็จะถึงเผิ่น
บ่สวดมนต์บ่นั่งสมาธิอธิฐานหยังมันก็ไม่มีกำลังถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์ เทพ พรหม
ให้พากันอย่าลืมปฏิบัติภาวนา…

โอวาทธรรม
#หลวงปู่ประเสริฐ_สิริคุตโต









#ธรรมคืออะไร

ธรรมคืออะไร คือสติธรรมเป็นสิ่งสำคัญ ระลึกรู้ตัวอยู่เสมอ ในการเคลื่อนไหวไปมาว่า วันนี้เราทำอะไร การทำของเรา หรือการไปการมา ความเคลื่อนไหวของเรานั้น เคลื่อนไหวไปในทางใดบ้างเป็นไปในทางถูกหรือทางผิด ที่จะนำผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์มาให้เรา

เพราะเราเป็นผู้รับผิดชอบเรา หากเราได้ใช้ความพินิจพิจารณาอยู่ด้วยสติ ตรึกตรองด้วยปัญญาอยู่แล้ว เราจะต้องหักห้ามสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลาย ซึ่งจิตอยากจะทำอยู่ตลอดมานั้นให้เบาบางลงไปได้ หรือให้หยุดได้ในสิ่งที่เห็นว่าไม่ควรนั้นเราก็ไม่ทำ และหักห้ามด้วยอรรถด้วยธรรม เมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็มีความสงบสุข

โอวาทธรรม
#หลวงตาพระมหาบัว_ญาณสัมปันโน






#ความดีมีอยู่_แสวงหาซิ..!!

"... มนุษย์ทั้งหลายท่านหาความดีได้ ทำไม
เราหาไม่ได้ เวลาไพล่ไปหาความเลวทรามต่ำช้าทำไมหาได้
สิ่งเหล่านั้นมันวิเศษวิโสอะไร ถ้ามันพาคนให้วิเศษ มนุษย์พากันวิเศษเลิศโลกไปนานแล้ว ไม่จมปลักดังที่เห็นกันอยู่นี้เลย

... จึงไม่ควรเพลิดเพลิน ไม่ควรมัวเมาไม่เข้าเรื่องอยู่เปล่าๆ อะไรดีมีสาระรีบแสวงหา
เวลาตายจะมีที่ยึดที่เกาะ
ไม่เป็นไฟทั้งกองไปเสียถ่ายเดียวคนหมด
ที่พึ่งหมดที่อาศัยเป็นคนดีวิเศษละหรือ ใน
โลกก็เห็นๆ กันอยู่ยังจะสงสัยอะไรอยู่อีก ถ้าไม่อยากจมน่ะ ...”

โอวาทธรรม
#หลวงปู่ขาว_อนาลโย
วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
(พ.ศ. ๒๔๓๑ - ๒๕๒๖)






#สติเป็นปัจจัยหลักของการปฏิบัติ

"...สติเป็นปัจจัยหลักของการปฏิบัติ ต้องเจริญสติก่อน สติเป็นเหมือนเชือก ที่จะผูกใจดึงใจเอาไว้ ให้อยู่นิ่ง ไม่ให้ไปเพ่นพ่านตามที่ต่างๆ ใจเป็นเหมือนลิง

ถ้าไม่มีเชือกผูกคอไว้แล้วโยงไว้กับเสา ลิงจะไม่อยู่เฉยๆ จะต้องไปเพ่นพ่านทั่วไปหมด เวลาจะจับลิงเข้ากรง ก็จะไม่สามารถจับได้ แต่ถ้าเราผูกมันไว้กับเสา พอถึงเวลาจับเข้ากรง ก็จะลากมันเข้าไปในกรงได้อย่างง่ายดาย

นี่คือสติ ที่เป็นเหมือนเชือกที่จะดึงจิต ไม่ให้ไปเพ่นพ่านตามที่ต่างๆ เวลาจะจับจิตเข้ากรงเข้าสมาธิ ให้จิตรวมลงเป็นหนึ่ง เป็นเอกัคตารมณ์ ถ้ามีเชือกคือสติดึงจิตเข้าไปในกรง ก็จะไม่ยากเย็น ถ้าไม่มีเชือกก็จะไม่มีทางที่จะจับจิตเข้ากรงได้ เหมือนใช้มือเปล่าจับลิง ลิงมันเร็วกว่าเราหลายร้อยเท่า จิตมันเร็วกว่าเราหลายร้อยเท่า

มีสติเท่านั้นที่จะปราบมันได้ ถ้าอยากจะมีสมาธิมีปัญญาก็ต้องมีสติก่อน การเจริญสติจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ต่อการเจริญสมาธิปัญญา และวิมุตติการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง..."

โอวาทธรรม
#พระอาจารย์สุชาติ_อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามฯ
จังหวัดชลบุรี
วันที่ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 10 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO