นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 23 เม.ย. 2025 5:09 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: ใช้หลักเมตตา
โพสต์โพสต์แล้ว: อาทิตย์ 13 เม.ย. 2025 5:38 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4897
"..ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี ที่หาได้ยากยิ่ง.." แม้เพียงการตั้งใจนึกไว้ให้เสมออย่างน้อยวันละครั้งก็ยังดี ใจเป็นใหญ่ ใจเป็นประธาน ทุกสิ่งที่สำเร็จด้วยใจ นี้เป็นพระพุทธศาสนสุภาษิต ขอให้นึกถึงพระพุทธศาสนสุภาษิตนี้

ทำความเข้าใจให้ถูกต้องชัดเจนว่าใจของเราทุกคนเป็นใหญ่ มีอานุภาพยิ่งใหญ่ความรู้พระคุณท่านผู้ใดก็ตามก็เกิดที่ใจ ดังนั้นการตอบแทนพระคุณท่านก็ทำได้ด้วยใจ อะไรอื่นก็ไม่สำคัญไปกว่าใจ ใจรู้พระคุณท่านได้ ใจก็ตอบแทนพระคุณท่านได้

เพียงให้เป็นความรู้พระคุณท่านจริงใจเท่านั้น ความสำเร็จก็จะเกิดตามมาแน่นอน ดังพระพุทธศาสนสุภาษิตที่ว่า "..ทุกสิ่งสำเร็จด้วยใจ.." ทั้งที่ดีชั่วไม่ได้เกิดแต่อะไรอื่นเป็นสำคัญ เกิดแต่ใจที่มุ่งดีหรือไม่มุ่งดีเท่านั้นเป็นสำคัญ.."

สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร







วันไหนถ้าประมาทก็แปลว่าไม่ดี
ถ้าไม่ประมาททำแต่กรรมดี วันนั้นดีหมด
มืดกับสว่าง ไม่เคยทำอะไรให้คน
มีแต่คนขี้เกียจก็คือคน ขี้โลภก็คือคน
วันนี้มีแต่มืดกับแจ้งยี่สิบสี่ชั่วโมง
ทำอะไรคนไม่ได้นี้
โลกนิยม ธรรมไม่นิยม
ไม่มีวันนั้นวันนี้
วันไหนไม่ประมาททำแต่กรรมดี
วันนั้นดีตลอดนั้น....

#หลวงปู่ทุย ฉนฺทกโร
วัดป่าดานวิเวกในพระบรมราชูปถัมภ์ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ









"... ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย
มันครอบงำเราอยู่ทุกเมื่อ พิจารณาให้รู้แจ้งเห็นจริงเสีย แม้อบายโลก เขาก็ฆ่ากันกินกันอยู่ ความตายจึงไม่มีที่จะหลีกเร้นซ่อนหนี

... ที่พึ่งอย่างอื่นไม่มีนอกจาก พุทฺธํ ชีวิตํ
ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ธมฺมํ ชีวิตํ ยาว
นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ สงฆํ ชีวิตํ ยาว นิพฺพานํ สรณํ คจฺฉามิ ที่พึ่งอย่างอื่นของข้าพเจ้าไม่มี นอกจากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

... เราต้องหาที่พึ่งอันประเสริฐไว้เสียแต่บัดนี้ แต่ยังมีชีวิตอยู่อย่างนี้ ยังแข็งแรงอยู่อย่างนี้ ถ้าร่างกาย จิตใจมันไม่อำนวยแล้ว จะไปคิด
ถึงอะไร.จะไปยึดไปถือเอาอะไรเป็นที่พึ่งมันยาก ..."
-----------------------------------
#คติธรรม
#หลวงปู่แหวน_สุจิณโณ.วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (พ.ศ.๒๔๓๐ -​ ๒๕๒๘)







.#ศีล #สมาธิ #ปัญญา นี้เป็นชื่อของข้อปฏิบัติ เรามาปฏิบัติศีล ปฏิบัติสมาธิ ปฏิบัติปัญญา ก็คือมาปฏิบัติที่เรานี่แหละ เรามาปฏิบัติที่เรานี้ถูก ถูกศีลอยู่นี่ ถูกสมาธิอยู่นี่ เพราะอะไร เพราะกายก็อยู่ที่เรานี้

#ศีลนี้ก็แสดงถึงกายทุกชิ้นส่วน อวัยวะทุกชิ้นส่วนนี้ ท่านให้รักษา คําว่า "ศีล" นี้ท่านให้รักษากาย กายเราก็มีแล้ว อย่างไรล่ะ เท้าก็มี มือก็มี มีแล้วกาย นี่คือที่รักษาศีล มันจะเป็นศีลเป็นธรรม คือ มารักษาอยู่นี่ อันนี้มีแล้ว วาจาคือคําพูดของเรา พูดเท็จก็ดี พูดส่อเสียดก็ดี พูดคําหยาบก็ดี พูดเพ้อเจ้อก็ดี เหล่านี้แหละ กายก็ดี ฆ่าสัตว์ก็ดี ลักทรัพย์ก็ดี ประพฤติผิดในกามก็ดี นั่นพูดง่ายๆ ตามบัญญัติ มันก็อยู่กับเรานี้ทั้งหมด

...มันมีอยู่แล้ว กายก็มี วาจาก็มีแล้ว มีอยู่กับเรานี่เอง ทีนี้เมื่อเรามาสํารวม คือ เรามาดูการฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม อย่างนี้เป็นต้น อันนี้ท่านดูกายหยาบๆ นะ ฆ่าสัตว์ก็คือเอาค้อน เอากําปั้นนี้ไปฆ่ามัน สัตว์น้อยสัตว์ใหญ่นั้นน่ะ หยาบเหมือนที่เราเคยทํามาแล้ว แต่ก่อนเราเคยทํามา #ไม่ได้รักษาศีล เราก็ทํามา ละเมิดมา ไม่ได้สํารวมวาจา พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคําหยาบ คําเพ้อเจ้ออย่างนี้แหละ พูดเท็จก็คือพูดโกหกนั่นแหละ พูดคําหยาบก็คือพูดไปเรื่อย ไอ้หมู ไอ้หมา ฯลฯ พูดเพ้อเจ้อก็คือพูดเล่น สิ่งที่ไม่เป็นสาระประโยชน์ พูดไปว่าไป สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ เราเคยเล่นเคยพูดมาแล้วทุกอย่าง ไม่ได้สํารวม #การรักษาศีลก็คือมาดูกาย #มาดูวาจาของเรานี้

#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)







...การปฏิบัติจึงต้องตั้ง "#สติ" คือ #ความระลึกได้ไว้ในผู้รู้ ผู้ที่มันรู้จักนั้น ให้ลักของเขา ให้ฆ่าสัตว์ ให้ผิดในกาม ให้พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ พูดเล่น พูดหัว ทุกสิ่งทุกอย่างนั้น ผู้รู้พาให้พูด นี่มันมีที่อยู่ อยู่ที่นั่น #เอาความรู้หรือเอาสติ คือ #ความระลึกได้เสมอไว้กับผู้รู้นั้นแหละ #ให้ผู้นั้นรักษา คือ "#รู้" นั่นเอง ท่านจึงบัญญัติไว้หยาบๆ ฆ่าสัตว์เป็นบาป ผิดศีล ลักทรัพย์ก็ผิด ประพฤติผิดในกาม....ผิด พูดเท็จ...ผิด พูดคําหยาบเพ้อเจ้อ...ผิด เราจําไว้ อันนี้เป็นบัญญัติของท่าน #อาญาของพระพุทธเจ้า

..ทีนี้เราก็มาระวัง ผู้ที่เคยละเมิดมาแล้ว เคยสั่งเรา เมื่อก่อนมันเคยสั่งเรา เคยสั่งให้ฆ่าสัตว์ ให้ลักทรัพย์ ให้ประพฤติผิดในกาม ให้พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคําหยาบ พูดเพ้อเจ้อ พูดไม่ได้สังวรสํารวมต่างๆ ร้องรําทําเพลง ผิวปาก ดีดตีสีซอ ทั้งหลายเหล่านี้แหละ #ผู้ใดเป็นผู้สั่ง #กลับมาให้ผู้นั้นเป็นผู้รักษาเลย เอาสติคือความรู้สึกนั้นระลึก ให้มันสํารวมอย่างนั้น ให้หมั่นรักษาตัวเอง รักษาให้ดี ถ้ามันรักษาได้นะ

...กายก็รักษาไม่ยาก เพราะอยู่ใต้ปกครองจิต วาจาก็รักษาไม่ยาก เพราะอยู่ใต้ปกครองของจิต ฉะนั้น การรักษาศีลคือการรักษากายวาจานี้ เป็นของไม่ยาก #เรามาทําความรู้สึกทุกๆ อิริยาบถ ไม่ว่าการยืน เดิน นั่ง นอน ทุกๆ วาระของเรา ก่อนที่จะทําอะไรให้รู้ก่อนเลย ก่อนที่จะพูดจะจาอะไรก็ให้รู้ก่อน #อย่าให้ทําก่อน พูดก่อน #ให้รู้เสียก่อน จึงพูดจึงทํา #ให้มีสติคือความระลึกได้ก่อนที่จะทําจะพูดอะไรก็ช่างต้องให้ระลึกได้เสียก่อน

#พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)







"มีน้ำใจเป็นทานเถิด จะรักษาศีลได้อย่างไม่ต้อง
ตั้งใจเลย ความเดือดร้อนก็จะผ่อนคลายถึงหมดสิ้นได้
โดยไม่ต้องเหนื่อยยากแก้ไขอีกต่อไป เป็นการน้อมรับ
พระพุทธพรในปีใหม่นี้ ซึ่งจะยั่งยืนตลอดไปในทุกๆ ปี
ไม่เสื่อมคลาย"

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ






“ทำสมาธินั้น ถ้าเราไม่เห็นทุกข์ เราก็ไม่เห็นธรรม ธรรมนั่นแหละอยู่ในทุกข์ #ถ้าเราไม่อดทน เราก็จะไม่ได้ของดี
ทุกข์เวทนานั้น ใครก็ไม่อยากเจอ

แต่ถ้าใครได้เจอแล้ว ก็จะได้ของดี จะได้ความสุข เพราะความสุขนั้นมันเลยความทุกข์ขึ้นไป ทุกข์มาก ก็สุขมาก ถ้าพิจารณาให้เข้าใจ”

โอวาทธรรม..พระอาจารย์สำราญ ผาสุโก วัดป่าตะเคียนทอง จังหวัดอุดรธานี









"ของในโลกไม่มีอะไรที่จะประเสริฐกว่าคำพูดว่า "พุทโธ" อะไรที่จะเสมอเหมือนหรือประเสริฐสุด ยิ่งกว่าคุณธรรมของพระพุทธเจ้าไม่มี"

กราบโอวาทธรรม... หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี







#ไม่มีอะไรที่จะน่าเสียดายเท่ากับปล่อยวันเวลาผ่านเลยไปโดยไร้ประโยชน์

"เวลาที่หมดสิ้นไป โดยไม่ได้ทำอะไรที่เป็นคุณประโยชน์แก่ตัวเองบ้างในชีวิตที่เกิดมาในโลกและได้พบกับพระพุทธศาสนานี้ ช่างเป็นชีวิตที่น่าเสียดายยิ่งนัก

เวลาแม้เพียงหนึ่งนาทีที่ผ่านไปนั้น แม้ว่าจะทุ่มเงินจำนวนมหาศาล ก็ไม่สามารถซื้อกลับคืนมาได้

ฉะนั้น สิ่งที่น่าเสียดายในโลกนี้ จะมีอะไรน่าเสียดายเท่ากับปล่อยวันเวลาผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ แม้ว่าจะเพียงแค่นาทีเดียว"

กราบโอวาทธรรม...หลวงปู่สิม พุทธาจาโร







#ใช้หลักเมตตาในการอยู่ร่วมกัน

"การมองกันอย่ามองในแง่ร้าย ให้มองในแง่เหตุผลเสมอ หากมีเหตุผลหรือความจำเป็นที่จะมองกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกันในการอยู่ร่วมกันให้คิดเผื่อไว้เสมอ คือ..ความเมตตา ความให้อภัยซึ่งกันและกันนี้ เป็นหลักของผู้ปฏิบัติธรรม"

กราบโอวาทธรรม...หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน








"เกิดมาทั้งทีชีวิต ให้สู้ อย่าไปถอยหลังนะ คำว่า..สู้ คำนี้ไม่ใช่ว่าเราจะไปรบราฆ่าฟันคนอื่น ไม่ใช่นะ

ให้สู้..กับชีวิตด้วยสติ ด้วยปัญญาของเรา อันไหนที่จะเกิดประโยชน์ อันไหนดีที่สุด อันไหนที่ไม่เบียดเบียนตนและผู้อื่น ต้องเก็บหอมรอมริบ แล้วก็ดูการเป็นอยู่ของเรา อย่าเกียจคร้าน ใช้สุรุ่ยสุร่าย ให้รู้จักการวางตัว รู้จักเก็บหอมรอมริบ วางแผนชีวิตของพวกเรา ชีวิตของเราจะราบรื่นนะลูกหลาน แต่ถ้าเราไม่รู้จักวางแผนชีวิตของเรา เราจะเดือดร้อนเมื่อปลายมือ"

โอวาทธรรม หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
จากพระธรรมเทศนา “วางแผนให้อนาคต”
แสดงธรรมเมื่อวันที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๘


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 9 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO