พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ศุกร์ 22 พ.ค. 2009 12:10 pm
ชาวพุทธจำนวนไม่น้อย ชอบทำบุญ แต่ไม่ชอบละบาป หลวงปู่ชาท่านอุปมาว่าเปรียบเหมือนเอาผ้าสกปรกไปย้อมโดยไม่ยอมซักล้างให้สะอาดเสียก่อน สีที่ย้อมมันจึงไม่สวยและไม่ทน เพราะย้อมบนผ้าขี้ริ้ว
การละบาป ชัดเจนที่สุดก็คือการรักษาศีลนั่นเอง หลวงปู่ดู่ท่านให้ความสำคัญกับเรื่องศีลอย่างยิ่ง ถึงขนาดให้ตั้งจิตเจตนารักษาศีลไว้เสมอๆ แม้กระทั่งก่อนออกไปหาปลา ท่านว่าอย่างน้อยก็มีศีลอยู่กับตัวในระหว่างก่อนหาปลา เผื่องูมาฉกตายไปในระหว่างทาง ก็ยังนับว่าตายอยู่ในศีล มันเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจสำหรับผู้จำเป็นต้องประกอบอาชีพในทางปาณาติบาต หาปูหาปลา ฯลฯ เลี้ยงชีวิต แต่ถ้าเป็นผู้ที่เห็นภัยจริงๆ แล้ว ก็ย่อมขวนขวายให้ตัวเองหลุดออกมาจากวงจรปาณาติบาตนั้นให้ได้
เคยมีลูกศิษย์คนหนึ่งของหลวงปู่ดู่ เป็นผู้หญิงสาวซึ่งเข้ามาสนใจภาวนาแต่ก็ยังไม่เลิกดื่มสุรา วันหนึ่งเธอดื่มจนเคลิ้มหลับไป มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ขอบกระทะทองแดงที่ร้อนและน่าสะพรึงกลัวอย่างมาก โดยอัตโนมัติ เธอได้ร้องเรียกหลวงปู่ให้ช่วยเธอด้วย พอรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็สร่างเมาในทันทีด้วยชีพจรที่ยังคงเต้นแรง ด้วยความเห็นโทษและเกรงกลัวต่อผลกรรม จึงทำให้เธอเลิกดื่มสุราได้ด้วยตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ ใครๆ มาตักเตือนเธอก็มักไม่เป็นผล
งานบุญในหลายแห่ง ผู้ที่ร่วมบุญมักกินดื่ม เล่นไพ่ สารพัดอบายมุขที่จะขนไปพร้อมกับงานที่เรียกว่า “งานบุญ” นั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าสลดสังเวชใจ และเห็นจริงดังที่หลวงปู่ชาท่านว่า คนสมัยนี้ชอบแสวงหาบุญ แต่ไม่แสวงหาการละบาป
______________________________
บทความจากพี่พรสิทธิ์
ศุกร์ 22 พ.ค. 2009 2:27 pm
ผมยังจำได้เลยครับ ถึงคำพูดของหลวงพ่อชา สุภัทโท ที่ว่า
"ผ้าสกปรก แต่อยากจะรับน้ำย้อมนะ"
ขอบพระคุณสำหรับธรรมะเตือนใจดี ๆ อย่างนี้ครับ
ศุกร์ 22 พ.ค. 2009 4:50 pm
ยังดีที่ผมเปรียบเสมือนผ้าขาวรอการย้อมจากพี่ๆอยู่
เสาร์ 23 พ.ค. 2009 1:25 am
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.