อังคาร 02 มิ.ย. 2009 3:37 pm
- lptoud.jpg (138.19 KiB) เปิดดู 1194 ครั้ง
ในบทอาราธนากรรมฐานของหลวงปู่ดู่นั้น จะมีคำว่า
“พุทธังชีวิตัง เม ปูเชมิ, ธัมมังชีวิตัง เม ปูเชมิ, สังฆังชีวิตัง เม ปูเชิมิ” แปลว่าข้าพเจ้าขอสละชีวิตบูชาพระพุทธเจ้า บูชาพระธรรม บูชาพระสงฆ์
ผู้เขียนรู้สึกกระดากอายหลวงปู่อยู่บ่อยครั้ง เพราะเห็นว่าตัวเองมักกล่าวคำอาราธนาข้างต้นขึ้นมาด้วยความเคยชิน โดยมิได้มีจิตใจที่จะปฏิบัติชนิดเสียสละชีวิตจริง ๆ ถามว่าสังเกตได้จากอะไร คำตอบคือ ในระหว่างที่กำลังปฏิบัติอยู่ หากรู้สึกปวดท้องขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย ผู้เขียนก็จะลุกขึ้นไปห้องน้ำทันที บางที่มีเสียงโทรศัพท์ก็ลุกไปรับ บางทีเมื่อยหน่อย ง่วงหน่อย ก็ว่าพอสมควรแก่เวลา ...เลิก ๆ
การพรวดพราดเลิกกรรมฐานเช่นนี้ ครูบาอาจารย์ท่านว่าเหมือนตอนขึ้นบนบ้านก็เดินขึ้นบันไดตามปรกติ แต่เวลาลง กลับกระโดดออกทางหน้าต่างเลย
ปากก็ว่าข้าพเจ้าขอสละชีวิตบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ แต่พอมีสิ่งกระทบเล็กๆ น้อยๆ เรากลับพร้อมเลิกทำกรรมฐาน ...ช่างน่าละอายเสียจริงๆ
พอดีได้อ่านพบเรื่องราวของนายสุมนะ ผู้เป็นนายมาลาการคือผู้มีหน้าที่ร้อยพวงมาลัยถวายพระเจ้าแผ่นดิน นายสุมนะผู้นี้ได้กลายเป็นตัวอย่างของผู้ที่ยอมสละชีวิตเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า ด้วยการตัดสินใจนำพวงมาลัยที่จัดเตรียมไว้สำหรับถวายพระเจ้าพิมพิสาร เอาไปถวายพระพุทธเจ้าด้วยความศรัทธายิ่ง ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าการกระทำเช่นนี้ อาจถูกสั่งประหารชีวิตได้ แต่นายสุมนะกลับสละได้แม้กระทั่งชีวิตตนเองเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า นายสุมนะคิดว่าทรัพย์ค่าจ้างที่ได้รับจากพระเจ้าแผ่นดินก็แค่เลี้ยงชีวิตเขาได้แค่ชาติเดียว แต่การทำบุญสักการะพระพุทธเจ้านั้น มีอานิสงส์ยาวนานเป็นโกฏิชาติ
กำลังใจของนายสุมนะผู้นี้สิ จึงจะสมกับคำปฏิญญาว่า “พุทธังชีวิตัง เม ปูเชมิฯ” จนพระพุทธเจ้ากล่าวกับพระอานนท์ว่า อานนท์ เธออย่าเห็นว่าการถวายพวงมาลัยของนายสุมนะนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะด้วยกำลังใจที่เสียสละชีวิตเพื่อบูชาพระพุทธเจ้า บูชาพระธรรม บูชาพระสงฆ์ จะทำให้เขาเสวยสุขในมนุษย์โลก เทวโลก ไม่ไปสู่ทุคติภูมิตลอดแสนกัลป์ เบื้องหน้าแสนกัลป์ต่อจากนี้ เขาจะได้ตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่า
“สุมนะปัจเจกพุทธเจ้า”------------------------------------------------------------
บทความจากพี่พรสิทธิ์