พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:04 am
- .jpg (34.83 KiB) เปิดดู 1151 ครั้ง
ในทางพระพุทธศาสนานั้น บุญมิได้แปรผันตามจำนวนปัจจัยในการทำบุญ เรื่องนี้ หลวงปู่ดู่เคยยืนยันว่า เงินทำบุญ ๑ บาท ของผู้ที่ทำบุญด้วยจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัย ก็อาจได้บุญมากกว่าเงินทำบุญ ๑ ล้านบาท ของผู้ที่ทำบุญเพื่อเอาหน้าเอาตา
บางคนมีปัจจัยน้อย การจะเสียสละเงินเพื่อทำบุญได้นั้นเขาต้องใช้กำลังใจอย่างสูงในการฆ่าความตระหนี่ในใจของเขา อานิสงส์จึงสูงตามไปด้วย ดังอดีตชาติของพระสาวกท่านหนึ่ง ท่านสู้อุตสาห์ทำงานหนักหลายปีเพื่อหวังจะได้อาหารที่สุดประณีตอย่างที่มหาเศรษฐีในเมืองเขารับประทาน เพียงแค่สักมื้อเดียว
แต่พอเวลานั้นมาถึงจริง ๆ เขากลับตัดใจยกอาหารนั้นใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหมด แม้พระเจกพุทธเจ้าจะทักท้วงว่าเก็บไว้ทานเองครึ่งหนึ่งเถิด เขาก็กราบเรียนไปว่า ขอพระคุณเจ้าเมตตารับอาหารทั้งหมดนั้นเถิด เพื่อประโยชน์สุขแก่ข้าพตราบนานเท่านาน ก็เพราะเหตุที่ข้าพเจ้ามิได้ทำบุญถวายท่านแด่ท่านผู้ทรงศีลในอดีต ข้าพเจ้าจึงต้องทำงานหนักเพียงเพื่อจะได้อาหารอันประณีตสักมื้อหนึ่ง ครั้นเขาได้ทำบุญแล้วอานิสงส์ก็ส่งผลกับเขาในชาตินั้นเลย...
ที่หน้ากุฏิหลวงปู่ ข้าพเจ้ามักพบเห็นผู้เฒ่าชาวบ้านในละแวกนั้นที่เป็นนักปฏิบัติ มานั่งอยู่ข้าง ๆ (ด้านล่าง) เขาจะมาคอยพนมมืออนุโมทนาบุญกับบรรดาญาติโยมที่มาถวายทานกับหลวงปู่
หลวงปู่บอกว่า...
"พวกนี้เขาฉลาดหาบุญ ได้แก่ บุญจากการอนุโมทนา แต่ที่สำคัญเขารู้จักใช้สมาธิให้เป็นประโยชน์ โดยการอธิษฐานของสังฆทานนั้นให้สว่างแล้วขอหลวงปู่ทวดนำขึ้นไปถวายพระพุทธเจ้า"
ด้วยกำลังจิตอย่างนี้ คิดดูเอาเถิดว่าบรรดาแผนกอนุโมทนาบุญเหล่านั้น ซึ่งเขาทำกันทุกวัน ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ เขาจะได้บุญมากเพียงใด
.......................................................
บทความจากพี่สิทธิ์
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:17 am
สาธุ........
ช่วงนี้แผนกนี้ น่าสนใจมากครับ
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:33 am
- โชติโกre1.jpg (23.39 KiB) เปิดดู 1137 ครั้ง
แต่ท่านพ่อเฟื่อง โชติโก วัดธรรมสถิต ต.กระเฉด อ.เมือง จ.ระยอง ศิษย์ในท่านพ่อลี ธัมมธโรและท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต เคยกล่าวปรามลูกศิษย์ที่ชอบอนุโมทนาบุญอย่างนี้ว่า...
"พวกหุ้นลม"
ท่านว่า พวกหุ้นลมมาอีกแล้ว ของตัวเองไม่ยอมทำ คอยแต่มานั่งโมทนาของที่ชาวบ้านเขาทำ
แต่ผมเข้าใจครับว่าศิษย์ทั้งสองสำนักทำต่างกันอย่างไร พวกชาวบ้านที่มานั่งอนุโมทนาบุญที่กุฏิหลวงปู่ดู่นั้นคงทำกับข้าวมาเองและถวายท่านเรียบร้อยแล้ว ในระหว่างที่รอเวลารับพรนั้นใครมาถวายอะไรกับหลวงปู่ดู่ผู้เฒ่าเหล่านั้นเลยถือโอกาสอนุโมทนาบุญจากที่คณะศิษย์ทั้งหลายนำมาถวายทานต่อจากผู้เฒ่ากลุ่มนั้น
ผิดไปจากศิษย์ของท่านพ่อเฟื่องกลุ่มหนึ่ง ที่ตนเองก็มิได้เอาอะไรมาถวาย แต่คอยจะอนุโมทนาของคนอื่นเพียงอย่างเดียวแบบไม่ต้องลงทุน แบบนี้บุญไม่เกิดจริงหรอกครับเพราะจิตประกอบไปด้วยความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ได้คิดสละทรัพย์ส่วนตัวของตนออกบำเพ็ญทานบ้างเลย
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:35 am
อนุโมทนาด้วยครับ...สาธุ
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 9:45 am
อ่านแล้วดีมากๆครับ
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 12:56 pm
แล้วไม่อนุโมหรือครับคุณน้องใหม่
เสาร์ 06 มิ.ย. 2009 8:30 pm
ขอเข้ามาร่วม อนุโมทนาบุญ ด้วยเจ้าค่ะ
อังคาร 09 มิ.ย. 2009 1:25 pm
อย่างนี้ได้แน่ครับ
พุธ 10 มิ.ย. 2009 10:41 pm
สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยครับ
พฤหัสฯ. 11 มิ.ย. 2009 12:35 am
หวังว่านินจาข้างบนจะได้บุญไม่น้อยนะครับ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.