บ่ายวันหนึ่ง หลวงปู่ดู่ท่านได้ยกเรื่องที่หลวงปู่ทวดท่านสงเคราะห์ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่เว้นแม้แต่เรื่องของเด็ก ๆ
วันนั้น ท่านยกมาเล่าให้ฟัง ๒ เรื่อง เรื่องแรกเป็นเรื่องของเด็กที่กำลังทำข้อสอบภาษาอังกฤษ เขาทำข้อสอบหมดแล้ว ก็กลับมาที่ข้อที่ยังทำไม่ได้ และด้วยความที่เด็กคนนี้ก็เคยฝึกหัดภาวนาที่วัดสะแก จึงได้ระลึกถึงหลวงปู่ทวด แต่ครั้นจะร้องขอหลวงปู่ทวดให้ช่วยเหลือ ก็ไม่แน่ใจด้วยคิดว่าหลวงปู่ท่านเป็นพระไทยโบราณ ท่านคงไม่รู้ภาษาอังกฤษ หรือไม่ท่านก็คงไม่อาจสื่อสารกับเขาได้แน่ แต่ในเมื่อเวลาทำข้อสอบยังไม่หมด เด็กคนนั้นจึงพยายามทำภาวนาในใจ ... และแล้วเหตุการณ์แปลกประหลาดที่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น กล่าวคือ เด็กคนนั้น เห็นหลวงปู่ทวดยืนอยู่หน้าชั้น แล้วเขียนคำตอบเป็นภาษาอังกฤษบนกระดานดำให้เขามองเห็น หลวงปู่ดู่ท่านเล่าให้ฟังอย่างอารมณ์ดี
เรื่องที่ ๒ ที่หลวงปู่เล่าให้ฟังต่อเนื่อง คือ เรื่องของเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ คนหนึ่ง ระหว่างทางที่เดินกลับบ้าน เขาเห็นสุนัขตัวน้อยกำลังถูกสุนัขตัวใหญ่รุมกัด เด็กคนนั้นก็ร้องขอหลวงปู่ทวดว่า "หลวงปู่ช่วยมันด้วย" ทันใดก็มีมือขนาดใหญ่ปัดไล่จนสุนัขตัวที่รุมกัดเจ้าสุนัขตัวน้อยผู้น่าสงสาร หนีกระเจิงไป
หลวงปู่ท่านสรุปว่า มีเรื่องอะไร ๆ ก็ร้องขอหลวงปู่ทวดท่านได้ แต่ทีนี้ ผู้เป็นศิษย์ก็ต้องรู้เข้าใจเองว่า เรื่องเหล่านั้นต้องเป็นเรื่องที่ชอบที่ควร ไม่ผิดศีลธรรม และอยู่บนพื้นฐานของการช่วยเหลือตนเองอย่างเต็มที่แล้ว ไม่เช่นนั้น จะพลัดจากพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นศาสนาแห่งกรรมและความเพียร ไปสู่เทวนิยมซึ่งเน้นการอ้อนวอนขอร้องมากกว่าพึ่งตนเอง
-----------------------------------------------
บทความจากพี่พรสิทธิ์