พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
จันทร์ 22 มิ.ย. 2009 12:30 pm
วิปัสสนาญาณที่ ๕ -- ภังคญาณ
แม้ว่า อุทยัพพยญาณจะประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไปของนามธรรม
และรูปธรรมแต่ละลักษณะอย่างชัดเจนแล้ว แต่ความยินดี พอใจ ยึดมั่นในสภาพ
ธรรมทั้งหลายที่สะสมมาเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ก็ยังเหนียวแน่นอยู่ แสดงให้เห็น
มูลรากที่ฝังแน่นของอวิชชาและตัณหาในความเป็นตัวตน ซึ่งปัญญาจะต้อง
อบรมเพิ่มขึ้นอีก โดยสติปัฏฐานระลึกรู้ลักษณะที่ได้ประจักษ์การเกิดขึ้นและดับ
ไปของนามธรรมและรูปธรรมที่ปรากฏแก่อุทยัพพยญาณแล้ว และจะต้องใฝ่ใจ
พิจารณาการดับไปของนามธรรมและรูปธรรมที่ปรากฏ เพื่อปัญญาจะได้เห็น
ความไม่มีสาระของนามธรรมและรูปธรรมที่ดับไปๆ เมื่อสติปัฏฐานเจริญขึ้น
ปัญญาเพิ่มขึ้นจนมีปัจจัยสมบูรณ์พร้อมเมื่อไร ภังคญาณก็เกิดขึ้นประจักษ์แจ้ง
ความไม่มีสาระของการเกิดขึ้นและดับไปๆ ของสภาพธรรมที่ปรากฏ เป็นปหาน
ปริญญาซึ่งจะนำไปสู่การเจริญปัญญาขั้นต่อๆ ไป ที่เริ่มจะละคลายความพอใจ
ยึดมั่นในสภาพธรรมว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคล
วิปัสสนาญาณที่ ๖ -- ภยญาณ
เมื่อภังคญาณดับหมดแล้ว ผู้อบรมเจริญสติปัฏฐานก็รู้ว่า กิเลสทั้ง
หลายยังมีกำลังเกิดขึ้นเป็นไปตามการสะสม ซึ่งแม้จะใฝ่ใจระลึกถึงลักษณะที่ดับ
ไปๆ ของนามธรรมและรูปธรรม ความยึดถือนามธรรมและรูปธรรมว่าเป็นตัวตน
ก็ยังฝังแน่นอยู่ ซึ่งจะละคลายลงได้ก็ด้วยการเห็นภัยของการดับไปๆ ของ
นามธรรมและรูปธรรมนั่นเอง สติปัฏฐานและปัญญา จึงระลึกรู้ลักษณะของ
นามธรรมและรูปธรรมต่อๆ ไป ด้วยการพิจารณาเห็นภัยของการดับไปๆ ของนาม
ธรรมและรูปธรรม เมื่อปัญญาสมบูรณ์พร้อมด้วยปัจจัยขณะใด ภยญาณก็เกิด
ขึ้นเห็นภัยของนามธรรมและรูปธรรมในขณะที่กำลังประจักษ์แจ้งการเกิดดับของ
นามธรรมและรูปธรรมในขณะนั้น
วิปัสสนาญาณที่ ๗ -- อาทีนวญาณ
แม้ว่า ภยญาณ จะเห็นภัยของการเกิดขึ้นและดับไปของนามธรรม
และรูปธรรมแล้ว เมื่อ ภยญาณดับไปแล้ว ความยินดีพอใจในการยึดถือนามธรรม
และรูปธรรมว่าเป็นตัวตนก็ยังไม่หมดสิ้น ผู้เจริญสติปัฏฐานจึงรู้ว่า จะต้องเห็น
โทษของนามธรรมและรูปธรรมที่เกิดดับเพิ่มขึ้น โดยประการต่างๆ อีกจนกว่าจะ
คลายการยึดถือนามธรรมและรูปธรรมว่าเป็นตัวตนลงไปอีก เมื่อสติระลึกรู้
ลักษณะของสภาพธรรมที่เกิดดับ ปัญญาก็เห็นโทษของการเกิดขึ้นและดับไป
ของนามธรรมและรูปธรรมละเอียดขึ้น จนปัจจัยสมบูรณ์พร้อมที่จะปรุงแต่งให้
อาทีนวญาณเกิดขึ้นขณะใด อาทีนวญาณก็เกิดขึ้นประจักษ์แจ้งโทษของ
นามธรรมและรูปธรรมที่เกิดดับในขณะนั้น
วิปัสสนาญาณที่ ๘ -- นิพพิทาญาณ
เมื่อประจักษ์แจ้งในโทษของสังขารธรรมทั้งหลาย ดุจเรือนที่ถูกไฟ
ติดทั่วทั้งหลังแล้ว ย่อมคลายความยินดีในภพ โดยความรู้ชัดความหน่าย
ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรมที่ปรากฏ จึงเป็นนิพพิทาญาณ
อังคาร 23 มิ.ย. 2009 9:04 pm
ขอบคุณครับ
พุธ 24 มิ.ย. 2009 12:02 pm
ขอบคุณครับ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.