"ลักษณะร้อน"....เป็นอะไร.?
สภาพธรรม มี ๒ อย่าง
คือ
"นามธาตุ" และ "รูปธาตุ"
ขณะที่ ท่านผู้ฟัง กำลังจับกาน้ำ ที่ร้อน.
ขณะนั้น
"ลักษณะที่ร้อน" ก็อย่างหนึ่ง
"ลักษณะที่แข็ง" ก็อย่างหนึ่ง
แล้วแต่ ว่า
ร้อน หรือ แข็ง จะปรากฏให้รู้ได้
(ทีละ ขณะ...ไม่พร้อมกัน)
.
"ลักษณะ" ที่ปรากฏ ให้รู้ได้
มี ๒ อย่าง
คือ
ถ้าไม่ใช่ "นามธรรม"........(สภาพรู้อารมณ์)
ก็ต้องเป็น "รูปธรรม" (สภาพที่ไม่รู้อารมณ์)
"ลักษณะ ทั้ง ๒ อย่าง" นี้
(นามธรรม และ รูปธรรม)
จะปราศจากกันไม่ได้เลย.!
เพราะเหตุนี้
เกือบจะทำให้ แยกกันไม่ออก.!
.
แต่ โดยมาก เราไป รู้ "ชื่อ"
มากกว่า ที่จะ รู้ "ลักษณะ"
คือ รู้ เพียงว่า แข็ง เป็น รูป
และ การรู้แข็ง เป็น นาม.
จึง ไม่ได้ รู้จริง ๆ ตรง "ลักษณะ"
ของ "สภาพแข็ง" และ "สภาพที่รู้แข็ง"
ว่า ต่างกัน อย่างไร.!
.
เพราะฉะนั้น
ต้อง "เข้าใจ" ก่อน ว่า
เมื่อ นามธรรม และ รูปธรรม
ปราศจากกันไม่ได้.!
ก็ ต้อง ค่อย ๆ ระลึก รู้ ตรง "ลักษณะ"
ไม่ว่าจะเป็น "ลักษณะแข็ง" ที่กำลังปรากฏ
หรือ "ลักษณะที่รู้แข็ง" ......ที่กำลังปรากฏ.
เช่นเดียวกับ
"ลักษณะร้อน" และ "ลักษณะที่รู้ร้อน"
หมายความว่า
"สภาพร้อน"....ไม่รู้อะไรเลย.!
แต่ ขณะใด...ที่ "ลักษณะร้อน" ปรากฏ
ขณะนั้น
กำลังมี "สภาพที่รู้ร้อน"
"ลักษณะร้อน"
จึงปรากฏ ได้.!
(ลักษณะแข็ง และ ลักษณะที่รู้แข็ง ก็โดยนัยเดียวกัน)
.
เช่น "ลักษณะแข็ง"
ถ้าหาก ท่านผู้ฟัง ไม่มี "การกระทบสัมผัส" ทางกาย
ท่านผู้ฟัง ก็ไม่รู้ ว่า มี "ลักษณะที่แข็ง"
ทั้ง ๆ ที่ มองเห็น...ก็ไม่รู้ "ลักษณะแข็ง"
แต่ เมื่อใด ที่ "กระทบสัมผัสแข็ง" ทางกาย
เมื่อนั้น "ลักษณะที่แข็ง" ก็จะปรากฏ ทันที.!
เพราะเหตุ ว่า
มี "สภาพที่รู้แข็ง"
และ "ลักษณะที่รู้" นี้เอง
คือ "จิต"
ซึ่ง เป็นใหญ่ เป็นประธาน
ในการ......."รู้แจ้งอารมณ์"
.
เพราะฉะนั้น
"ความรู้สึกร้อน"
เป็น
"นามธรรม" หรือ "นามธาตุ"
แต่
"ความร้อน"
เป็น
"รูปธรรม" หรือ "รูปธาตุ"
.
ยังไงก็ตามแต่..............
สภาพธรรม มี ๒ อย่าง
คือ
นามธรรม และ รูปธรรม
ซึ่ง
จะต้อง ค่อย ๆ "เข้าใจ" มากขึ้น ๆ
จึงจะสามารถที่จะ "รู้ชัด" ได้จริง ๆ
จนกว่า จะ "เข้าใจ"
จนกระทั่ง ถึงความ "ไม่มีเรา"
.
ความยาก ความละเอียด อยู่ตรงนี้.!
ซึ่ง ตราบใด
ที่ยัง "ไม่รู้ชัด" ใน "ลักษณะ"
ของ นามธรรม และ รูปธรรม.
ตราบนั้น
"ความเป็นเรา"....ก็ ยัง แฝง อยู่.!
.
เพราะฉะนั้น
จึงต้องอบรมเจริญ "สติ" กับ "ปัญญา"
เพื่อที่จะ ค่อย ๆ ระลึก ตรง "ลักษณะ"
ของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ขณะนี้
ตามปกติ ตามความเป็นจริง.
.
และ
คำ ว่า "ศึกษา" ที่นี้
หมายความว่า
ไม่ใช่ การ "นึกถึง" เรื่องราว-ชื่อ-บัญญัติ.
แต่
เป็น "ความเพียร" ที่จะ "เข้าใจลักษณะ"
ของ สภาพธรรม ที่กำลังปรากฏ ขณะนี้
ตามปกติ ตามความเป็นจริง
ในชีวิตประจำวัน.
|