ถ้าเป็นปัญญาจริงๆ ก็จะไม่หนีไปไม่ให้รู้นิมิต เพราะตามเป็นจริง หลังเห็น ก็จะต้อง
รู้นิมิตของสิ่งที่ปรากฏทางตา เป็นปกติ เป็นธรรมดา เพียงแต่จะต้องอาศัยความเข้าใจ
ถูก เห็นถูกที่เจริญขึ้น ที่จะสามารถรู้ได้ว่า ...เพราะมีนามธรรมที่รู้นิมิต การรู้นิมิตจึงมีได้
เป็นสิ่งที่สติสัมปชัญญะ ควรจะระลึกได้ว่าเป็นแต่เพียงสภาพธรรมประเภทหนึ่ง เป็นแต่
เพียงเครื่องอาศัยระลึกชั่วขณะที่สภาพธรรมนั้นปรากฏอยู่เท่านั้น บ่อยๆ เนืองๆ จนกว่า
จะรู้ถูกต้องเพิ่มขึ้นตามลำดับ ...ที่สำคัญคือรู้แล้วละ..เบื้องแรกคือละความไม่รู้ในสภาพ
ธรรมที่ปรากฏ ละความติดข้อง ยินดีในความเห็นผิด ...ที่ยึดถือสภาพธรรมที่ปรากฏว่า
เป็นเรา เป็นตัวตน ลำดับของพระสาวกที่ได้เข้ามาเฝ้าฟังพระธรรมและได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
ในอรรถกถาท่านเรียงเป็นลำดับตั้งแต่พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นต้นมา เช่น ข้อความในอรรถกถาว่า พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย เถรคาถา เล่ม ๒ ภาค ๓ ตอน ๔ - หน้าที่ 560
พระสาวกมี ๓ อย่าง คืออัครสาวก มหาสาวก ปกติสาวก.
บรรดาพระสาวก ๓ พวกนั้น พระสาวกเหล่านี้ คือท่านพระ-
อัญญาโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ พระอัสสชิ
พระนาลกะ พระยสะ...
สัตว์บุคคลที่มีชีวิต มีใจครองเมื่อต้องการสื่อความหมายด้วยกาย จิตจะเป็นสมุฏฐานให้รูปชนิดหนึ่งเกิดเคลื่อนไหวกายให้สื่อความหมาย เรียกว่ากายวิญญัติรูป เกิดขึ้นในการเคลื่อนไหวที่เป็นหน้าตาหรือท่าทาง เมื่อแยกเป็นกลาปที่เล็กสุด เมื่อจิตต้องการสื่อความหมาย รูปจะประกอบด้วยอวินิพโภครูป 8 กับกายวิญญัติรูป 1 และเมื่อร่างกายเคลื่อนไหวเป็นกิริยาท่าทาง รูปก็จะประกอบด้วย อวินิพโภครูป 8 กายวิญญัติรูป 1 และวิการรูป 3 แต่ถ้าการเคลื่อนไหวไม่ต้องการสื่อความหมายอะไร รูปจะมีแต่อวินิพโภครูป 8กับวิการรูป 3เกิดร่วม ไม่มีกายวิญญัติรูปเกิดในกลาปนั้นๆ รูป เป็นสภาพที่ไม่รู้อะไร การเคลื่อนไหวเกิดขึ้นเพราะจิตเกิดมีวาโยธาตุทำให้กายไหวแล้วก็ดับไป แล้วก็มีจิตเกิดดับ มีรูปเกิดดับไปตามปัจจัยอย่างรวดเร็ว ไม่สามารถบังคับบัญชาได้ สัตว์ บุคคล จึงไม่มีจริง เพราะเป็นเพียงสภาวะของนามธรรมและรูปธรรมเท่านั้น
ขณะทีเป็นกุศลต่างจากขณะที่เป็นอกุศล ปัญญาเท่านั้นที่จะรู้ได้ กุศล / อกุศล /
ธรรมทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดเพราะเหตุปัจจัย เป็นอนัตตา แม้ไม่ทำอย่างอื่น นั่งฟังอย่าง
ตั้งใจ ก็มีโอกาสที่อกุศลจิตจะเกิดแทรกคั่น สลับ กับกุศลที่เข้าใจพระธรรมได้ ถ้าเป็น
ผู้ที่มีปัญญา รู้ตัวเองตามเป็นจริงว่า มีกิเลสมาก และรู้ว่าขณะที่ไม่ฟัง จิตเป็นอกุศลเป็น
ส่วนใหญ่ ก็จะเห็นประโยชน์ของการฟังพระธรรม เพราะรู้ว่าโอกาสของการฟังพระธรรม
มีน้อยกว่าโอกาสของการงานที่ทำด้วยอกุศล และรู้ว่าการอบรมเจริญปัญญาก็เป็นสิ่งที่
ประเสริฐกว่าการไปทำอย่างอื่นด้วยอำนาจของอกุศล
|