โอปปาติกะ
อุป ( เข้าไป , ใกล้ , มั่น ) + ปต ธาตุ +ณิก ปัจจัย ปาติก ( ผู้ตกไป )
ผู้เกิดผุดขึ้น หมายถึง กำเนิดหนึ่งในกำเนิด ๔ ซึ่งเกิดขึ้นเป็นตัวที่สมบรูณ์ทันที ไม่
ต้องอยู่ในท้องหรือเป็นเด็กก่อน และเวลาตายร่างกายก็หายไปทันที ไม่เหลือซากศพ
ไว้ ได้แก่ พวกเปรต อสุรกาย สัตว์นรก เทวดาในชั้นสูงๆ พวกพรหม และมนุษย์
สมัยต้นกัป
อุปาทายรูป
อุป ( เข้าไป ) + อาทาย ( ถือเอา , อาศัย ) + รูป ( รูป )
รูปที่เข้าไปอาศัยมหาภูตรูป หมายถึง รูป ๒๔ รูป นอกเหนือจากมหาภูตรูป ๔ ซึ่ง
ไม่สามารถเกิดขึ้นเองตามลำพังได้ จะต้องอาศัยมหาภูตรูปเกิดพร้อมกัน มหาภูตรูป ๔
จึงเป็นที่อาศัยของอุปาทายรูป ๒๔ เป็นเหมือนกับแผ่นดิน ที่เป็นที่อาศัยรองรับต้นไม้
หรือบ้านเรือน อุปาทายรูป ๒๔ จะเกิดไม่พร้อมกันทั้งหมด ขึ้นอยู่กับสมุฏฐานที่เป็น
ปัจจัยให้เกิด และเกิดในกลาปไหน แต่ที่แน่นอนคือ อวินิพโภครูป ๘ รูป ต้องเกิด
พร้อมกัน และมีอยู่เป็นพื้นฐานในกลุ่มของรูปทุกกลุ่ม
ทันทีที่เห็นดับไป ขณะต่อไปเกิดขึ้นมีสติเกิดร่วมด้วยไหม ไม่
สามารถจะบอกได้ แม้แต่การฟังก็จะต้องมานั่งทบทวนจิตที่รับรู้อารมณ์ต่อ
จากจักขุวิญญาณเป็นจิตอะไร มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยเท่าไร ก็ต้องมานั่งคิด
โดยไม่รู้ลักษณะของสติ เพราะฉะนั้นการที่จะรู้ลักษณะของสติ ไม่ใช่เพียง
การจำว่าสติมีลักษณะอย่างไร เกิดกับจิตขณะไหนบ้าง เพราะแม้ขณะนี้ก็ยัง
ไม่สามารถจะรู้ได้ว่าขณะนี้น่ะจิตเป็นกุศลหรือเปล่า หรือเป็นอกุศลหรือว่าเป็น
วิจารณญาณหรือว่าเป็นกิจธุระ เพราะว่าไม่ได้รู้สภาพที่เป็นจิต เพียงแต่ได้
ยินชื่อ ได้ยินเรื่องราวของทั้งจิต เจตสิก รูป ทั้งหมดมากมาย แต่ขณะนี้มีสิ่ง
ที่เป็นจิตจริง ๆ กำลังเห็นจริง ๆ แต่ไม่รู้ลักษณะของจิตที่เห็น เพราะฉะนั้นจึง
ไม่สามารถที่จะแยกได้ ว่าขณะที่เห็นนั้นไม่ใช่ขณะที่กำลังเป็นจิตประเภทอื่น
เช่นความยินดีติดข้องในสิ่งที่เห็น แค่นี้ก็ไม่รู้แล้ว แล้วจะไปรู้ลักษณะของ
สติ หรือเพียงแต่ไปจำว่าขณะนั้นน่ะมีสติเจริญเกิดร่วมด้วยหรือเปล่า เพราะ
ฉะนั้นการศึกษาธรรมต้องรู้ว่าจุดประสงค์ก็คือเราไม่เคยรู้ความจริงของสิ่งที่
ปรากฏทั้งที่กำลังปรากฏ
เพราะฉะนั้นการที่ฟังเพื่อเข้าใจถูกเห็นถูกในลักษณะของสิ่งที่ปรากฏ
แต่เราก็ไม่สนใจไปสนใจเรื่องสติอะไรๆ อีกเยอะแยะแต่ไม่สนใจที่จะรู้ว่าขณะ
นี้มีสิ่งที่ปรากฏให้เห็น และความจริงของสิ่งนี้ก็คือว่า มีอย่างนี้ว่าเมื่อไรเห็น
เกิดขึ้น เมื่อไรก็ทีสิ่งนี้แหละปรากฏให้เห็น เพราะฉะนั้นฟังเพื่อให้เข้าใจถูก
จนกว่าจะรู้สึกธรรมที่ปรากฏ แต่เราก็ไม่ติด เรื่องสติ เรื่องสมาธิ ลืมว่าเพื่อ
เข้าใจสิ่งที่ปรากฏ
|