เมื่อลำดับภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีต ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับปฏิปทาของ
หลวงปู่ดู่กับพระเครื่องที่ท่านอธิษฐานจิต สิ่งที่สังเกตได้ชัดเจนอย่างหนึ่งก็คือ ท่านกำลังสร้างสิ่งที่จะเป็น
"เครื่องมือ" ในการสร้างความดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติสมาธิภาวนา
แม้ท่านจะกล่าวว่า
"ติดวัตถุมงคล ก็ยังดีกว่าติดวัตถุอัปมงคล" ก็ตาม แต่ในขณะเดียวกันท่านก็ไม่ให้ไปลุ่มหลงหรือยึดติดเสียจนละเลยเป้าหมายสำคัญของแต่ละชีวิต นั่นก็คือการพัฒนาให้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
วันหนึ่ง เพื่อนคนหนึ่งของข้าพเจ้า* ไปเช่าวัตถุมงคลที่ท่านอธิษฐานจิตให้กับทางวัดสะแก จำนวนมากกว่า 20 ชิ้น แล้วเอามาให้ท่านอธิษฐานจิตซ้ำอีก ครั้งนั้น ข้าพเจ้าและเพื่อนต้องสะดุ้งด้วยถ้อยคำที่พูดค่อนข้างดังของท่านว่า
"แกจะเอาไปขายหรือ พระของข้าน่ะ ทำ (ปฏิบัติ) ให้จริง องค์เดียวก็พอแล้ว"ในทางตรงกันข้าม เพื่อนของข้าพเจ้าอีกคนหนึ่ง เป็นคนที่ไม่สะสมวัตถุมงคลเอาเสียเลย มีก็แต่พระที่หลวงปู่มอบให้กับมือเท่านั้น จนวันหนึ่งทางวัดกำลังนำวัตถุมงคลรุ่นหนึ่งในหลาย ๆ รุ่นที่หลวงปู่เมตตาอธิษฐานจิตให้ ออกมาให้เช่าบูชา แต่ด้วยความที่เพื่อนคนนี้มิได้ใส่ใจในเรื่องวัตถุมงคล จึงไม่ได้ขวนขวายไปเช่าที่หลังวัด หลวงปู่จึงเอ่ยกับเขาว่า
"ถ้าข้าเป็นแก ข้าจะไปบูชาเอาไว้สักองค์สององค์นะ"ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งก็คือ เวลามีคนมาถามหาเพื่อจะขอบูชาพระเครื่องจากท่าน ท่านก็จะบอกว่าไม่มี ฉันไม่ได้ทำ พระเป็นของวัด ไปเช่าที่หลังวัดโน่น ท่านเคยบอกให้ข้าพเจ้าฟังว่าท่านมีหน้าที่เสกพระเท่านั้น เสกแล้วก็แล้วกัน เรื่อง (จำหน่าย) พระ เป็นเรื่องของทางวัด ถือเป็นของสงฆ์ทั้งหมด
หลวงปู่เคยพูดติดตลกว่า
พระที่ท่านอธิษฐานจิต แม้จะไม่เป็นที่หนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นรองใครท่านเคยเตือนให้ระวังรักษาพระของท่านว่า
"...ใครเขาจะทำ (อธิษฐาน) ให้เหมือนอย่างที่ข้าทำ พระที่ข้าทำ แกจงรักษาให้ดี..."แต่มีเหตุการณ์ที่สำคัญมากที่เกิดกับเพื่อนของข้าพเจ้าคนหนึ่ง ซึ่งมีฐานะไม่สู้ดีนัก เขาได้แต่ชื่นชมพระเครื่องที่บรรดาเพื่อน ๆ ไปหาเช่ากันมา แต่ตัวเองก็ไม่มีสตางค์จะไปเช่า ค่ำคืนหนึ่ง ขณะที่เขานั่งอยู่ในห้องพระเพียงลำพัง นึกน้อยใจในวาสนาบารมีของตัวเอง แล้วบ่นต่อหน้ารูปหลวงปู่ที่บูชาอยู่เบื้องหน้าว่า ลูกอยากได้พระเครื่องของหลวงปู่เหลือเกิน ทำยังไงลูกจึงจะมีวาสนามีพระเครื่องรุ่นที่เขานิยมกันบ้าง เพราะลูกไม่มีเงิน หลังจากรำพึงรำพันแล้วเขาก็นั่งสมาธิ
และแล้วสิ่งอัศจรรย์ก็บังเกิดขึ้นกับเขา เมื่ออยู่ ๆ ปีติก็เกิดขึ้นท่วมท้นกายใจของเขา เขาเห็นแสงสว่างโพล่งไปหมด แล้วก็เห็นนิมิตองค์พระ พร้อมกับเสียงพูดว่า...
"ข้าให้พระกับแก เป็นพระเก่าพระแท้" เพื่อนผู้นี้ร้องไห้ออกมามาก เขาเข้าใจในทันทีว่า พระเก่าพระแท้ที่หลวงปู่ตั้งใจให้เขาก็คือการปฏิบัติธรรมนั่นเอง เพราะ
"พระสติ - พระปัญญา" อันเป็นผลจากการปฏิบัติธรรมเท่านั้นถึงจะเป็นที่พึ่งที่เที่ยงแท้กว่าพระภายนอก ดังนั้น จึงไม่เป็นปัญหาอีกแล้ว เพราะแม้จะไม่มีพระเครื่องของท่าน แต่เขาก็ภูมิใจที่หลวงปู่มอบพระที่มีค่าสูงสุดแก่เขาแล้ว ทั้งยังเป็นพระที่ใคร ๆ จะมาแย่งชิงเอาไปจากเขามิได้เลย และจะอยู่กับเขาตลอดไป ตราบเท่าที่เขาไม่ละทิ้งการปฏิบัติ
*ลูกศิษย์ท่านหนึ่งของ
หลวงปู่ดู่