เรื่องราวของนายอู๋หรือที่พวกเรามักเรียกว่า
"เฮียอู๋" นั้น เคยได้เขียนเล่าไปบ้างแล้ว ในฐานะที่เป็นหนึ่งในโยมอุปัฏฐากของหลวงปู่ และเป็นคนที่เปิดเผยให้เห็นปฏิปทาด้านที่หลาย ๆ คนไม่เคยเห็นไม่เคยทราบ เช่น ความลำบากธาตุขันธ์ในการนั่งโปรดญาติโยมบนไม้กระดานแข็ง ๆ เป็นเวลานาน ทุก ๆ วัน นับเป็นสิบ ๆ ปี กระทั่งเฮียอู๋ได้เห็นแผลที่ก้นท่านที่มีร่องรอยแตกซ้ำ ๆ เมื่อคราวมีโอกาสทายาให้หลวงปู่
นอกจากนั้น เฮียอู๋ยังช่วยเปิดเผยบุคลิกภาพของหลวงปู่ที่เป็นพระขี้เกรงใจเป็นที่สุด การจะเอ่ยปากรบกวนใครนั้นเป็นไม่มี หากจำเป็นจริง ๆ ท่านก็จะพิจารณาดูว่าเขาจะพอมีเวลาว่างไหม แล้วถามเขาด้วยความเกรงใจ แม้กระทั่งผู้ปวารณาตัวให้ท่านเรียกใช้ได้ ท่านก็ยังคงวางตัวเป็นผู้ไม่รบกวนใครอยู่เช่นเดิม
เรื่องราวของเฮียอู๋ที่เคยเล่าให้ฟังไปบ้างนั้น จบด้วยการที่เฮียอู๋ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย กระทั่งเสียชีวิต แต่ภายหลังเผาศพเฮียอู๋ พบว่า
กระดูกของเฮียอู๋เป็นพระธาตุเรื่องที่จะเล่าเพิ่มเติมในวันนี้ก็คือ เริ่มแรกทีเดียวนั้น เฮียอู๋มิใช่ผู้ที่มากราบหลวงปู่ดู่ด้วยจิตศรัทธา หากแต่ทนต่อการคะยั้นคะยอของผู้อื่นไม่ได้ ที่ต้องการให้เฮียอู๋มาถวายสังฆทานกับหลวงปู่ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บุพการีที่จากไป แต่เฮียอู๋ก็มักตอบไปว่าเสียเวลา (ทำมาหากิน)
เมื่อเฮียอู๋มาถึงวัดแล้ว ก็ยังไม่ยอมกราบหลวงปู่ พอมีคนถาม เฮียอู๋ก็ตอบว่า
"เคารพแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น แต่ไม่เคารพพระสงฆ์" ซึ่งก็ไม่ทราบได้ว่าเฮียอู๋จะเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีอะไรในอดีตที่ผ่านมา จึงได้พูดแบบเหมารวมเช่นนั้น
เฮียอู๋นับว่าโชคดีอย่างมหาศาลที่ไม่ได้ตายไปพร้อมกับมิจฉาทิฏฐิเช่นนั้น หากแต่ได้ตายจากไปอย่างผู้มีชัยชนะ นั่นก็เพราะบารมีของหลวงปู่ที่สยบทิฏฐิของเฮียอู๋ได้ในที่สุด เรียกว่าเฮียอู๋ได้ยอมลงใจให้กับหลวงปู่เต็มร้อยในไม่ช้าไม่นาน
เสียดายที่เฮียอู๋จากไปแล้ว จึงมิได้ซักถามนำมาเล่าสู่กันฟังถึงกุศโลบายของหลวงปู่ที่ปรับทิฏฐิเฮียอู๋จนสำเร็จ
หลวงปู่เคยพูดไว้ประโยคหนึ่งว่า
"ตาอู๋ ถ้าข้าไม่ตายซะก่อน ข้าจะเอาแกให้ดีให้ได้" นี้คือคำบอกเล่าของพี่ดาผู้เป็นภรรยาของเฮียอู๋
ช่วงที่หลวงปู่ดู่จากไป เฮียอู๋ได้ไปอยู่รับใช่หลวงปู่สังวาลย์ วัดป่าสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี ไม่ว่าจะทำหน้าที่ขับรถพาพระไปบิณฑบาตทุกเช้า แล้วก็ซ่อมอุปกรณ์เครื่องใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีคนมาถวายให้วัด เฮียอู๋แสดงอาการแพ้ยูรีเทนให้เห็นก็ตอนทำหน้าที่นี้ (ซึ่งอาจเป็นปัจจัยอันหนึ่งที่เร่งอาการมะเร็งของเฮียอู๋)
ตอนรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งนั้น เฮียอู๋ก็เร่งการปฏิบัติ และหากมีโอกาสก็จะไปพบหลวงปู่สังวาลย์ ซึ่งท่านจะเมตตาเป่าไล่ตั้งแต่หน้าอกและท้องของเฮียอู๋ หลวงปู่สังวาลย์ท่านเมตตาเฮียอู๋มาก ๆ เฮียอู๋ก็เคยกล่าวกับภรรยาว่าได้อาศัยน้ำมนต์หลวงปู่ดู่กับการเป่าของหลวงปู่สังวาลย์ทำให้ไม่เจ็บปวดทรมานมาก และก็ปรากฏเป็นจริงเช่นนั้น เพราะเฮียอู๋ไม่เคยต้องรับการฉีดมอร์ฟีนเลยกระทั่งเสียชีวิต
เฮียอู๋ได้รับการกล่าวขานจากทั้งแพทย์และพยาบาล ในช่วงที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในอยุธยา เพราะจากภาพ X-ray นั้น สภาพอวัยวะภายในของเฮียอู๋ แย่มาก ๆ ลิ้นหัวใจก็เปิด แผลฉีกขาดก็เต็มไปหมดในช่องท้อง แพทย์และพยาบาลก็ไม่รู้จะอธิบายได้อย่างไรว่าทำไม่เฮียอู๋จึงยังมีชีวิตรอดและสามารถพูดคุยกับพวกเขาได้
เฮียอู๋บอกกับแพทย์พยาบาลที่นั้นว่า
"ผมจะไม่ตายที่นี่หรอก ผมเตรียมที่ที่ผมจะตายไว้แล้ว"สุดท้ายเฮียอู๋ได้เดินทางไปละสังขารที่วัดป่าสามัคคีธรรม ด้วยการจากไปที่เป็นแบบอย่างของนักปฏิบัติธรรม คือ องอาจกล้าหาญ และมีสติสมบูรณ์ ไม่มีอาการทุรนทุรายใด ๆ เลย ลมหายใจของเฮียอู๋ค่อย ๆ สงบลง ๆ กระทั่งหมดลมหายใจ
หลวงปู่สังวาลย์ท่านพยากรณ์ตั้งแต่ยังไม่เผาเฮียอู๋ว่า
"เมื่อเผาแล้ว กระดูกจะเป็นพระธาตุ" ซึ่งเรื่องพระธาตุนี้ หลวงปู่ดู่เคยบอกว่า
ตั้งแต่โสดาบันกระดูกก็สามารถแปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุได้แล้วแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ภายหลังการฌาปนกิจศพเฮียอู๋ ปรากฏว่ากระดูกของเฮียอู๋มีสีสัน ที่เด่นคือสีออกอมเขียว พระสงฆ์ลูกศิษย์ของหลวงปู่สังวาลย์ก็คว้าหมับเอาไปจำนวนหนึ่ง
อัฐิที่เหลือ หลวงปู่สังวาลย์ท่านให้สร้างเจดีย์บรรจุที่หน้าพระอุโบสถวัดป่าสามัคคีธรรม คู่กันกับอัฐิของนายเจริญ มัคคทายกของวัดที่อัฐิเป็นพระธาตุเช่นกัน
พี่ดาผู้ภรรยาเล่าว่า ภายหลังเฮียอู๋จากไปไม่นาน หลวงปู่สังวาลย์ก็มรณภาพ แต่เธอได้ฝันเห็นหลวงปู่สังวาลย์อยู่คราวหนึ่ง ในฝันนั้น เธอเรียนถามหลวงปู่ถึงคติที่ไปของสามีเธอ เพราะเธอยังไม่เข้าใจเรื่องอัฐิธาตุนัก หลวงปู่ตอบว่า
"เขาไม่มาเกิดแล้ว เขาจะมาเกิดอีกทีก็พร้อมกับพระพุทธเจ้าองค์ข้างหน้าโน้น"เธอถามว่า "หมายถึงพระศรีอริยเมตไตรย หรือเจ้าคะ"
หลวงปู่บอกว่า "อือ"
เล่าเรื่องราวของเฮียอู๋ไว้เพื่อให้เห็นเป็นแบบอย่างของนักปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง ผู้เตรียมตัวเผชิญต่อพญามัจจุราชอย่างอาจหาญสมเป็นศิษย์ของหลวงปู่ดู่ หลวงปู่สังวาลย์ สมเป็นศิษย์พระตถาคตเจ้า
----------------------------------------------------------
บทความจากพี่พรสิทธิ์