ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am โพสต์: 6586
|
การกรวดน้ำก็เพื่ออุทิศทำให้ใจเรากว้าง ให้ใจของเราเป็นอัปปมัญญา เพื่อให้ใจเราไม่โกรธ ไม่โลภ ไม่หลง เพื่อให้ใจเราเป็นอุเบกขา แต่แท้ที่จริงแล้วญาติบางคนไม่ได้รับหรอก พวกที่จะได้รับคือพวกที่เป็นเปรตรอส่วนบุญเท่านั้นเอง ญาติจริง ๆ แล้วบางคนตายไปลงนรกรับไม่ได้ก็มี ตายไปเป็นเทวดารับไม่ได้ก็มี ตายไปเป็นมนุษย์รับไม่ได้ก็มี ตายไปเป็นสัตว์เดรัจฉานรับไม่ได้ก็มี ผู้ที่จะรับส่วนบุญที่เราแผ่เมตตาได้คือพวกเปรตพวกเดียว
แท้ที่จริงการแผ่เมตตาเป็นเพียงอุบายให้ใจเรามีสมาธิ เพื่อให้ใจเราเองไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง คือกรวดน้ำใจตัวเอง ให้เลิกโลภ โกรธ หลง พยาบาท อาฆาตจองเวรซึ่งกันและกัน คือเป็นบทแผ่เมตตาเพื่อให้ใจเรานั้นปล่อยวางกิเลสตัวเอง แท้ที่จริงได้กับตัวเอง คนเราก็ไปยึดว่า ทำบุญต้องกรวดน้ำเดี๋ยวญาติไม่ได้ แต่ญาติมาเกิดเป็นพวกเราแล้ว กรวดยังไงก็มาเป็นพวกเราแล้ว เราไม่รู้เลยใช่ไหม ? สมมติว่าญาติของเราเมื่อ ๑๐๐ ปีเนี่ย เขาก็คิดว่าเราเป็นญาติเขาอยู่ เขากรวดให้เรา เราก็ไม่ได้รับ เรามาเป็นคนแล้ว เขาก็กรวดให้เราคิดว่าเราเป็นเปรตยังคอยรับอยู่ แต่เราไม่ใช่แล้ว
ตามหลักพระพุทธศาสนาคือกรวดน้ำใจให้มีเมตตา ไม่โกรธ ไม่เกลียด ไม่รัก ไม่ชังใคร แผ่ส่วนบุญกุศลให้ทุกคน ถือว่าเป็นญาติไปหมดทั้งโลกเลย นั่นคือการกรวดน้ำใจ จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องปฏิบัติธรรมนะ แต่เรามาติดประเพณีก็เลยว่าทำบุญต้องกรวดน้ำ ไม่งั้นญาติไม่ได้รับ จริง ๆ แล้วการกรวดน้ำใจต่างหากจึงจะได้รับ คนเราต้องทำตั้งแต่ยังไม่ตาย ตายแล้วให้กันไม่ได้หรอก มันไม่ทันกัน...ใช่ไหม ? มันต้องให้ตัวเองตั้งแต่ยังไม่ตาย ให้พ่อให้แม่ ให้พี่ให้น้องตั้งแต่ยังไม่ตาย
คนที่มีอารมณ์สมาธิขั้นฌานเนี่ย สามารถเอาสมาธิไปช่วยญาติที่ตกนรกเป็นเปรตได้ แล้วสมาธิเนี่ยพอตายไปแล้วเป็นเทวดาเบื้องสูง ถ้าฌานไม่เสื่อมไปเป็นพรหมไม่กินอาหารใคร ถ้าเป็นโสดาบัน ไปนิพพานใน ๗ ชาติ ไม่ต้องตกนรก ถ้าเป็นสกิทาคามีอีก ๓ ชาติ ถ้ามีอนาคามีอีกชาติเดียว ถ้าเป็นพระอรหันต์ไม่กินบุญใคร กินบุญตัวเอง หมดบุญหมดบาป
ฉะนั้นการกรวดน้ำ ต้องตรวจที่ตัวเราให้มากที่สุด คือทำใจไม่ให้โกรธ ไม่ให้โลภ ไม่ให้หลง ไม่ให้รัก ไม่ให้ชัง แล้วน้ำใจคนนี่จะให้ญาติได้หมดเลย เรามาติดกันแค่ทาน ไม่ยอมปฏิบัติธรรมก็ให้ใครไม่ได้หรอก ให้กันไม่ถึงโยม !
ญาติโกงที่ดินเขา รุกที่ดิน ฉ้อโกงเงินเขา พอตายก็ไปแบกที่ดินเป็นเปรตเฝ้าสมบัติ ทำยังไงก็ให้ไม่ถึง เพราะกรรมอันนั้นเขามาก เขาทำบาปไว้มาก เขาฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เขาเบียดเบียน เขาทำบาป จะทำยังไง ! นั่งสมาธิก็ไม่ถึง แผ่ส่วนบุญก็ไม่ถึง มันจะถึงได้ยังไง เพราะเขาทำบาปไว้มาก เขาฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ เขาเบียดเบียน เขาทำบาป จะทำยังไง ! นั่งสมาธิก็ไม่ถึง แผ่ส่วนบุญก็ไม่ถึง มันจะถึงได้ยังไง เพราะเขาทำบาปไว้มาก เราต้องช่วยเหลือตัวเอง ถ้าเราทำของเราไว้มาก เราก็ไม่ต้องไปเป็นเปรตตอนตาย ใครก็ไม่ต้องให้เรา การที่เราจะช่วยญาติได้ต้องช่วยตัวเองก่อน
การแผ่ส่วนบุญกุศลมันเป็นเรื่องบุคคลาธิษฐาน เพื่อทำให้คนทำบุญสบายใจเท่านั้นเอง ที่จริงตามหลักธรรมที่จะให้กันได้นี่ ไม่ใช่ง่ายนะโยม ! คนกินเงินวัดเป็นเปรตถึง ๔ พุทธันดร พระพุทธเจ้ายังให้ไม่ได้เลยโยม ต้องรอพระเจ้าพิมพิสารมาให้ เป็นเปรตพอพระพุทธเจ้าเกิดมาองค์หนึ่งก็ร้องทีหนึ่ง พระพุทธเจ้าบอก
“โน่น... ญาติเธออยู่โน่น ! อีก ๔ พุทธันดร พระพุทธโคดมจะมาเกิด”
พระพุทธเจ้าตั้ง ๔ พระองค์ให้ไม่ได้โยม ! ต้องรอพระเจ้าพิมพิสารมาเกิด ต้องรอให้ญาติตัวเองให้ แสดงว่าทำตัวเองนี่มันแก้ไม่ได้ ฉะนั้นคนที่จะทำบุญให้พ้นจากบาปกรรม ต้องทำตัวเองให้ดี อย่าไปรอญาติให้โยม ตายเลยอย่างงี้ ! ถ้าเราตายเป็นเปรต ไปรอญาติให้ละก้อ...แย่เลย...
พระอาจารย์สนอง กตปุญโญ วัดสังฆทาน ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี
_________________ ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน
|
|