รู้เหตุของความทุกข์ สุข จนกระทั่งสามารถที่จะดับ
เหตุของความทุกข์ สุขนั้น ได้ตามพระธรรม
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓-หน้าที่ 146
" เมื่อโลกสันนิวาส อันไฟลุกโพลงอยู่เป็นนิตย์,
พวกเธอยังจะร่าเริง บันเทิงอะไรกันหนอ ? เธอ
ทั้งหลายย่อมถูกความมืดปกคลุมแล้ว ทำไมจึงไม่แสวง
หาประทีปเล่า ? "
ความยินดี ชื่อว่า อานนฺโท ในพระคาถานั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรัสเป็นคำอธิบายไว้ดังนี้ว่า " เมื่อโลกสันนิวาสนี้ อันไฟ ๑๑ อย่าง มี
ราคะเป็นต้นลุกโพลงแล้วเป็นนิตย์. เธอทั้งหลายจะมัวร่าเริงหรือเพลิด-
เพลินอะไรกันหนอ ? นั่นไม่สมควรทำเลย มิใช่หรือ ? ก็เธอทั้งหลาย
อันความมืดคืออวิชชาซึ่งมีวัตถุ ๘ ปกคลุมไว้ เหตุไรจึงไม่แสวงหา คือ
ไม่ทำประทีปคือญาณ(ปัญญา)เพื่อประโยชน์แก่การกำจัดความมืดนั้นเสีย ?
เอาบุญมาฝากได้ถวายสังฆทาน อนุโมทนาบุญกับผู้ใส่บาตรตามถนนหนทาง กรวดน้ำอุทิศบุญ เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน รักษาศีล อาราธนาศีล เจริญวิปัสสนา ได้ปฏิบัติธรรม ได้ถวายข้าวพระพุทธรูป สักการะพระธาตุ ทำงานบ้านช่วยพ่อแม่ทุกวัน และเจริญอาโปกสิน ศึกษาการรักษาโรค ฟังธรรมศึกษาธรรม และคุณแม่กับผมได้ปฏิบัติธรรมทุกวัน
เมื่อวานนี้ได้มีการแจกหนังสือธรรมะและซีดีธรรมะ และสร้างบารมีครบทั้ง 10 อย่าง ขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญร่วมทำบุญบูรณะพระอุโบสถวัดประจำรัง จ.ฉะเชิงเทรา
โทร. 081-2090091
ขอให้สรรพสัตว์ทั้ง 31 ภพภูมิจงบรรลุมรรคผลนิพพานเทอญ
|