พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พุธ 09 มิ.ย. 2010 12:47 am
เคยมีศิษย์คนหนึ่งถามหลวงปู่ดู่ว่า "จริงหรือครับที่ทาน ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น คนที่ทำภาวนาสามารถเห็นบารมีในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ของตนเองเป็นดวงนิมิต"
หลวงปู่ตอบว่า "ใช่ คนที่ทำเป็นเขาจะเห็นเป็นดวง ๆ"
ซึ่งก็น่าจะหมายถึงว่าจะดวงใหญ่ดวงเล็ก หรือจะมีรัศมีของดวงเป็นอย่างไร ก็ย่อมแสดงถึงกำลังบารมีของผู้ปฏิบัติผู้นั้น ณ ขณะนั้น
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สอดรับกับเรื่องรูปและนามว่าเป็นของคู่กันเสมอ และรูปละเอียดที่จะมารองรับนามละเอียดก็มีไม่จำกัดเช่นกัน ก็คงไม่ผิดอะไรกับเรื่องกายทิพย์ที่ปรากฏในบุคคลต่าง ๆ เป็นสิ่งบ่งบอกภาวะจิตของเขาเหล่านั้น ซึ่งหากเขาตายไปในขณะนั้นก็ย่อมมีคติไปตามกายทิพย์นั้น เช่น หลวงปู่ดู่เคยเล่าว่ากายทิพย์ของพวกขายพระมักปรากฏเป็นกายเปรตหรืออสุรกาย เพราะเขาปรามาสพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่เอาพระไปวางขายบนฟุตบาทให้คนเขาเดินข้ามไปข้ามมา
เรื่องการรู้การเห็นภายใน รวมทั้งเรื่องกรรมและวิบากกรรมของคนเราที่พระพุทธองค์และครูบาอาจารย์มาถ่ายทอดนั้น ล้วนเป็นเพียงตัวอย่างเล็กน้อยเท่านั้น เพราะแท้จริงแล้ว เรื่องฌานวิสัย หรือเรื่องกรรมนั้น จัดเป็นเรื่องอจินไตย เป็นเรื่องที่ไม่ควรคิดเพราะมันเกินสติปัญญาอย่างเรา ๆ ...มันเป็นสิ่งที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ด้วยหลักแห่งตรรกะ
สุดท้ายก็ต้องไม่ทิ้งหลักที่ว่า รู้แล้วยังไง รู้แล้วช่วยให้กิเลสลดลงไหม หรือว่ารู้ว่ายิ่งเพิ่งความหลง จึงต้องพิจารณาให้ดี
จากเว็บหลวงพ่อดู่ดอทคอม
พุธ 09 มิ.ย. 2010 9:20 pm
ขอบคุณครับ
แล้วคนซื้อพระจะเห็นเป็นอะไรอ่ะครับ
ศุกร์ 11 มิ.ย. 2010 3:10 pm
การที่ใครคนอื่นมองเห็นนั้นมันไม่เท่ากับการที่คนเองมองดูตนเองหรอก
หากแต่ว่าตัวเองมองดูตัวเองก่อนแล้วตัวเองมองเห็นอะไรในใจตน เพราะไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวเราเองหรอก
คิดดีทำดีผลดีก็บังเกิดผลไม่ช้าก็เร็ว
เสาร์ 12 มิ.ย. 2010 1:18 am
เห็นด้วยครับ
เสาร์ 12 มิ.ย. 2010 8:25 am
ปัจจัตตังเวทิตัปโพวิญญูหิติ เป็นสิ่งที่วิญญูชนพึงรู้ได้ด้วยตนเอง การรักษาใจเราเองดูตัวเอง ไม่เพ่งโทษผู้อื่นนั้นเป็นดี ทำตัวเองให้ดีก่อนสอนตัวเองก่อนถ้าอยากเห็นอย่างคนอื่นเห็นต้องปฏิบัติครับ
เสาร์ 12 มิ.ย. 2010 2:31 pm
สาธุ สาธุ กล่าวชอบแล้วครับ
เสาร์ 26 มิ.ย. 2010 5:15 am
..สาธุ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้เห็นได้เฉพาะตนเท่านั้น..
...ส่วนตัวผมเมื่อมีจิตอยากได้พระแล้ว จะเห็นเป็นรูปพี่รณธรรมคนแรกเลยอ่ะครับ อันนี้ถือเป็นนิมิตหรือเปล่าครับ
...
เสาร์ 26 มิ.ย. 2010 10:55 am
ได้อ่าน ได้ศึกษา หัวข้อที่พี่เขานำมาให้อ่านนั่นก็นับได้ว่าได้เจอพระพุทธองค์แล้วครับ
เพราะท่านบอกว่าเมื่อคนใดเจอพระธรรมเมื่อนั้นย่อมเจอพระพุทธองค์ (ขอบ้างนะครับ )
อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2010 9:51 pm
becknui เขียน:..สาธุ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่รู้เห็นได้เฉพาะตนเท่านั้น..
...ส่วนตัวผมเมื่อมีจิตอยากได้พระแล้ว จะเห็นเป็นรูปพี่รณธรรมคนแรกเลยอ่ะครับ อันนี้ถือเป็นนิมิตหรือเปล่าครับ
...
เอ่อ ... อันนี้น่าจะเป็น "นิมิตลวง" นะครับ ชัวร์
อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2010 9:52 pm
จันทร์ 28 มิ.ย. 2010 7:56 am
ขอเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ได้อ่านได้ศึกษาหัวข้อธรรมที่พี่นำมาลงครับ
(แต่จะขอมากเกินไปกว่านี้เกรงใจนะครับ ) ขอบคุณมากนะครับ
ผมชอบอ่านกระทู้ธรรมของพี่มากเพราะบางครั้งเจอปัญหาไม่รู้จะทำ
อย่างไรดีเหมือนกันครับ อนุโมทนา สาธุ กับพี่ด้วยคนนะครับ
จันทร์ 28 มิ.ย. 2010 1:12 pm
ผมว่าหลาย ๆ ท่านก็รู้สึกเช่นเดียวกับทางคุณ
visun35 ครับผม
มาตอบเหมือนเป็นเจ้าของกระทู้เลยแฮะ
อังคาร 29 มิ.ย. 2010 10:49 pm
visun35 เขียน:ขอเป็นหนึ่งในสมาชิกที่ได้อ่านได้ศึกษาหัวข้อธรรมที่พี่นำมาลงครับ
(แต่จะขอมากเกินไปกว่านี้เกรงใจนะครับ ) ขอบคุณมากนะครับ
ผมชอบอ่านกระทู้ธรรมของพี่มากเพราะบางครั้งเจอปัญหาไม่รู้จะทำ
อย่างไรดีเหมือนกันครับ อนุโมทนา สาธุ กับพี่ด้วยคนนะครับ
ขอบพระคุณมากครับที่กรุณาเป็นกำลังใจให้ ขออวยพรให้คุณvisun35เจริญก้าวหน้าทั้งทางธรรมและทางโลกยิ่ง ๆ ขึ้นไปนะครับผม
อังคาร 29 มิ.ย. 2010 10:50 pm
อู๊ด อู๊ด เขียน::grt:
ผมว่าหลาย ๆ ท่านก็รู้สึกเช่นเดียวกับทางคุณ
visun35 ครับผม
มาตอบเหมือนเป็นเจ้าของกระทู้เลยแฮะ
เรื่องเนียนนี่ อู๊ดดี้เกิดมาเนียนอยู่แล้วฮะ
พุธ 30 มิ.ย. 2010 1:08 am
ศุกร์ 02 ก.ค. 2010 11:01 am
กราบขอบพระคุณมากนะครับสำหรับคำอวยพร
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.