พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ศุกร์ 11 มิ.ย. 2010 3:40 pm
- .jpg (25.21 KiB) เปิดดู 1024 ครั้ง
หลวงตามหาบัว คือพ่อแม่ครูอาจารย์ที่ทำหน้าที่เป็นธรรมเสนาบดีของ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งได้รับการยกย่องและยอมรับจากพระกรรมฐานโดยทั่วไปอย่างกว้างขวาง
ธรรมะของท่าน บางครั้งก็ดุเดือดเผ็ดร้อน เพราะมุ่งกำราบกิเลสในใจคนอย่างถึงจิตถึงใจ
ครั้งหนึ่ง มีศิษย์ของท่านนำเรื่องราวของพระยุคปัจจุบันองค์หนึ่งที่ประกาศตนทั้งโดยตรงและโดยอ้อมว่าได้สำเร็จอรหันต์แล้ว จึงประกาศสอน “ทางลัดตรง” ในการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงนิพพานแบบง่าย ๆ สบาย ๆ โดยที่มีความพยายามแยกคำว่า วิปัสสนา ให้ห่างออกจาก สมถะ (ทั้ง ๆ ที่ควรควบคู่กันไป) ก็เพื่อให้ผู้ฟังทั้งหลายเกิดทัศนะในทางยกย่องวิปัสสนา แล้วดูแคลนสมถะ
ศิษย์ของหลวงตาท่านหนึ่งได้กราบเรียนหลวงตามหาบัวว่า "เขาบอกว่าที่เรามาช้า ก็เพราะเรามามัวแต่ถือศีล มาทำสมาธิ มาภาวนาพุทโธ ๆ อยู่ ครั้งพุทธกาลสำเร็จกันมาก ๆ เพราะเขาใช้ปัญญา" หลวงตาตอบไปว่า
"ปัญญาโคตรพ่อโคตรแม่มันมาจากไหน ปัญญาประเภทนี้ในพระพุทธเจ้าไม่มี มีแต่ สีลปริภาวิโต สมาธิ มหปฺผโล โหติ มหานิสํโส ศีลเป็นเครื่องทำความอบอุ่นแก่จิตใจ ให้ทำความสงบเย็นใจได้ง่าย ไม่ระแคะระคายว่าศีลตนไม่บริสุทธิ์
สมาธิปริภาวิตา ปญฺญา มหปฺผลา โหติ มหานิสํสา ผู้ที่มีสมาธิเป็นเครื่องอบรมจิตใจให้มีความอบอุ่นแล้ว การพิจารณาทางด้านปัญญาเพื่อความหลุดพ้นนี้คล่องตัว นั่น
ปญฺญา ปริภาวิตํ จิตฺตํ สมฺมเทว อาสเวหิ วิมุจฺจติ จิตที่ปัญญาซักฟอกแล้วย่อมหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ
นี่คือพระโอวาท ท่านสอนบรรดาพระสงฆ์ทุกองค์เว้นไม่ได้ในเหล่านี้นะ สอนตั้งแต่ศีลขึ้นไป ศีลหนุนจิตใจให้สงบ สมาธิหนุนปัญญาให้เดินคล่องตัว ปัญญาเป็นเครื่องซักฟอกจิตให้พ้นจากกิเลสทั้งปวงโดยชอบ..."
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
(บางส่วนจาก “มหาภัยในวงกรรมฐาน” เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด ๒๖ พ.ย. ๒๕๔๕)
ศุกร์ 11 มิ.ย. 2010 6:24 pm
โดนอย่างแรง...
โมทนาสาธุครับ
ศุกร์ 11 มิ.ย. 2010 9:07 pm
อาสาวักขยาวญาณ ญาณหลุดพ้นจากกิเลศอาสะวะเครื่องเศร้าหมอง จะเกิดได้ต้องอาศัยการสั่งสมบารมี ทั้งสามสิบทัศมานานมากมาย ไม่ใช่คิดว่าใช่ปัญญาเข้าข้างตัวเองว่าเป็นพระอริยะ
เสาร์ 12 มิ.ย. 2010 2:32 pm
สาธุ เห็นด้วยอย่างแรงครับผม
อังคาร 22 มิ.ย. 2010 3:38 pm
คนบางคนมองแต่ความสำเร็จของคนอื่นเขา ไม่ยอมมอง ไม่ยอมย้อนไปดูจุดเริ่มต้นของเขา
กว่าใครคนอื่นเขา จะได้มามันต้องใช้เวลา ความอดทน ความเพียร ต้องมีปัจจัยประกอบอีกมากมาย
ไม่ใช่มั่วแต่นั่งคิด นอนคิด แล้วมันจะได้อะไร มันก็ได้แต่สร้างภาพอยู่ในอากาศ
อนุโมทนา สาธุด้วยคนนะครับ
พุธ 23 มิ.ย. 2010 2:11 am
อนุโมทนาด้วยครับผม
เสาร์ 26 มิ.ย. 2010 5:09 am
หากมี"ทางลัด"จริง มีหรือที่พระพุทธองค์จะไม่ทรงตรัสสอนออกมา ผมคนนึงที่เชื่อว่าทางแห่งมรรค 8 และ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้นที่จะพ้นทุกข์ได้ ไม่มีอาหารจานด่วนหรือสินเชื่อเงินสดในทางธรรมแน่นอน
อาทิตย์ 27 มิ.ย. 2010 9:54 pm
แหม เวลาใช้สมองนี่ ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.