พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
เสาร์ 24 ก.ย. 2011 2:00 am
พระสงฆ์ที่ท่านประพฤติในทางเสีย “สมณสารูป”
นัยว่าต้องการแสดงให้เห็นว่าเป็นคนไม่ยึดติดอะไร ๆ มุ่งตรงสู่แก่นธรรมแท้ ๆ
(สมณสารูป คือกิริยาที่เหมาะสม / สมควรของสมณะ)
มุ่งตรงต่อแก่นธรรม แต่กลับมองข้าม “เสขิยวัตร” ซึ่งเป็นข้อบัญญัติของพระพุทธองค์ไปเสีย (เสขิยวัตร คือข้อบัญญัติของพระพุทธองค์ เป็นข้อวัตรที่ภิกษุจะต้องศึกษาเกี่ยวกับมารยาทที่ภิกษุพึงสำเหนียกหรือพึงฝึกปฏิบัติ มี ๗๕ สิกขาบท)
Ref Link: http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8% ... 2%E0%B9%97
ที่น่าเป็นห่วงก็คือ มีผู้หลงเชื่อตามไม่น้อย และสิ่งที่อันตรายมากที่สุดก็คือ เรื่องทิฏฐิความเห็นที่เข้าใจกันว่าเป็นแนวทางของผู้ไม่ยึดติดและมุ่งสู่แก่นธรรมแท้ ๆ ทั้ง ๆ ที่กำลังตกเข้าไปสู่ความยึดติดในความไม่ยึดติด
คนที่ไม่ยึดติดไม่ได้แปลว่าจะปฏิเสธอะไร ๆ ที่ไม่ใช่แก่นเสมอไป เช่น ปฏิเสธไม่เอารูปเคารพเลย มีพระพุทธรูปหรือพระเครื่องก็ต้องนำไปฝังดินบ้าง เอาไปใส่หลุมขยะบ้าง มีพระธาตุก็ให้หว่านทิ้ง ... อย่างนั้นหรือ ?
ถ้าปฏิเสธจริง ก็น่าจะปฏิเสธเสนาสนะสมัยใหม่ ปฏิเสธพัดลม ทีวี กระเบื้องปูพื้น น้ำยาล้างห้องน้ำ สบู่ ยาสีฟัน กระดาษชำระ ฯลฯ
เพราะไม่มีในพุทธบัญญัติ !!
แท้จริงแล้วเราใช้มันได้ เพียงแต่ให้เตือนใจเจ้าของว่า มันเป็นแค่เครื่องอาศัยใช้มันได้แต่ อย่าไปเป็นทาสของมัน และ อย่าไปทุกข์เพราะมัน
ตัวอย่างเช่น กรณีที่มีพระผู้ใหญ่ส่งลูกศิษย์มาจ้องจับผิด หลวงปู่สิม (หลวงปู่สิม พุทธาจาโร) ว่าท่านมีรถยนต์นั่งส่วนตัว หลวงปู่สิมทราบความในใจ ก็เลยฝากคำพูดไปถึงอาจารย์ของเขาว่า
“ทีหน้าทีหลังจะไปไหนมาไหน ก็ให้ขี้ม้าก้านกล้วยเน้อ ”
หรืออย่างกรณีที่พระลูกศิษย์ของ หลวงพ่อชา (หลวงพ่อชา สุภัทโท) ท่านปฏิบัติปล่อยวางด้วยการไม่ซ่อมแซมเสนาสนะ คือปล่อยให้หลังคารั่วอยู่อย่างนั้น ทนนั่งตากแดดตากฝน หลวงพ่อชาจึงตำหนิว่า
“อย่างนี้เรียกว่าปล่อยวางอย่างวัวอย่างควาย ”
คือปล่อยวางอย่างคนโง่
เรื่องปล่อยวางในชั้นละเอียดนั้นถือเป็นโลกุตรธรรม (ธรรมที่พ้นวิสัยของโลก) เมื่อปุถุชนคนไร้ปัญญานำโลกุตรธรรมมาปฏิบัติ ผลก็มักไปในทางไม่ถูกไม่ต้อง เริ่มต้นจากความปล่อยวางอย่างคนโง่แล้วก็ไปยึดติดในความไม่ยึดติดนั้น นี่ก็เสียหายแค่เฉพาะตัว แต่พอประกาศสอนทิฏฐินี้ออกไป ก็เสียหายเป็นวงกว้างออกไปอีก
โลกใบนี้มีอะไรให้ศึกษามากมายทั้งถูกและผิด อยู่ที่เราจะใช้ปัญญาพิจารณาเลือกเฟ้นเอา
ทำให้นึกคำเทศน์ที่สั้นที่สุดของสมเด็จโต วัดระฆังที่ว่า
"พิจารณา มหาพิจารณา"
เสาร์ 24 ก.ย. 2011 6:49 am
อาทิตย์ 25 ก.ย. 2011 10:44 pm
ขอบพระคุณมากครับ
อาทิตย์ 25 ก.ย. 2011 11:42 pm
ติดดีนี่แก้ยากนะฮะ
จันทร์ 26 ก.ย. 2011 10:30 am
ขอบพระคุณสำหรับความรู้ดี ๆ ครับ
จันทร์ 26 ก.ย. 2011 1:22 pm
อืมม ขอบคุณมากครับ
น่าส่งไปให้วัดสามสี่แยก แถบเพชรบูรณ์อ่านมั่ง
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.