พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 12:27 am
บิดา-มารดา เป็นบุคคลที่บุตรธิดาควรปฏิบัติเพื่อเอาดีกับท่านทั้งสอง เพราะว่าท่านเป็นพระของเรา เป็นพระเหนือหัวเรา
พระพุทธเจ้าทรงยกย่องบิดามารดาว่า
เป็นพระพรหมของลูก...
เป็นพระอรหันต์ของลูก...
เป็นเนื้อนาบุญของลูก...
ผู้ที่จะให้ดีด้วยความบริสุทธิ์ใจอย่างแท้จริง คือ พระอรหันต์องค์นี้ บิดาบารดามีแต่ความหวังดีต่อบุตรที่ตนให้กำเนิด ไม่มีบิดามารดาคนใดที่จะไปอิจฉาริษยาบุตรธิดาของตน ดังนั้น ท่านจึงสมควรแล้วที่จะเป็นพระพรหม
เขาเขียนรูปพระพรหมไว้ ๔ หน้า เขาเขียนโกหก ความจริงพระพรหมไม่มี ๔ หน้า ๔ ตาอะไรหรอก มีหน้าเดียวเหมือนมนุษย์นี่แหละ แต่ว่าพระพรหมท่านมีคุณธรรม ๔ อย่างคือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ท่านก็เลยเขียนเป็นปริศนาเอาไว้เป็นรูปพระพรหม ๔ หน้า
พรัหมาติ มาตาปิตะโร...
บิดามารดา ชิ่อว่าเป็นพระพรหมของลูก
คือท่านเป็นผู้มีน้ำใจเมตตา เปี่ยมไปด้วยความรักความปรารถนาดี เต็มไปด้วยความกรุณา คิดที่จะช่วยจะเหลือบุตรธิดาของตนให้พ้นจากความทุกข์ยากลำบาก มีความพลอยยินดีในเมื่อบุตรธิดาของตนได้ดี มีความสบายใจ เบาอกเบาใจเมื่อบุตรธิดาของตนได้ดีมีสุขอย่างเต็มที่ เพราะฉะนั้น จึงสมควรแล้วที่ท่านจะได้นามว่าพระพรหม
บิดามารดาเป็นผู้มีใจบริสุทธิ์สะอาดต่อบุตรธิดาของตน ท่านไม่มีความอิจฉาตาร้อน ไม่เบียดเบียน ข่มเหง ไม่รังแกเรา มีแต่ประคับประคองให้เราได้ดำรงชีพอยู่อย่างเป็นสุขและให้ได้ดิบได้ดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ ดังนั้น ท่านจึงสมควรแล้วที่จะเป็นพระอรหันต์ของลูก
พ่อแม่เป็นบุพการี พ่อแม่เป็นบุรพาจารย์ พ่อแม่เป็นผู้ผลิตเราขึ้นมา เป็นผู้เลี้ยงดูเรามา และเป็นผู้อบรมสั่งสอนให้เรารู้จักดีชั่ว
พระเจ้าพระสงฆ์กับพ่อแม่มีค่าเท่ากัน เราจะได้มาพบหน้าพระเจ้าพระสงฆ์ก็เพราะพ่อแม่ให้เกิด เรารู้จักพระเจ้าพระสงฆ์ก็เพราะพ่อแม่สั่งสอน เราจะรู้จักทำบุญสุนทานก็เพราะพ่อแม่เป็นผู้สอน เป็นผู้พาทำ ดังนั้นพ่อแม่จึงเป็นครู
พ่อแม่เป็นผู้ให้เกิด เป็นผู้เลี้ยงดู เป็นผู้ให้วิชาความรู้ เป็นผู้ให้ทรัพย์สมบัติ เป็นผู้ให้น้ำจิตน้ำใจทุกอย่าง เพราะฉะนั้น ใครยังมีพ่อแม่อยู่ รีบอุปถัมภ์อุปัฏฐาก รีบทำบุญกับท่าน อย่าปล่อยให้ท่านลำบาก
บิดามารดาเป็นบุคคลที่บุตรธิดาควรให้ความเคารพ บูชา ยกย่อง เราควรปฏิบัติต่อบิดามารดาของเราทุกเช้าค่ำวันคืน
เรามีมือสองข้าง ก่อนจะยกไหว้คนอื่น ให้ประคองไหว้พ่อแม่ของเราก่อน ก่อนจะออกจากที่หลับที่นอนให้กราบหมอนสามทีประนมมือขึ้นเหนือหว่างคิ้ว อธิษฐานจิตว่า เราขอกราบไหว้บิดามารดาของเรา แล้วจึงค่อยไปไหว้คนอื่น
ถ้าหากมีกำลังกาย กำลังความคิด สติปัญญาใด ๆ ที่พอจะช่วยอนุเคราะห์ด้วยการรับใช้หรือการทำอะไรให้ถูกอกถูกใจ ก็หยิบยื่นให้พ่อแม่ก่อน
ถ้าเรามีทรัพย์สมบัติสิ่งของ ก่อนที่จะหยิบยื่นให้ใครต่อใคร ควรจะประเคนให้บิดามารดาของเราก่อนอื่น ซึ่งเป็นการเลี้ยงดูบิดามารดาของตน
บางทีเราอาจจะศรัทธาในพระเจ้าพระสงฆ์ มีของดี ๆ ขนไปให้พระเจ้าพระสงฆ์ฉันหมด แต่พ่อแม่ปู่ย่าตายายปล่อยให้อด ก่อนอื่นนี่ต้องนึกถึงพ่อถึงแม่เสียก่อน ส่วนนี้จะใส่บาตรให้พระ ส่วนนี้จะให้พ่อแม่รับประทาน
การทำบุญ เมื่อไม่มีโอกาสไปทำบุญกับวัดกับวากับพระสงฆ์ ก็ให้ทำบุญกับพ่อแม่ปู่ย่าตายายของตนเอง
ดังนั้น ใครจะทำบุญสุนทาน ใครจะทำอะไร ใครจะให้อะไรแก่ใคร ควรจะคิดถึงพ่อแม่เป็นอันดับหนึ่ง อย่าปล่อยให้พ่อแม่ต้องลำบากยากเข็ญ ไปทำบุญแต่ที่อื่น ไม่รู้จักทำบุญกับพ่อแม่ก็ไม่มีความหมาย เพราะเราเป็นผู้แล้งน้ำใจต่อพ่อแม่ ขาดความกตัญญูกตเวที
ความกตัญญูกตเวทีเป็นคุณธรรมพื้นฐานให้เกิดคุณงามความดี คนที่จะรู้จักว่าผู้อื่นดีได้ก็ต้องรู้จักว่าพ่อแม่ตัวเองดีกว่าใครทั้งหมด พ่อแม่ถึงจะเป็นขี้เหล้าเมายา เล่นการพนัน เป็นนักเลงโต ศักดิ์ศรีของความเป็นพ่อเป็นแม่ก็ยังมีโดยสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง
บิดามารดาของตนเป็นผู้มีพระคุณอันล้ำเลิศ การสนองความต้องการของบิดามารดาในทางที่ถูกที่ชอบ เมื่อบิดามารดากล่าวอบรมสั่งสอน หรือมีคำสั่ง เมื่อท่านบอกว่า "อย่านะลูก" เราต้องหยุดทันที "อย่า" แล้วต้องหยุดทันที
เมื่อเราเจริญเติบโตเป็นหนุ่มเป็นสาวพอที่จะมีคู่รักคู่ใคร่ ถ้าหากไม่เป็นที่ชอบใจของบิดามารดา ท่านไม่เห็นดีเห็นชอบด้วย เราควรเลือกเอาบิดามารดาของเราไว้ก่อน เพราะบิดามารดาของเราเป็นผู้มาก่อน คนรักมาทีหลัง ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ที่บิดามารดาจะทิ้งบุตรธิดาของตนโดยไม่มีเหตุผล มีแต่บุตรธิดาเท่านั้นที่ทอดทิ้งบิดามารดา
ดังนั้น การเลี้ยงดูบิดามารดาของเรา การเลี้ยงน้ำใจเป็นเรื่องสำคัญ คือ หมายความว่า เมื่อท่านบอกว่า "อย่า" แล้วหยุดทันที
สาธุชนผู้ปฏิบัติได้ตามที่กล่าวมานี้ ได้ชื่อว่าเป็นผู้ดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม คือความกตัญญูกตเวทีซึ่งเป็นคุณธรรม เป็นเครื่องหมายของคนดี
มาตาปิตุอุปัฏฐานัง การอุปัฏฐากเลี้ยงดูบิดามารดา
เอตัมมังคะละมุตตะมัง เป็นมงคลอันสูงสุด
มาตาเปติ ภะรัง ชันตุง การเลี้ยงดูบิดามารดา มีอานิสงส์ทำให้ผู้ปฏิบัติตายแล้วไปเกิดเป็นพระอินทร์
กุเล เชฎฐา ปะจายินัง ผู้มีความเคารพนบนอบต่อผู้หลักผู้ใหญ่ในวงศ์ตระกูล มีอานิสงส์ตายแล้วไปเกิดเป็นพระอินทร์
เพราะฉะนั้น พระพุทธเจ้าจึงย้ำนักย้ำหนาว่า การอุปัฏฐากเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นมงคลอันสูงสุด มงคล ก็หมายถึงสิ่งที่ดีงามในชีวิตของเรา ผู้มีความรู้สึกสำนึกในพระคุณของบิดามารดา ย่อมเป็นผู้มีกาย วาจา สงบเรียบร้อย ใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความกตัญญูกตเวที รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณ
นี่คือหลักและวิธีการที่เอาดีกับบิดามารดา
- ฐานิโย 3re1.jpg (18.82 KiB) เปิดดู 1182 ครั้ง
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 1:58 am
สาธุ..........ขอบคุณคร้าบได้แง่คิดอีกแล้ว คงต้องรีบเอาเงินที่ยืมมาไปคืนโดยเร็วที่สุด แถม ค่าเลี้ยงดูเพิ่มเข้าไปอีก
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 10:41 am
ขอบคุณครับพี่ต่อ ผมว่าประเสริฐยิ่งแล้ว บิดามารดาเราหาเสมือนเป็นไม่มี
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 9:03 pm
อนุโมทนาด้วยครับ ระลึกได้อย่างนี้ประเสริฐแท้ทีเดียวเชียว
อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 12:45 am
อู๊ด อู๊ด เขียน:สาธุ..........ขอบคุณคร้าบได้แง่คิดอีกแล้ว คงต้องรีบเอาเงินที่ยืมมาไปคืนโดยเร็วที่สุด แถม ค่าเลี้ยงดูเพิ่มเข้าไปอีก
เริ่มเมื่อไหร่ครับ
อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 12:48 am
แหงม รู้ทันจริงเล๊ยยย
จันทร์ 29 ธ.ค. 2008 11:43 pm
บิดา-มารดา ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่แท้จริงของลูกๆทุกคน
โอบกอดแสดงความรัก-กตัญญูได้เต็มที่
แล้วปีใหม่นี้จะเสียเวลาไปเที่ยวฉลองให้เปลืองเวลาทำไม?
สู้ไปแสดงความรักความกตัญญูต่อพระโพธิสัตว์องค์นี้ดีที่สุด
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.