พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อังคาร 23 ธ.ค. 2008 10:02 pm
สมาธิแบบพระพุทธเจ้า การกำหนดรู้เรื่องชีวิตประจำวันนี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยสำคัญ สำคัญยิ่งกว่าการนั่งหลับตาสมาธิ
คนเราทุกคนเกิดมาอาศัยสมาธิเป็นหลักใจ คนที่ทำอะไรด้วยความจริงใจ เป็นลูกของพ่อของแม่ก็เป็นลูกด้วยความจริงใจ เป็นศิษย์ของครูบาอาจารย์ก็เป็นศิษย์ด้วยความจริงใจ จะเป็นอะไร ทำอะไร คิดอะไร เป็นไปด้วยความจริงใจ ก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้มีสัจจะความจริงใจ เมื่อมีสัจจะความจริงใจอย่างแน่วแน่ ชีวิตของเราทุกคนจึงเกี่ยวข้องกับสมาธิตั้งแต่เกิดมาจนกระทั่งวันตาย คนที่ไม่มีสมาธิย่อมมีนิสัยเหลาะแหละทำอะไรมีแต่จับจดไม่เอาจริงเอาจัง
สมาธิเป็นกิริยาของจิต เมื่อเรามีสติกำหนดรู้จิตอยู่ตลอดเวลา ถ้าเรานั่งกำหนดรู้จิตของเราเรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่านั่ง ถ้ากำหนดรู้จิตในท่ายืนเรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่ายืน เมื่อเรามีสติกำหนดรู้จิตในท่านอนเรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่านอน เวลาเดินจงกรม เรามีสติกำหนดรู้จิตของเราเรียกว่าปฏิบัติสมาธิในท่าเดิน
ยืน เดิน นั่ง นอน เป็นแต่เพียงเปลี่ยนอิริยาบถบริหารกายเพื่อมิให้ส่วนใดส่วนหนึ่งถูกทรมานเกินไป เพราะฉะนั้น สมาธิจึงมิใช่เพียงการนั่งสมาธิอย่างเดียว แม่แต่การยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด ถ้าเรามีสติรู้ตัวตลอดเวลา เราก็ได้ปฏิบัติสมาธิตลอดเวลา
ถ้าหากเรายึดหลักว่า เราจะฝึกสติของเราให้รู้อยู่กับการยืน เดิน นั่ง นอน รับประทาน ดื่ม ทำ พูด คิด ทุกขณะจิต ทุกลมหายใจ เราก็ได้ฝึกสมาธิอยู่ตลอดเวลา โดยไม่มีอุปสรรคใด ๆ มาขัดขวาง เมื่อเราเข้าใจกันอย่างนี้การฝึกสมาธิจะไม่มีอุปสรรค เพราะเราจะปฏิบัติได้ทุกเวลา ทุกโอกาส
ผลที่เราจะได้จากการฝึกสมาธิ ทำให้จิตของเราตั้งมั่นหรือมั่นคงต่อการทำธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เรามีจิตที่สงบเยือกเย็น และมีเมตตาปรานีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จะมีความเคารพ บูชา รักในบิดา มารดา ครูบาอาจารย์ดีขึ้น จะทำให้เราหมั่นขยันในการงาน ทำให้ความจำดี มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ คิดการงานใดไม่ท้อถอย โดยเฉพาะสมาธิจะเสริมกำลังปัญญาของเราให้ปราดเปรื่อง
กฎหรือระเบียบที่จะประพฤติบำเพ็ญตนให้เป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง ที่เราจะตั้งใจปฏิบัติโดยเจตนาคือ ศีล
เรามาฝึกสมาธินี้เพื่ออบรมจิตของเราให้มีพลังงาน มีสติสัมปชัญญะ มีปัญญา เพื่อให้จิตของเรานี้เป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าโดยอัตโนมัติ เมื่อจิตมีสภาวะ รู้ ตื่น เบิกบาน ก็ได้ชื่อว่าจิตมีคุณธรรมความเป็นพุทธะ
- ฐานิโย 8re1.jpg (29.84 KiB) เปิดดู 1456 ครั้ง
พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา
อาทิตย์ 28 ธ.ค. 2008 12:50 am
"ถ้าเรามีสติรู้ตัวตลอดเวลา เราก็ได้ปฏิบัติสมาธิตลอดเวลา"นอกจากศีล ที่เป็นจุดเริ่มต้นแล้ว สตินี่แหละครับสำคัญที่สุด
ขอบคุณมากครับ เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ
จันทร์ 29 ธ.ค. 2008 11:25 pm
"เมื่อเราได้ปฏิบัติสมาธิตลอดเวลา ปัญญาก็จะเกิดตามมา"
ถ้าปฏิบิติได้เช่นนี้ ความทุกข์ก็จะน้อยลงตามปัญญาที่มากขึ้น
.....ปัญหามา ปัญญามี.......
เป็นเรื่องที่ดีแต่ปัจจุบันนี้คนมักหลงลืมในการปฏิบัติ
เหมือนกับข้าพเจ้าเอง
เสาร์ 28 ก.พ. 2009 11:50 pm
ปรบมือให้ทุกท่านนะคับ
อาทิตย์ 01 มี.ค. 2009 12:22 am
เซียะ เซี่ยย หนี่
ศุกร์ 06 มี.ค. 2009 10:44 am
ดังคำที่อาจารย์รณธรรมบอกผมเมื่อวันนั้นแหละครับ ทำให้ผมได้สำนึกว่า ทำไมเราถึงต้องนึกถึงคุณของไตรสิกขา
ขอบพระคุณครับ...อาจารย์รณธรรม
เสาร์ 07 มี.ค. 2009 8:07 am
ขอบพระคุณเช่นกันครับและขออนุโมทนาด้วย
เสาร์ 07 มี.ค. 2009 12:34 pm
เหมือนจะง่าย...แต่ยากจัง
ขอนั่งหลับตาไปก่อนนะครับ
- samathi001.jpg (2.7 KiB) เปิดดู 1289 ครั้ง
จันทร์ 09 มี.ค. 2009 4:20 pm
เอ่อ...คือ...ผมเพิ่งกลับมาจากบางแสนเมื่อวานซืนนี่เองคับ
พุธ 11 มี.ค. 2009 2:46 am
นี่แน่...ปากดีน๊ากกก...
- re1.jpg (10.79 KiB) เปิดดู 1235 ครั้ง
พุธ 11 มี.ค. 2009 11:24 am
ทำไมใช้หมัดล่ะฮะ
พุธ 18 มี.ค. 2009 7:44 pm
อ้าว..แล้วจะให้ใช้อะไรก้อบอกเค้าไปสิคู้ณ...
เด่วป๊ะ....
- 004-20[1].jpg (72.68 KiB) เปิดดู 1176 ครั้ง
พฤหัสฯ. 19 มี.ค. 2009 12:57 am
เสาร์ 28 มี.ค. 2009 12:58 am
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.