ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ประเคน คือ อะไร? ประเคน คือ มอบถวายแก่พระภิกษุ
ประวัติความเป็นมาของการประเคน คือ พระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้มีปกติประพฤติถือเอา
ทุกอย่างเหมือนผ้าบังสุกุล(ผ้าเปื้อนฝุ่น) คือ ไม่มีความประสงค์ที่จะรับอาหารบิณฑบาต
ที่ชาวบ้านถวาย มีแต่แสวงหาอาหารเครื่่องเซ่นเจ้าที่ชาวบ้านเอาไปวางไว้ที่ป้าช้า
บ้าง ที่โคนต้นไม้ บ้าง ที่ธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง เหมือนกับการแสวงหาผ้า
บังสุกุล ชาวบ้านเห็นเข้า ก็กล่าวติเตียน พระภิกษุทั้งหลายได้ยินคำิติเตียนนั้น
จึงกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบ พระองค์ทรงตรัสถามความประพฤติ
เป็นไปดังกล่าวนั้น กับภิกษุรูปนั้น ทรงติเตียนว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสแห่งชนผู้ยังไม่เลื่อมใส เป็นต้น จึงทรงบัญญัติเป็นสิกขาบท
ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ [ต่อมาทรงบัญญัติ
เพิ่มเติม ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ ยกเ้ว้นน้ำ
และไม้สีฟัน] นี้คือ ประวัติความเป็นมาของการบัญบัติสกขาบทไม่ให้พระภิกษุฉัน
อาหารที่ยังไม่ได้รับประเคนจากชาวบ้าน สิกขาบทดังกล่าวนี้ เป็นสิกขาบทที่เป็นไปเพื่อการขัดเกลา เพื่อสำรวมระวังให้ไม่
เป็นผู้หยิบฉวยของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้้องได้รับจากมือของผู้อื่นซึ่งเป็นผู้มอบ
ให้ ซึ่งก็คือ การประเคน สำหรับคฤหัสถ์ถ้าได้เข้าใจถึงการประเคนอย่างถูกต้อง
ย่อมเป็นการดีสำหรับคฤหัสถ์ผู้ถวายที่จะกระทำการประเคนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีพื้น
ฐานมาจากการได้ศึกษาพระวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องนั่นเอง
ลักษณะของการประเคน ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ โดยสรุปจาก
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๖๒
-เป็นวัตถุสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้
-หัตถบาสปรากฏ คือ เขาอยู่ในหัตถบาส(บ่วงมือ) ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้ อันแสดงถึง
การให้ที่ถูกต้อง คือนับจากด้านหลังของพระภกษุและด้านหน้าของผู้ประเคน ประมาณ
๒ ศอกกับอีกหนึ่งคืบ ทั้งผู้ให้และผู้รับต้องอยู่ในหัตถบาส
-เขาน้อมเข้ามาถวาย
-มีบุคคลผู้ถวาย
-พระภิกษุรับประเคนสิ่งของนั้น ด้วยกาย หรือ ด้วยของที่เนื่องด้วยกาย
การประเคน ย่อมใช้ได้ ด้วยองค์ ๕ ประการ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
ประเด็นที่จะได้ศึกษาพิจารณาเพิ่มเติม คือ
๑. การนำภาชนะมาต่อกันแล้วยกประเคนเพียงชามเดียวได้หรือไม่
คำตอบ คือ ไม่ได้ การประเคนอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ต้องยกถวายทีละชาม แต่ถ้า
วางอาหารหลาย ๆ ชามลงในถาด แล้วยกถวายทั้งถาด อย่างนี้ถูกต้อง
๒. ถ้าถวายอาหารที่อยู่บนโต๊ะจีน ด้วยการประเคนทั้งโต๊ะเลย ได้หรือไม่?
คำตอบ คือ ไม่ได้ การกระทำอย่างนี้ ไม่ถูกต้อง เพราะโต๊ะจีนที่เต็มไปด้วยอาหาร
ไม่ใช่ิสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้
๓. ถ้าถวายอาหารให้กับพระภิกษุรูปหนึ่ง แล้วพระภิกษุรูปนั้น ยกอาหารส่งต่อให้
พระภิกษุรูปต่อ ๆ ไป ได้หรือไม่
คำตอบ คือ ได้ เพราะมีการประเคนอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ได้มีการหยิบฉวยโดย
ไม่ได้มีผู้ถวาย, มีพระภิกษุผู้รับประเคนเพียงรูปเดียว ก็สามารถแบ่งให้รูปอื่น ๆ ฉันได้
จะฉันกี่รูปก็ได้
๔. เมื่อประเคนอาหารแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์ เข้าไปจัดให้เรียบร้อย จะขาดการ
ประเคนหรือไม่ เพราะหลายคนเข้าใจว่าเมื่อประเคนของแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์จะ
จับต้องไม่ได้
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๕๕
โภชนวรรค สิกขาบทที่ ๑๐
เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง
[๕๒๒] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธ เจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคาร
ศาลาป่ามหาวัน เขตพระนครเวสาลี ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เป็นผู้มีปกติถือ
ของทุกอย่างเป็นบังสกุลที่อยู่ในสุสานประเทศ(ป่าช้า) ท่านไม่ปรารถนาจะรับ
อาหารที่ประชาชนถวาย เที่ยวถือเอาอาหารเครื่องเซ่นเจ้าตามป่าช้าบ้าง
ตามโคนไม้บ้าง ตามธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง ประชาชนต่างก็เพ่งโทษติเตียน
โพนทะนาว่า ไฉน ภิกษุนี้จึงได้ถือเอาอาหารเครื่องเช่นเจ้า ของพวกเราไปฉัน
เองเล่า ภิกษุนี้อ้วนล่ำ บางทีจะฉันเนื้อมนุษย์.
ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้น เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่
บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนภิกษุจึงได้
กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า . . . แล้ว กราบทูลเรื่องนั้นแด่
พระผู้มีพระภาคเจ้า.
ทรงสอบถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุรูปนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ข่าวว่า
เธอกลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก จริงหรือ.
ภิกษุนั้น ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ ไฉน เธอจึง
ได้กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่
เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
ว่าดังนี้:-
พระบัญญัติ
อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์.
ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ.
ทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน
[๕๒๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุพากันรังเกียจน้ำและไม้ชำระฟัน
ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตว่า
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถือเอาน้ำ และไม้ชำระฟันเองแล้วบริโภคได้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
ว่าดังนี้:- พระอนุบัญญัติ อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก
เว้นไว้แต่น้ำและไม้ชำระฟัน เป็นปาจิตตีย์.
เรื่องทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน จบ.
เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาการเปรียญ โทรศัพท์ 083-959-9820 <O </O
ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญหล่อระฆังและสร้างหอระฆัง โทร. 089-8523498
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกประยุกต์ ๓ ธรรมาสน์ โทร.081-0027915
กำหนดการงานแสดงธรรม ต้อนรับปีใหม่และตรุษจีน วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 55 ณ.หอประชุมทหารอากาศชั้นประทวน ด้านหลัง ร.พ.ภูมิพล ถ.พหลโยธิน ติดต่อลงทะเบียน 02-9713718
|