Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

เรื่องราว

อาทิตย์ 12 ก.พ. 2012 5:53 am

ต่อไปนี้จะเริ่มเขียนปฏิปทาเครื่องดำเนิน คือ ข้อปฏิบัติของ
พระกรรมฐานที่ท่านพระอาจารย์มั่นพาดำเนินมา เพื่อท่านผู้อ่าน
ได้ทราบไว้บ้างพอเป็นแนวทาง โดยคิดว่าท่านพุทธศาสนิกชน
พระเณรทั้งหลายที่มีความสนใจใคร่ธรรมและข้อปฏิบัติประจำนิสัย
อาจมีความสนใจอยากทราบอยู่มาก จึงได้พยายามรวบรวมมาลงไว้
เท่าที่สามารถ ผิดถูกประการใด หวังว่าคงได้รับอภัยจากท่านผู้อ่าน
ตามเคย คราวนี้ก็ส่งมาลงทาง “ศรีสัปดาห์” ตามเคย โดยขอร้อง
ให้ทางโรงพิมพ์ช่วยลงให้เป็นตอน ๆ ไปดังที่เคยทำมา และได้เรียน
กำชับขอให้ลงพอประมาณ เกรงจะเขียนส่งมาไม่ทัน ดังที่เคยเรียน
เกี่ยวกับประวัติท่านพระอาจารย์มาแล้ว การส่งมา ขอความกรุณา
ทาง “ศรีสัปดาห์” ให้ช่วยลงให้นั้น เป็นอุบายช่วยบังคับตัวเองซึ่งมี
นิสัยขี้เกียจไปในตัว เพื่อเรื่องที่เขียนจะได้สำเร็จไปด้วยดี ไม่มีข้อ
แก้ตัวว่ายุ่งนั้นยุ่งนี้แล้วหยุดไปเสีย ซึ่งอาจทำให้งานที่กำลังทำเสียไป
ตามปกติหนังสือศรีสัปดาห์เคยออกทุกวันศุกร์ จึงพอมีทางว่า
การเขียนจะมีความรู้สึกตัวพยายามทำให้ทันกับกำหนดวันเวลาที่
หนังสือจะออก เรื่องที่เขียนก็พลอยมีหวังจะสำเร็จได้ จึงได้ส่งและ
ขอร้องทางศรีสัปดาห์ให้ช่วยลงให้จนกว่าเรื่องจะยุติลง ซึ่งทาง
ศรีสัปดาห์ก็ยินดีให้เป็นไปตามความประสงค์ทุกประการ
คำว่า “กรรมฐาน” เป็นศัพท์พิเศษและเป็นบทธรรมพิเศษ
ที่วงพระธุดงค์ท่านปฏิบัติกันมา แต่องค์ของกรรมฐานแท้นั้นมีอยู่
กับทุกคน ทั้งหญิงทั้งชาย ทั้งนักบวชและฆราวาส ได้แก่ เกศา
โลมา เป็นต้น บางท่านอาจยังไม่เข้าใจในคำว่า กรรมฐาน หรือ
พระธุดงคกรรมฐาน ว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่จะเขียนเฉพาะข้อปฏิบัติ
แห่งธุดงคกรรมฐานสายของท่านพระอาจารย์มั่น นอกจากนี้ผู้เขียน
ไม่ค่อยสันทัดจัดเจนนักว่าท่านปฏิบัติกันอย่างไรบ้าง เป็นเพียง
เห็น ๆ ผ่าน ๆ ไปบ้างเท่านั้น ไม่ค่อยมีโอกาสได้สนใจใกล้ชิดนัก
เฉพาะสายของท่านอาจารย์มั่นพาดำเนินมานั้น พอเข้าใจบ้างตาม
ที่เคยได้เห็นได้ยินและปฏิบัติมา แต่ก่อนจะเขียนเรื่องนี้ จึงขอ
อธิบายคำว่ากรรมฐานอันเป็นทางดำเนินของท่านพอเป็นแนวทาง
เล็กน้อย เพื่อเข้ารูปกันกับปฏิปทาที่จะเขียนต่อไป
คำว่า กรรมฐาน นี้ เป็นคำชินปากชินใจของชาวพุทธเรา
มานาน เมื่อถือเอาใจความ ก็แปลว่า ที่ตั้งแห่งการงาน แต่งานใน
ที่นี้เป็นงานสำคัญ และหมายถึงงานรื้อภพรื้อชาติรื้อกิเลสตัณหา
รื้อถอนอวิชชาทั้งมวลออกจากใจ เพื่อไกลทุกข์ คือความเกิดแก่
เจ็บตาย อันเป็นสะพานเกี่ยวโยงของวัฏวนที่สัตว์โลกข้ามพ้น
ได้โดยยาก มากกว่าจะมีความหมายไปทางอื่นแบบงานของโลก
ที่ทำกัน ส่วนผลที่พึงได้รับแม้ยังไม่ถึงจุดหมายปลายทาง ก็ทำ
ให้ผู้บำเพ็ญมีความสุขในปัจจุบันและภพชาติต่อไป ฉะนั้นพระ
ที่สนใจปฏิบัติธรรมเหล่านี้ จึงมักมีนามว่าพระธุดงคกรรมฐาน
เสมอ อันเป็นคำชมเชยให้เกียรติท่านผู้มุ่งต่องานนี้ด้วยใจจริงจาก
พุทธศาสนิกชนทั้งหลาย
กรรมฐาน ที่เป็นธรรมจำเป็นมาแต่พุทธกาลที่พระอุปัชฌาย์
มอบให้แต่เริ่มบรรพชาอุปสมบท มี ๕ อาการด้วยกันโดยสังเขป
คือ เกศาได้แก่ผม โลมาได้แก่ขน นขาได้แก่เล็บ ทันตาได้แก่ฟัน
ตโจได้แก่หนัง โดยอนุโลมปฏิโลม เพื่อกุลบุตรผู้บวชแล้วได้ยึด
เป็นเครื่องมือบำเพ็ญพิจารณาถอยหน้าถอยหลังซ้ำซากไปมา
จนมีความชำนิชำนาญและแยบคายในอาการหนึ่ง ๆ หรือทั้งห้า
อาการ อันเป็นชิ้นส่วนสำคัญของร่างกายชายหญิงทั่ว ๆ ไป แต่
คำว่ากรรมฐานอันเป็นอารมณ์ของจิตนั้นมีมาก ท่านกล่าวไว้ถึง
๔๐ อาการ ซึ่งมีในตำราโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว ท่านผู้ประสงค์อยาก
ทราบกรรมฐานใดก็ค้นหาดูได้โดยสะดวก บรรดากรรมฐานที่ท่าน
กล่าวไว้มากมายนั้น ข้อใหญ่ใจความก็เพื่อท่านผู้สนใจใคร่ต่อการ
ปฏิบัติซึ่งมีจริตนิสัยต่าง ๆ กัน จะได้เลือกปฏิบัติเอาตามใจชอบที่
เห็นว่าถูกกับจริตของตน ๆ เช่นเดียวกับโรคมีชนิดต่าง ๆ กัน ที่
ควรแก่ยาขนานต่าง ๆ กันฉะนั้น
วิธีทำได้แก่ การนำธรรมบทนั้นๆ มาบริกรรมภาวนาประจำ
อิริยาบถต่างๆ ตามแต่ถนัดและเห็นควร ว่าเกศา ๆ หรือโลมา ๆ
เป็นต้น ด้วยความมีสติกำกับอยู่โดยสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยใจส่งไป
ที่อื่น ทำความรู้สึกตัวอยู่กับบทธรรมที่กำลังบริกรรมภาวนา
ไม่เปลี่ยนแปลงธรรมบ่อยอันเป็นนิสัยจับจด พยายามทำไปจน
ทราบชัดว่าเป็นผลขึ้นมาจริง ๆ หรือจนทราบชัดว่าธรรมบทนั้น ๆ
ไม่ต้องกับจริตของตนแล้วค่อยเปลี่ยนธรรมบทใหม่ ผู้ที่ทราบชัดว่า
ถูกกับจริตจริง ๆ แล้ว ก็ควรยึดธรรมนั้นเป็นหลักใจและปฏิบัติ
ต่อไปไม่ลดละ จนเห็นผลเป็นลำดับและก้าวหน้าเข้าสู่ภูมิธรรม
ที่ควรเปลี่ยนแปลงบทธรรมตามความจำเป็น ซึ่งเจ้าตัวต้องทราบ
โดยลำพัง ผลที่เกิดจากการปฏิบัติบำเพ็ญด้วยธรรมเหล่านี้ หรือด้วย
ธรรมอย่างอื่น ๆ ที่ถูกกับจริต ย่อมเป็นความสงบสุขภายในใจ
ไปโดยลำดับที่ไม่เคยรู้เห็นมาก่อน
ความสงบจิตเริ่มแต่ชั้นต่ำ คือสงบได้ชั่วขณะ สงบได้นาน
พอประมาณ และสงบได้ตามต้องการที่จะให้พักและถอนขึ้นมา
ทั้งเป็นความสงบละเอียดแนบแน่นกว่ากันมาก ขณะที่จิตสงบ
ย่อมปล่อยอารมณ์ที่เคยรบกวนต่าง ๆ เสียได้ เหลือแต่ความรู้
ความสว่างไสวประจำใจ และความสุขอันเกิดจากความสงบตามขั้น
ของใจเท่านั้น ไม่มีสองกับสิ่งอื่นใด เพราะขณะนั้นจิตปราศจาก
อารมณ์และเป็นตนของตนอยู่โดยลำพัง แม้กิเลสส่วนละเอียดยังมี
อยู่ภายในก็ไม่แสดงตัว ถ้าเป็นน้ำก็กำลังนิ่งและใสสะอาดปราศจาก
ฝุ่นละออง หากมีตะกอนก็กำลังนอนนิ่งไม่ทำน้ำให้ขุ่น ควรแก่การ
อาบดื่มใช้สอยทุกประการ ใจที่ปราศจากอารมณ์มีความสงบตัว
อยู่โดยลำพังนานเพียงไร ย่อมแสดงความสุข ความอัศจรรย์
ความสำคัญ ความมีคุณค่ามาก ให้เจ้าของได้ชมนานและมาก
เพียงนั้น ทั้งเป็นความสำคัญและความอัศจรรย์ไม่มีวันเวลาจืดจาง
แม้เรื่องผ่านไปแล้ว
ทั้งนี้เพราะใจเป็นธรรมชาติลึกลับและอัศจรรย์ภายในตัว
อยู่แล้ว เมื่อถูกชำระเข้าถึงตัวจริงเพียงขณะเดียว ก็แสดงความ
อัศจรรย์ให้รู้เห็นทันที และยังทำให้เกิดความอาลัยเสียดายต่อ
ความเป็นของจิตไปนาน ถ้าปล่อยให้หลุดมือคือเสื่อมไปโดยไม่ได้กลับคืนด้วยวิธีบำเพ็ญให้ทรงตัวอยู่หรือให้เจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป คงเป็น
เพราะเหตุนี้กระมังที่ครั้งพุทธกาลมีพระสาวกบางองค์ ขณะท่าน
กำลังบำเพ็ญอยู่ ใจมีความเจริญขึ้นและเสื่อมลงถึงหกครั้ง จนเกิด
ความเสียใจมากเพราะความอาลัยเสียดาย แต่สุดท้ายท่านก็เป็น
พระสาวกอรหันต์ขึ้นมาองค์หนึ่งจนได้ เพราะความเพียรพยายาม
เป็นสะพานเชื่อมโยงให้บรรลุถึงอมตธรรม คือแดนแห่งความเกษม
โดยอาศัยกรรมฐานธรรมเป็นเครื่องดำเนิน
พระพุทธเจ้าทั้งหลายที่นับจำนวนไม่ได้ และพระสาวก
อรหันต์ทั้งหลายของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ ที่เสด็จปรินิพพาน
ผ่านไปแล้วจนประมาณกาลไม่ได้ก็ดี พระพุทธเจ้าและพระสาวก
ทั้งหลาย ที่เสด็จปรินิพพานและนิพพานไปพอประมาณกาลได้
ก็ดี พระพุทธเจ้าสมณโคดมกับพระสาวกท่านที่เพิ่งเสด็จผ่านไป
ไม่กี่พันปีก็ดี ล้วนทรงอุบัติและอุบัติขึ้นเป็นพระพุทธเจ้า และเป็น
พระอรหันต์จากกรรมฐานทั้งหลาย มีกรรมฐานห้าเป็นต้นทั้งสิ้น
ไม่มีแม้พระองค์หรือองค์เดียวที่ผ่านการรู้ธรรมมาโดยมิได้ผ่าน
กรรมฐานเลย
แม้จะพูดว่ากรรมฐานเป็นสถานที่อุบัติขึ้นแห่งท่านผู้วิเศษ
ทั้งหลายก็ไม่ควรจะผิด เพราะก่อนจะทรงถ่ายพระรูปพระนามและ
รูปนามจากความเป็นปุถุชน ขึ้นมาเป็นพระอริยะบุคคลเป็นขั้น ๆ
จนถึงขั้นสูงสุด ต้องมีกรรมฐานธรรมเป็นเครื่องซักฟอก เป็นเครื่อง
ถ่ายถอนความคิดความเห็นความเป็นต่าง ๆ อันเป็นพื้นเพของ
จิตที่มีเชื้อวัฏฏะจมอยู่ภายในให้กระจายหายสูญไปโดยสิ้นเชิง
กลายเป็นพระทัยและใจดวงใหม่ขึ้นมาเป็นความบริสุทธิ์ล้วนๆ
ดังนั้นพระพุทธเจ้าทั้งหลายจึงทรงถือกรรมฐานว่าเป็นธรรมทั้งสำคัญและจำเป็น และยกย่องในวงพระศาสนาประจำศาสดาแต่ละ
พระองค์ตลอดมาถึงปัจจุบัน แม้ในศาสนาแห่งพระสมณโคดม
ของพวกเรา ก็ทรงถือกรรมฐานเป็นแบบฉบับและจารีตประเพณี
ตายตัวมาเป็นพระองค์แรก ว่าได้ทรงเป็นพระพุทธเจ้าขึ้นมา
เพราะกรรมฐาน ๔๐ มีอานาปานสติเป็นต้น และทรงสั่งสอน
พุทธบริษัทตลอดมาจนปัจจุบันทุกวันนี้ ทั้งยังจะเป็นสะพานเชื่อม
โยงให้สัตว์โลกได้ถึงพระนิพพานตลอดไป จนกว่าจะสิ้นอำนาจ
วาสนาของมวลสัตว์ที่จะตามเสด็จพระองค์ได้นั่นแล
ฉะนั้น คำว่า “กรรมฐาน” จึงเป็นธรรมพิเศษในวงพระ
ศาสนาตลอดมาและตลอดไป ผู้นับถือพระพุทธศาสนาที่ยังมิได้
ปฏิบัติบำเพ็ญตามทางกรรมฐาน พอทราบเรื่องความลี้ลับที่มีอยู่
ในตนทั้งฝ่ายชั่วฝ่ายดีบ้างพอควร จึงไม่ควรคิดว่าตนรู้ตนฉลาดโดย
ถ่ายเดียว แม้จำได้จากพระไตรปิฎกโดยตลอดทั่วถึง เพราะนั่น
เป็นเพียงบัญชีดีชั่วของสิ่งหรือธรรมชาติที่มีอยู่ในตัวเท่านั้น ยังไม่ได้
รับการเลือกเฟ้นจากการปฏิบัติอันมีกรรมฐานเป็นเครื่องส่องทาง
ให้ถึงความจริง ตามพระประสงค์ที่ทรงประกาศธรรมสอนโลก
พระกรรมฐาน ๔๐ ห้องนี่แลคือตู้พระไตรปิฎก คือเครื่องมือทำลาย
ภพชาติ เครื่องมือทำลายกงจักรที่พาให้สัตว์โลกหมุนเวียนเกิดตาย
จนไม่ทราบภพเก่าภพใหม่ และทุกข์เก่าทุกข์ใหม่ที่สลับซับซ้อน
มากับภพชาตินั้น ๆ ให้ขาดสะบั้นลงโดยสิ้นเชิง
การปฏิบัติใดก็ตามที่ปราศจากธรรมเหล่านี้ส่วนใดส่วนหนึ่ง
เข้าสนับสนุน การปฏิบัตินั้นจะไม่เป็นไปเพื่อการทำลายสังหารกิเลส
กองทุกข์มากน้อยที่มีอยู่ภายใน ให้เบาบางและสิ้นสูญไปได้เลย
การปฏิบัติที่มีธรรมเหล่านี้เข้าสนับสนุนอยู่มากน้อยเท่านั้นจะทำลายกองทุกข์ได้โดยสิ้นเชิง ไม่มีทางสงสัย ด้วยเหตุนี้ผู้ปฏิบัติ
เพื่อความสงบสุขและความรู้แจ้งแทงตลอดในธรรมทั้งหลาย จำต้อง
ยึดถือธรรมเหล่านี้เป็นเส้นชีวิตจิตใจของการดำเนินปฏิปทาไป
ตลอดสาย นับแต่ธรรมขั้นต่ำจนถึงขั้นสูงสุดคือ วิมุตติพระนิพพาน
ใครจะปฏิบัติบำเพ็ญความดีงามด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตาม เมื่อถึง
ขั้นจะเข้าด้ายเข้าเข็มจริง ๆ คือการก้าวขึ้นสู่ภูมิจิตภูมิธรรมเป็น
ขั้น ๆ จำต้องหวนกลับมายึดธรรมเหล่านี้อย่างใดอย่างหนึ่งเป็น
เครื่องดำเนิน จึงจะผ่านพ้นไปได้โดยสวัสดีปลอดภัย
เพราะธรรมเหล่านี้เป็นที่ประมวลมาแห่งสัจธรรมทั้งหลาย
ที่มีมรรคผลนิพพานเป็นจุดสุดยอด ธรรมเหล่านี้รวมอยู่ในวง
พระพุทธศาสนา มีศาสดาองค์เอกแต่ละพระองค์ทรงประกาศสอน
ไว้เป็นแบบเดียวกันและสืบทอดกันมาเป็นลำดับ ท่านที่ยังสงสัย
พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ที่ทรงประกาศสอนธรรมมาเป็นยุค ๆ
จนถึงศาสดาองค์ปัจจุบันคือพระพุทธเจ้าของเรา จึงควรปฏิบัติ
พิจารณาตามธรรมกรรมฐานที่ทรงแสดงไว้ ด้วยความพิสูจน์จริง ๆ
ทางปัญญาจนเกิดผลตามพระประสงค์ ก็จะทราบจากความรู้
ความเห็นอันเกิดจากการปฏิบัติของตนเองอย่างประจักษ์ใจว่า
ศาสดากับธรรมมิได้แตกต่างกัน แต่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ดังแก่นธรรมที่ทรงแสดงไว้ย่อ ๆ ว่า “ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นชื่อว่า
เห็นเราตถาคต” ดังนี้
ธรรมบทนี้เป็นธรรมประกาศองค์พระตถาคตทั้งหลาย ให้เรา
ทราบอย่างชัดเจนว่าพระตถาคตมีอยู่กับธรรมตลอดเวลา มิได้
ขึ้นอยู่กับกาลสถานที่ แม้แต่ละพระองค์จะเสด็จปรินิพพานไปนาน
ตามสมมุตินิยมกันก็จริง แต่ความจริงขององค์พระตถาคตแล้วคือ........เดี๋ยวมีต่อในวันต่อไป



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและจะถวายกรรไกรตัดเล็บมีดโกนช้อนซ่อมและที่ปั่นหูให้พระภิกษุและที่ผ่านมาได้ให้เงินขอทานและให้เงินคนยากจนและร่วมบุญทอดผ้าป่าสร้างอุโบสถและทอดผ้าป่าบูรณะอุโบสถและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน ถวายกรรไกรตัดเล็บมีดโกนช้อนซ่อมและที่ปั่นหูให้พระภิกษุและให้เงินขอทานและให้เงินคนยากจนและร่วมบุญทอดผ้าป่าสร้างอุโบสถและทอดผ้าป่าบูรณะอุโบสถ
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ขอเชิญร่วมงานมุทิตาสักการะ ๖๐ ปี ของ พระราชพิพัฒนาทร (หลวงพ่อถาวร จิตฺตถาวโร)
สอบถามได้ที่ วัดประทุมวนาราม กรุงเทพมหานคร


ร่วมสร้างลานปฏิบัติธรรมและพระประธานกลางลานธรรม ( เพื่อสั่งสมบารมี )
080-1942107

ด่วนที่สุดต้องการเจ้าภาพถวายเสื้อยืดสีขาวจำนวน 200 ตัว เพื่อให้แผนกต้อนรับ
สร้างศาลาปฏิบัติธรรมสมเด็จองค์ปฐมให้แล้วเสร็จ
ณ วัดเทียบศิลาราม หมู่ที่ ๑๘ บ้านหลักหินใหม่ ตำบลบักดอง อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ๓๓๑๕๐

ระหว่าง วันที่ ๕ – ๖ – ๗ เมษายน พ.ศ ๒๕๕๕
ร่วมบุญได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขา ขุนหาญ
ชื่อบัญชี วัดเทียบศิลาราม
หมายเลขบัญชี ๓๒๖ - ๐ - ๒๓๘๗๘ - ๖


ขอเชิญมหากุศลร่วมทำบุญเทคานพื้น พระพุทธโพธิ์ศรีมหาเจดีย์ ณ วัดโพธิ์ศรีธาตุ จ.สุรินทร์


ร่วมเป็นเจ้าภาพเทปูนหล่อพระ
โทร.๐๘-๖๑๖-๐๕๘-๓๓




สร้างรูปเหมือน หลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตักกว้าง ๕ เมตร ๙ นิ้ว สูง ๗ เมตร ๑๙ นิ้ว
0๘๖-๒๗๖ ๙๖๙๕

เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพถวายที่ดินวัดรัตนาราม ( ต้นแก้ว ) อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
โทร 081 7966669



เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ
งานบรรพชาสามเณรชาวเขาและบวชศีลจาริณี เ้ฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาีรี
ในวันที่ ๒๗ มีนาคม-๑๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๕
ณ วัดม่อนป่าสัก ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา
โทร. 08-6914-6548
ตอบกระทู้