นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 ม.ค. 2025 3:39 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 18 ก.พ. 2012 4:39 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4803
บางท่านอาจสงสัยว่า ขณะที่จิตอยู่ในสมาธิหลายชั่วโมงใน
ท่านั่งอย่างเดียวมิได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย เวลาจิตถอนขึ้นมาแล้ว
ร่างกายจะไม่เจ็บปวดชอกช้ำไปละหรือ? จึงขอเรียนตามความเป็น
ของจิตและขันธ์ว่า เมื่อจิตเข้าพักและสงบตัวอยู่อย่างเต็มภูมิ
เช่นนั้น จิตและกายไม่ได้รับความกระเทือนจากสิ่งใดเลย
ความสนิทของจิตของธาตุที่เป็นอยู่เวลานั้น เข้าใจว่าละเอียด
ยิ่งกว่าขณะคนนอนหลับสนิท ทั้งนี้เพราะบางครั้งขณะหลับไป
นาน ๆ ตื่นขึ้นมายังรู้สึกเจ็บปวดอวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งอยู่บ้าง
ที่ถูกนอนทับ แต่ขณะที่จิตถอนขึ้นมาจากสมาธิประเภทนี้
ไม่รู้สึกเจ็บปวดอวัยวะส่วนใด ๆ เลย ทุกส่วนปกติตามเดิม
ฉะนั้นจึงทำให้เชื่อมั่นในท่านที่เข้านิโรธสมาบัติอยู่หลาย ๆ วัน
ว่าเป็นความจริง ทั้งการเข้าอยู่ได้นาน ทั้งสุขภาพทางร่างกาย
ว่าเป็นปกติเช่นเดิม ไม่มีอะไรบอบช้ำเพราะสมาธิสมาบัติเป็น
เครื่องบั่นทอนหรือทำลายเลย
การสนทนาธรรมระหว่างพระธุดงค์ด้วยกัน โดยมากท่าน
สนทนาเรื่องผลของการปฏิบัติตามชั้นภูมิที่ตนรู้เห็นมา และสถานที่
บำเพ็ญในที่ต่าง ๆ อันเป็นการถ่ายทอดความรู้ความเห็นทางใจ
แก่กันและกันจริง ๆ ซึ่งเป็นเครื่องระลึกไปนาน การสนทนามิได้มี
เรื่องโลกสงสาร กิจการบ้านเมือง เรื่องได้เรื่องเสีย เรื่องรักเรื่องชัง
เรื่องโกรธเรื่องเกลียด เรื่องอิจฉาบังเบียดเหยียดหยามเข้าแฝงเลย
มีแต่เรื่องธรรมปฏิบัติล้วน ๆ เท่านั้น จะสนทนากันเป็นเวลา
ช้านานเพียงไรตามความจำเป็น ก็เป็นเครื่องพยุงจิตใจผู้ฟังให้ดื่มด่ำ
ซาบซึ้งในธรรมมากเพียงนั้น รู้สึกเป็นอุดมคติซึ่งน่าจะจัดเข้าใน
ธรรมบทว่า กาเลน ธมฺมสากจฺฉา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ ได้เพราะการสนทนาในระหว่างแห่งท่านนักปฏิบัติด้วยกัน
ท่านมุ่งต่อความรู้จริงเห็นจริงต่อกันจริง ๆ มิได้มุ่งเพื่ออวดชั้น
อวดภูมิ อวดรู้อวดฉลาดแม้น้อยเพียงไรเลย จิตคอยรับความจริง
ด้วยความสนใจจากกันอยู่ทุกขณะที่แต่ละฝ่ายระบายออกมา ถ้า
ฝ่ายใดยังมีบกพร่องในจุดใด ก็ยอมรับคำชี้แจงจากอีกฝ่ายหนึ่ง
ที่ภูมิธรรมสูงกว่า ด้วยความเคารพเต็มใจจริง ๆ การสนทนาก็คือ
การสอบถามความรู้ความเห็นความเป็นไปของจิตที่เกี่ยวกับสมาธิ
สมาบัติมรรคผลนิพพานของกันและกันนั่นเอง เมื่อต่างฝ่ายต่าง
สนิทเชื่อถือคุณสมบัติปฏิปทาของกันและกันอย่างไม่มีเคลือบแคลง
สงสัยแล้ว ย่อมสนทนากันได้ด้วยความสนิทใจและเปิดเผยต่อกัน
ในบรรดาธรรมที่มีอยู่ภายใน ไม่มีปิดบังลี้ลับไว้เลย
ตอนนี้แลที่นักปฏิบัติมีโอกาสได้รู้ภูมิธรรมของกันและกัน
ได้อย่างชัดเจนว่า ท่านผู้นั้นมีภูมิจิตภูมิธรรมอยู่ในขั้นนั้น ท่านผู้นั้น
มีจิตละเอียด ท่านผู้นั้นมีปัญญาสูง ท่านผู้นั้นจวนผ่านภพชาติ
อยู่แล้ว และท่านผู้นั้นได้ผ่านภพชาติไปแล้วอย่างสบายหายห่วง
ส่วนท่านผู้นี้กำลังขี้เกียจอ่อนแอ ภาวนามีแต่สัปหงก นั่งสมาธิมีแต่
หลับใน นั่งอยู่ที่ไหนหลับในที่นั้น ท่านผู้นี้มีเอตทัคคะในทางหลับใน
ในวงพระธุดงค์จึงไม่ควรเข้าใจว่าพระธุดงค์จะดีไปเสียทุกองค์ แม้
ผู้เขียนก็ตัวเก่ง เคยหลับในมาแล้วอย่างช่ำชอง แต่ไม่อยากอวดตัว
ท่านผู้นี้จิตกำลังเริ่มสงบ ท่านผู้นี้จิตกำลังเริ่มเป็นสมาธิ ท่านผู้นี้
มีความรู้แปลก ๆ เกี่ยวกับสิ่งภายนอก มีเปรตผีเทวดาเป็นต้น
ท่านผู้นี้ชอบภาวนาทางนั่ง ท่านผู้นี้ชอบภาวนาทางนอน ท่านผู้นี้
ชอบทรมานทางยืนมากกว่าอิริยาบถอื่น ๆท่านผู้นี้ชอบทรมานตนทางอดนอน ท่านผู้นี้ชอบทรมานตน
ทางผ่อนอาหาร ท่านผู้นี้ชอบทรมานตนทางอดอาหาร ท่านผู้นี้
ชอบทรมานตนด้วยการเข้าป่าหาเสือหาหมีเพื่อเป็นอุบายช่วย
ความกลัวให้หายด้วยการพิจารณา โดยยึดเอาเสือหมีเป็นเหตุ ท่าน
ผู้นี้ชอบทรมานด้วยการเดินเที่ยวหาเสือบนภูเขาในเวลาค่ำคืน ท่าน
ผู้นี้ชอบต้อนรับแขกลึกลับคือพวกกายทิพย์ แต่ท่านผู้นี้ชอบกลัว
แต่ผีแต่เปรตเหมือนพ่อแม่พาเกิดในบ้านผีบ้านเปรตและเอาซากผี
มาหลอกหลอนอยู่ตลอดเวลา เมื่อมาบวชจึงชอบกลัวแต่เปรต
ประจำนิสัย
ท่านผู้นี้มีนิสัยเชื่อง่าย ใครพูดอะไรเชื่อเอา ๆ ไม่ชอบ
ใคร่ครวญก่อนแล้วค่อยเชื่ออย่างมีเหตุผล ท่านผู้นี้มีทิฐิมากไม่ค่อย
ลงใครง่าย ๆ ท่านผู้นี้มีนิสัยฉลาดชอบใคร่ครวญไตร่ตรองด้วยดี
ก่อนทุกกรณี ไม่เชื่อแบบสุ่มเดา เวลาอาจารย์อบรมสั่งสอนจบลงก็
มักมีข้อข้องใจเรียนถามปัญหาต่าง ๆ และโต้ตอบกันเพื่อเหตุเพื่อผล
ทำให้ผู้อื่นได้รับความรู้ความฉลาดเพิ่มเติมหลายแง่หลายทาง และ
เป็นอุบายช่วยเสริมสติปัญญาแก่วงปฏิบัติได้ดี เป็นผู้ประดับหมู่คณะ
ให้สง่างามในวงปฏิบัติ เป็นที่เบาใจครูอาจารย์ผู้ให้การอบรมสั่งสอน
ไปอยู่ที่ใด อยู่กับท่านผู้ใด ก็เป็นที่เบาใจท่านผู้นั้น ไปอยู่โดยลำพัง
ก็พยายามรักษาตัวดีด้วยเหตุผลหลักธรรม ไม่นำความเสื่อมเสียมา
สู่วงคณะ การติดต่อกับผู้คนญาติโยมก็พอเหมาะพองาม ไม่เลยเถิด
เปิดเปิง ซึ่งในวงพระธุดงค์มักมีทำนองนี้แทรกอยู่เสมอ โดยมาก
ก็ไม่มีเจตนาให้เป็นอย่างนั้น แต่เพราะความไม่ฉลาดรอบคอบ
อย่างเดียว ทำให้เสียความดีงามอย่างอื่นไปด้วยอีกประการหนึ่งที่มักมีเสมอในวงปฏิบัติ คือ เวลาจิตเป็น
สมาธิย่อมมีความสงบมั่นคง ไม่วอกแวกคลอนแคลนไปกับโลก
ใจมักมีโวหารปฏิภาณเป็นพิเศษ ทำให้ผู้ปฏิบัติลืมตัวได้ง่าย อาจ
สำคัญตนว่าเก่งขึ้นได้ทั้งที่ยังไม่เก่ง เป็นเพียงจะเริ่มเก่งถ้าพยายาม
ทำความเพียรไม่ลืมตัวเสียก่อน แต่นักปฏิบัติมักลืมตัวตอนนี้
มากกว่าตอนอื่น ๆ เพราะไม่เคยประสบมาในชีวิต และเป็นก้าวแรก
แห่งความดี ความสงบสุขทางใจ ความมั่นคงของใจที่ผู้ปฏิบัติเพิ่ง
ได้รับ จึงทำให้ตื่นเต้นลืมตนไปได้ ถ้าไม่มีผู้เตือนก็อาจจะทะนงตัว
แบบนักธรรมะไปได้ โดยทะนงตัวว่าธรรมะเกิด โวหารแตกฉาน
เทศน์ปฏิภาณก็ได้ ต่อไปอาจเข้าใจว่าตัวเทศน์เก่ง ธรรมะก็แตกฉาน
ภายในใจ พูดเท่าไรธรรมะยิ่งไหลออกมาเหมือนน้ำเหมือนท่า
ไม่อัดไม่อั้น เลยทำให้เพลินพูดไปไม่หยุดหย่อน กว่าจะรู้สึกตัว
เวลาก็ปาเข้าไปหลายชั่วโมงในการพูดหรือเทศน์แต่ละครั้ง
การติดต่อกับผู้คนไม่รู้เวล่ำเวลาว่าควรไม่ควร พูดไม่รู้จักจบ
เทศน์ไม่มี เอวํ ธรรมะมีเท่าไรขุดค้นออกมาพูดและเทศน์จน
หมดเปลือก ใครมาหาโดยไม่ทราบว่าเขามาเพื่ออะไร มีแต่แจกจ่าย
ธรรมอย่างไม่อั้น ไม่เสียดาย ไม่ประหยัด ธรรมในใจแม้มีน้อยแต่ก็
ชอบจ่ายให้มากอย่างสมใจ จ่ายไปจ่ายไป โดยไม่มีการบำรุงรักษา
ด้วยความเพียรอันเป็นดังทำนบกั้นธรรมภายในใจไม่ให้รั่วไหล แต่
กลับทำลายด้วยความไม่รู้จักประมาณ แม้แต่น้ำในมหาสมุทรก็ยัง
ลดตัวลงได้ ใจที่ไม่ได้รับการเหลียวแลทางความเพียรและประหยัด
ด้วยเวลา ก็มีทางเสื่อมลงได้เช่นเดียวกัน
ฉะนั้นจิตที่จ่ายมากแต่ขาดการบำเพ็ญติดต่อ ก็ย่อมมีความ
เสื่อมถอยด้อยลงทุกทีจนไม่มีอะไรเหลืออยู่ภายในเลย สุดท้ายก็เหลือแต่ความฟุ้งซ่านรำคาญเต็มดวงใจเอาไว้ไม่อยู่ นำลงสู่
ความสงบไม่ได้เหมือนที่เคยเป็นมา ใจเปลี่ยนจากความสงบเย็น
กลายเป็นใจฟุ้งเฟ้อเห่อคะนองและร้อนรุ่มกลุ้มใจ ยืนเดินนั่งนอน
ในท่าใดก็มีแต่ไฟเผาใจหาความสงบเย็นไม่ได้ เมื่อไม่มีทางออกก็
คิดออกทางเปลวไฟ อันเป็นทางซ้ำเติมลงอีกโดยไม่รู้ตัวว่า ก็เมื่อ
มีแต่ความร้อนรนกระวนกระวายอยู่ตลอดเวลาเช่นนี้แล้ว จะอยู่
ไปทำไมให้หนักศาสนาเล่า สึกเสียดีกว่า อยู่ไปก็ไม่เห็นมีประโยชน์
อะไร เลยต้องสึกเสียเพื่อหายห่วงไปตามอารมณ์ดังนี้
ความคิดที่ไม่เป็นมงคลทั้งขณะที่กำลังเป็นนักบวชอยู่แล้ว
แม้สึกออกไปก็ไม่เป็นมงคลด้วยความคิดชนิดนั้น คือ แม้สึกออกไป
ก็ไม่ดีอยู่ตามเคย และไม่เป็นประโยชน์อยู่ตามเดิม เวลาสึกออกไป
ว่าจะทำให้ศาสนาเบาก็ไม่เบา คงเป็นศาสนาและทรงความจริงอยู่
เท่าเดิม
สรุปแล้วผู้ไม่ดีก็คือตัว ไม่เกิดประโยชน์ก็คือตัว ความหนักอก
เพราะใจทำพิษก็คือตัว เรื่องนี้พอสอนให้รู้ว่า ไม่ว่าสมบัติใด ๆ ถ้า
มีแต่จับจ่ายใช้สอยถ่ายเดียว ไม่มีการเก็บรักษา ก็ย่อมเสื่อมโทรม
และฉิบหายไปได้ ทำนองใจที่ปล่อยไปตามยถากรรม ผลก็คือความ
เดือดร้อนที่ตัวเองต้องรับในที่ทุกสถานตลอดกาลทุกเมื่อ เพราะ
ความผิดถูก ชั่ว-ดี มิใช่ทายาทของผู้ใด แต่เป็นของผู้ทำไว้โดย
เฉพาะเท่านั้นจะพึงรับแต่ผู้เดียว ท่านจึงสอนให้ระวังรักษาตัวด้วยดี
ไม่ปล่อยปละละเลยไปตามอารมณ์ เวลาผลไม่ดีแสดงตัวแล้วลำบาก
มาก เพราะผลนี้หนักกว่าภูเขาตั้งร้อยลูกเป็นไหน ๆ ปราชญ์ท่าน
จึงกลัวกันและสั่งสอนให้กลัวความชั่วตลอดมาจนปัจจุบันทุกวันนี้
เนื่องจากท่านทราบชัดในผลกรรมดี-ชั่วว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุดังกล่าวมานี้ที่พระธุดงค์นับแต่ผู้ใหญ่ลงมาถึงผู้น้อย
ท่านทราบภูมิจิตของกันและกันได้โดยไม่ต้องมีญาณหยั่งทราบ
ทางภายใน เพราะการสนทนาธรรมในวงพระกรรมฐานท่านถือเป็น
สำคัญ และเป็นไปอยู่เสมอมิได้ขาด โดยถือว่าเป็นการแลกเปลี่ยน
ความรู้ความคิดเห็นของกันและกัน และเป็นสัมโมทนียกถา
เครื่องรื่นเริงในธรรมที่ต่างได้ปฏิบัติและรู้เห็นมา มีโอกาสก็สนทนา
กันตามแต่ท่านผู้ใดมีความรู้หยาบละเอียดประการใด เวลาท่าน
สนทนากันเราก็มีโอกาสทราบได้ในเวลานั้น ยิ่งเป็นครูอาจารย์
ผู้ใหญ่สนทนากันด้วยแล้วก็ยิ่งน่าฟังมาก ธรรมท่านมีแต่ชั้นสูง ๆ
ฟังแล้วอัศจรรย์ อยากเอาหัวมุดดินลงในขณะนั้นด้วยความน้อยเนื้อ
ต่ำใจ และละอายในความสามารถวาสนาของตน ที่ต่ำต้อยด้อยสติ
ปัญญา ไม่สามารถรู้เห็นได้อย่างท่าน
ขณะฟังท่านสนทนากัน ทั้งไพเราะจับใจ ทั้งอัศจรรย์ ทั้ง
อยากรู้อยากเห็นอย่างท่านแทบใจจะขาด แต่สติปัญญาที่จะช่วยให้
รู้เห็นอย่างท่านไม่ทราบว่าไปจมอยู่ที่ไหน คิดหาก็ไม่พบ ค้นหาก็
ไม่เจอ มันมืดมิดปิดบังไปเสียหมด ประหนึ่งจะไม่ปรากฏอะไรขึ้นมา
ให้ได้ชมพอเป็นขวัญใจบ้าง ตลอดชีวิตลมหายใจคงจะตายกับ
ซากแห่งความโง่เขลาไปเปล่า ๆ มองดูหมู่เพื่อนที่นั่งฟังอยู่ด้วยกัน
ที่สง่างามไปด้วยความสงบ ราวกับจะเหาะบินสิ้นกิเลสไปเสียหมด
ทิ้งเราผู้ไม่เป็นท่าอันหาสติปัญญาเครื่องเปลื้องตนมิได้ ให้ตาย
จมอยู่ในวัฏวนเพียงคนเดียว ยิ่งคิดก็ยิ่งคับแคบแน่นหัวอก ใจสะทก
สะท้านเหมือนถูกทอดทิ้งอยู่ในป่าเปลี่ยวคนเดียว
เวลาเลิกจากธรรมสภาก็แอบไปไต่ถามหมู่เพื่อนว่า ฟัง
ธรรมสากัจฉาท่านแล้ว ใจเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับผมเองแทบอกจะแตกตายอยู่ในที่นั้นเสียแล้ว ด้วยความอัศจรรย์ในธรรมที่ท่าน
สนทนากัน เวลากลับมามองดูตัวเป็นเหมือนกาตัวจับภูเขาทอง
เราดี ๆ นี่เอง คิดแล้วอยากมุดดินให้สิ้นซากไปเสีย คิดว่าคงจะเบา
พระศาสนา ไม่หนักอึ้งไปด้วยคนอาภัพอับวาสนาที่ทำการกดถ่วง
อยู่ตลอดมาดังที่เป็นอยู่เวลานี้ ส่วนท่านและหมู่คณะที่ได้ยินได้ฟัง
ด้วยกันมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง กรุณาเล่าให้ผมฟังตามความจริง
เผื่อเป็นธรรมคติพอมีลมหายใจสืบต่อไป ไม่อัดอั้นตันอุราเหมือน
ใจจะขาดอยู่เวลานี้บ้าง
ท่านองค์ใดพูดขึ้นส่วนมากมักมีลักษณะเดียวกัน เพราะ
ต่างองค์มีความกระหยิ่มในธรรมท่านมาก แล้วหวนมามองดูตัว
ที่อยากเป็นดังท่าน แต่เมื่อเหตุปัจจัยยังไม่สามารถเป็นไปได้ ก็
เกิดความเสียใจขึ้นมา ผลจึงแสดงความทุกข์ในลักษณะต่าง ๆ ให้
ปรากฏ พอได้ทราบจากหมู่คณะที่กำลังรับการอบรมศึกษาเล่าให้ฟัง
จึงพอมีลมหายใจคืนมาบ้างและตั้งหน้าปฏิบัติตนต่อไป ไม่เกิด
ความเดือดร้อนกลัวจะไม่ได้ไม่ถึงต่าง ๆ อันเป็นการเบียดเบียนตน
โดยใช่เหตุ
ที่พูดผ่านมาว่า พระธุดงค์บางท่านกล้าสละชีวิตไปนั่งอยู่ที่
ทำเลเสือเที่ยวไปมาหากินในเวลาค่ำคืนบ้าง บางท่านกล้าเที่ยวเดิน
หาเสือบนเขาในเวลาค่ำคืนบ้างเป็นต้นนั้น อาจทำให้เกิดความสงสัย
หรือไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ เพราะเป็นสิ่งที่น่าคิดว่าท่านจะนั่งและ
เดินหาเสือเพื่อประโยชน์อะไรกัน เพียงนั่งอยู่กับบริเวณที่พักถ้าเป็น
นิสัยคนขี้กลัวอยู่แล้ว ก็พอจะเกิดความกลัวได้จนแทบไม่มีลมหายใจ
ก็ได้ แต่ทำไมจึงต้องใช้วิธีโลดโผนเลยสามัญธรรมดาไปถึงขนาดนั้น
ถ้าไม่ใช่พระที่อาจจะขาดสติอยู่บ้างคงไม่ทำกันดังนี้ความจริงก็ควรจะเป็นอย่างนั้น แต่เรื่องของบางท่านที่เคย
ดำเนินมากลับเป็นอย่างนี้ คือความกลัวที่เกิดอยู่ในบริเวณ ท่านก็
ใช้อุบายแก้ไขเช่นเดียวกับที่ไปนั่งและเดินเที่ยวหาเสือบนหลังเขา
แต่ความกลัวที่เกิดตามลำพังดังที่เกิดขึ้นขณะพักอยู่บริเวณของตน
เป็นอย่างหนึ่ง ท่านก็ใช้อุบายแก้ไขจนความกลัวนั้นหายไปได้ แต่
ความกลัวที่ท่านกำลังแสวงหาด้วยวิธีต่าง ๆ มีหาด้วยการไปนั่ง
ภาวนาอยู่บนหินดานหลังเขาบ้าง หาด้วยการเดินหาเสือบนหลังเขา
บ้างนั้น เป็นความกลัวที่โลดโผนรุนแรงยิ่งกว่าความกลัวที่เกิดอยู่
โดยลำพังมาก ถ้าไม่ใช้อุบายให้ทันกัน ก็น่ากลัวเป็นบ้าไปได้ ขณะ
พบกับเสือเข้าจริง ๆ ฉะนั้นวิธีระงับจึงต้องใช้อุบายต่างกันมากจน
ความกลัวนั้นหายไปได้ ด้วยกุศโลบายของแต่ละท่านที่จะหาอุบาย
วิธีฝึกทรมานตนเป็นราย ๆ ไป
แต่การฝึกจิตดวงกำลังกลัวถึงขนาดให้หายพยศลงได้ ด้วย
อุบายที่ทันสมัยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก แม้ผลที่ปรากฏขึ้นในขณะจิต
ยอมจำนนต่อสติปัญญาก็เป็นความอัศจรรย์เกินคาด คือ ใจกลับ
เกิดความกล้าหาญขึ้นมา ขณะที่ความกลัวดับลงไปด้วยอุบายที่
ทันกัน หลังจากนั้น จิตสงบเต็มที่ปราศจากความหวาดกลัว
ใด ๆ หนึ่ง เวลาจิตถอนขึ้นมาก็ทรงความกล้าหาญไว้ได้ไม่กลับ
กลัว หนึ่ง เป็นพยานหลักฐานในใจได้อย่างมั่นคงว่า จิตเป็นสิ่งที่
ทรมานให้หายพยศได้อย่างเห็นประจักษ์ ด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ
เป็นเครื่องสนับสนุน มีความกลัวเป็นต้น หนึ่ง มีความพอใจที่
จะทรมานตนด้วยวิธีนั้นหรือวิธีอื่นด้วยความถนัดใจ ไม่พรั่นพรึง
ต่อความตาย หนึ่ง แม้การทรมานตนด้วยวิธีอื่น ๆ ก็โปรดทราบว่า
ท่านทำด้วยความมั่นใจที่เคยได้รับผลมาแล้ว มีแต่จะเร่งความเพียร

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและอนุโมทนากับเพื่อนคนหนึ่งผู้อื่นที่เคยทำความสะอาดบริเวณลานพระพุทธรูปและจัดสถานที่ต่างๆและได้ทำอาหารเลี้ยงผู้คนจำนวนหลายคนและมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คอยช่วยเหลือผู้อื่นและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ



ร่วมสร้างพระผงองค์ละ 1 บาท(ได้บุญ 5 กัป) บรรจุในองค์หลวงปู่ทวดชนะมารทันใจ หน้าตัก 4 ศอก
.มือถือ 081-875-4903



ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างเขื่อนกั้นน้ำ อาศรมสุขาวดี จ.กำแพงเพชร
ร่วมทำบุญสร้างเขื่อนนี้ได้โดยการโอนเงินเข้าบัญชี
พระเป็งโชย ฐิตปัญโญ
ธนาคารกสิกรไทย สาขาแฉล้มนิมิตร ประดู่ 1
เลขที่บัญชี 729-2-41504-9
ออมทรัพย์


ในวันที่3-4 มีนาคมนี้ แต่ยังขาดคู่พระอัครสาวกทั้งสอง (พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ) ด้วยเหตุนี้ทางวัดจึงขอเปิดจองเป็นเจ้าภาพถวายคู่พระอัครสาวกทั้งสอง
สามารถสอบถามเมเติมที่ สุปัญโญภิกขุ 0854921577 (รับเป็นองค์พระ)และสามรถร่วมบุญตามกำลังศรัทธา



ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างกุฏิพระสงฆ์ ณ ที่พักสงฆ์ หนองสะโน
ติดต่อสอบถามได้ที่เบอร์ 080741705


เชิญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดห้วยเจริญสุข(หลวงปู่ปรง)ให้แล้วเสร็จ
ติดต่อสอบถาม พระราชัน เทวธมฺโม 081-794-6884


ขอเชิญเป็นเจ้าภาพสร้างองค์พระประธานถวายวัดและสำนักสงฆ์ที่ขาดแคลนในถิ่นทุรกันดาร
เนื่องด้วยพระอาจารย์มหาอาวรณ์ ภูริปัญโญ เจ้าอาวาส วัดปันเสา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งท่านเป็นพระที่มีความเมตตาอย่างสูงมาก ได้มีดำริให้จัดสร้างองค์พระประธานทองเหลืองหน้าตัก 39 นิ้ว เพื่อถวายแก่วัดในถิ่นทุรกันดารที่ยังขาดแคลน
ท่านที่ต้องการร่วมบุญสามารถ โอนปัจจัยมาได้ที่

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขา ท่าแพ
เลขที่ 251-477777-6 ชื่อบัญชี สิริกมล ชัยดารา



ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบวชพระ บวชตลอดชีวิต
ซึ่งจัดพิธีบวชอย่างเรียบง่าย ติดต่อสอบถามได้ที่
phabunchar@hotmail.com โทร 087-4547377


ขอเชิญบวชชีพราหมณ์และร่วมเททองหล่อพระหฤทัยจำลอง
ติดต่อสอบถาม
พระอาจารย์ไนยวิศ ญาณพโล เจ้าอาวาสวัดธรรมสถิตย์
โทร. 087-989-1599

ร่วมบุญซื้อเครื่องกรองน้ำ 1 ตัวใช้ในศูนย์ปฏิบัติธรรม
ติดต่อสอบถาม
โทร .089-899-4099


ร่วมช่วยเหลือ เด็กชายป่วยเป็น โรคไทโร (หัวบาด)
085-51699813


โครงการสร้างหนังสือพระไตรปิฎกพร้อมตู้ ครั้งที่ 2
ถวาย วัดบ้านเยี่ยม จ.อุบลฯ
e-mail: sancity45@gmail.com


เชิญร่วมพิธีเททอง หล่อพระประธาน... 9องค์ 9วัด 9จังหวัด

ในวันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555

ณ วัดรวกสุทธาราม
ซ.จรัญฯ33 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ

เวลา 16.39 น. พิธีเททองหล่อพระประธาน 9 องค์

สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.02-412-8169,02-866-6320,02-411-3407


กำหนดการสอนมโนมยิทธิเต็มกำลัง วัดสามพราน และ บ้านมณีรินทร์ กพ. - เมย. 2555
082-450-2988


มาบอกบุญให้หลวงพี่ครับ ขอเชิญทำบุญร่วมสร้างโปรแกรมใช้งานเรื่องอักขระยันต์ขอม ร่วมกันครับ งบประมาณในการจัดทำ
ทั้งหมด 7450 บาทครับ ใครสนใจร่วมบุญ ติดต่อที่หลวงพี่พัชรพล ได้โดยตรงเลยนะครับ 0833147905 ครับ


ขอเชิญร่วมบริจาคทรัพย์ เพื่อเป็นเจ้าภาพบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน รุ่นที่ 7 ประจำปี พ.ศ.2555
ตั้งแต่วันที่ 2 - 24 เมษายน 2555 เื่พื่อถวายเป็นพระราชกุศลได้ ท่านละ 300 บาท ต่อ 1 รูป
หรือจะบริจาคร่วมสมทบทุนเข้าโครงการตามแต่กำลังศรัทธาสนใจ ติดต่อสอบถามได้ที่ พระพัชรพล โชติปญฺโญ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดดอนคลัง 0833147905

ร่วมสร้างโบส์ถ ที่วัดถ้ำโถ จ.เพชร์บูรณ์
สอบถามข้อมูลโทรได้ที่ พระอาจารย์กิ่ง 084-107-1307


ขอเชิญท่านผู้มีจิตศรัธา ร่วมสร้าง สถานที่ปฏิบัติธรรม สวนไผ่ กับสำนัก หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
โทร 085-8397856


ทำบุญตักบาตรและฟังธรรมพระกัมมัฎฐาน ประจำปี 2555 วัดพุทธบูชาทุกเสาร์แรกของเดือน
กำหนดการทำบุญตักบาตรและฟังธรรมพระกัมมัฎฐาน(สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ) ประจำปี พ.ศ.2555
ณ ศาลาการเปรียญวัดพุทธบูชา เวลา 06.30-10.30 น. ถนนพุทธบูชา แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร


ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อสมทบทุนหล่อพระประธานอุโบสถ ณ วัดทุ่งสวน หมู่ที่ 7 ตำบลนครชุม อ.เมือง จังหวัดกำแพงเพชร วันที่ 3 มีนาคม 2555 โทร 081-037-2088


ด่วน ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกองบุญจัดสร้างผอบทองคำและสมเด็จองค์ปฐมทันใจ
โทร 0821179975


ขอเชิญร่วมโครงการพัฒนาจิตเยาวชนแบบบูรณาการ

โดย

ยุวพุทธิกสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
http://www.ybat.org/v4/samanen.asp


ขอเชิญร่วมบริจาคเงินกับยุวพุทธิกสมาคม และเชิญร่วมปฏิบัติธรรมที่
http://www.ybat.org/v4/download.asp#a2


ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมกับวัดยานนาวาดูที่
http://bhavanatoday.org/public/Practice ... aList.aspx


ขอเชิญร่วมปฏิบัติธรรมกับวัดมเหยงคณ์ดูรายละเอียดได้ที่
http://www.mahaeyong.org/Site/Welcome.html


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 128 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO