มาขอขมาโทษกับเราเพื่อประโยชน์อะไร เรายังอดโทษให้แกไม่ได้
อย่างน้อยแกก็ควรจะได้พบของดีที่แกชอบอีกสักคืนหนึ่ง ถ้าไม่ตาย
เพราะเสือกินก็พอให้ได้ที่ระลึกไปนาน ๆ บ้าง เสือมันดีกว่าอาจารย์
อาจารย์ก็จะมอบให้เสือเป็นผู้อบรมสั่งสอนต่อไป ว่าอย่างไร จะ
มอบให้เสือในคืนวันนี้ ถ้ามันสอนไม่ฟังก็จะมอบให้เป็นอาหารของ
มันไปเสียรู้แล้วรู้รอดไป ขี้เกียจสั่งสอน ว่ายังไง จะเอาไหม ที่เจอ
เสือและฟังเทศน์เสือทั้งคืนนั้นเหมาะกับเหตุดีแล้ว
คืนนี้จะให้มันมาสอนอีก ถ้ายังขืนเก่งอยู่อีกก็จะมอบให้เป็น
เสบียงเดินทางของมันไปเสีย มันคงสบายท้องไปหลายวัน จะเอา
อย่างไหนดีรีบตอบมาอย่ามัวชักช้า อาจารย์กับเสือใครจะดีกว่ากัน
เอาตอบเดี๋ยวนี้อย่ารอช้าอยู่ เดี๋ยวจะบอกให้เสือมารับตัวไปใช้สอย
เสียเดี๋ยวนี้จะดีกว่าอาจารย์ใช้เป็นไหน ๆ ว่าแล้วก็ทำเป็นเชิงตะโกน
เรียกเสือว่า เสือตัวนั้นไปอยู่ที่ไหนเวลานี้ ให้รีบมารับเอาตัวตา
ปะขาวไปอยู่ด้วยเดี๋ยวนี้ อาจารย์มอบตาปะขาวคนนี้ให้เป็นลูกศิษย์
ของเสือแล้ว รีบมารับเอาไปเดี๋ยวนี้อย่ารอช้าเลย ตอนนี้ตาปะขาว
ร้องไห้โฮอย่างไม่เป็นท่าและขอร้องอาจารย์ว่ากระผมเข็ดแล้ว ขอ
ท่านอย่าได้เรียกมันมา กระผมจะตายขณะนี้อยู่แล้ว คืนนี้ก็นึกว่า
ตายไปหนหนึ่งแล้ว แต่กลับฟื้นคืนมาพอได้สติจึงรีบมาหาอาจารย์
ขอความช่วยเหลือ มิหนำยังจะเรียกมันมาอีก กระผมจะไปเอาชีวิต
จิตใจมาจากไหนต้านทานกับมัน ขอท่านจงบอกให้มันงดอย่าให้
มันมาอีก
ทั้งร้องไห้ ทั้งขอร้องไม่ให้ท่านเรียกเสือมาอีก ทั้งกราบไหว้
วิงวอนขอชีวิตชีวาไว้พอมีลมหายใจต่อไป ทั้งยอมเห็นโทษที่ทำผิด
แล้วจะสำรวมระวังต่อไป ทั้งปฏิญาณตนด้วยความเข็ดหลาบต่อหน้าท่านว่าจะไม่ทำอย่างนั้นอีกต่อไป ทั้งร้องขอให้ท่าน
อโหสิกรรมให้ พอเห็นเป็นการอันควรแล้วท่านจึงรับขมาโทษ และ
อบรมสั่งสอนต่อไป และพูดปลอบโยนต่าง ๆ ว่า ที่เสือมานั้นมิใช่
อะไรอื่นพาให้มา กรรมชั่วของแกเองบันดาลให้มา ถ้าแกยังไม่ยอม
เห็นโทษแห่งความชั่วของตัว ก็ต้องเห็นดีกันในคืนนี้นี่แล พอตกมืด
เสือตัวนั้นก็จะมาและเอาตัวแกไปพร้อมโดยไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว
มันจะไม่พูดพล่ามทำเพลงเหมือนคืนที่แล้วนี้เลย
เมื่อเจ็บแล้วต้องจำ เพราะบาปมีบุญมีประจำโลก ใครจะมา
ลบล้างธรรมทั้งสองอย่างนี้ไม่ได้ ถ้ากรรมอยู่ใต้อำนาจของผู้หนึ่ง
ผู้ใดได้แล้ว ผู้มีอำนาจนั้นจะต้องลบล้างกรรมเหล่านี้ให้สูญไป
จากโลกนานแล้ว ไม่สามารถยังเหลือมาถึงพวกเราเลย เท่าที่
กรรมดี-ชั่วยังมีอยู่ ก็เพราะกรรมมิได้ขึ้นอยู่กับผู้ใดโดยเฉพาะ
แต่ขึ้นอยู่กับผู้ทำกรรมนั้น ๆ เท่านั้น นี่ก็แกทำกรรมชั่วไว้
เมื่อบ่ายวานนี้ แกก็ต้องเห็นกรรมชั่วของแกเอง ถ้าแกยังไม่ยอม
เห็นโทษของตัว ก็แน่ทีเดียวในคืนวันนี้พญากรรมตัวลายพาดกลอน
จะมาตามเอาตัวแกไปดูผลของกรรมให้ประจักษ์กับตัวเอง
พออบรมเสร็จแล้วก็บอกให้เธอกลับไปที่พักตามเดิม แต่
ตาปะขาวคนนั้นไม่ยอมไป กลัวว่าเสือตัวนั้นจะแอบมาโดดคาบเอา
ไปกินเป็นอาหารอีก ท่านต้องขู่ด้วยอุบายให้กลัวอีกครั้งว่า ก็เมื่อกี้
นี้ก็ว่ายอมเห็นโทษแห่งความดื้อดึงของตัวว่าจะไม่ทำอีก แต่พูดยัง
ไม่ขาดคำ ทำไมจึงแสดงความดื้อด้านขึ้นมาอีกเล่า ถ้าอย่างนั้นก็จง
ดื้ออยู่ที่นี่หากจะทนต่อเสือตัวนั้นได้จริง ๆ พอพูดจบคำท่านก็เรียก
หาเสือตัวนั้นมาอีกว่า เสือตัวเป็นอาจารย์ของตาปะขาวคนนี้ไปไหน
เสีย รีบกลับมารับตาปะขาวผู้ดื้อด้านนี้ไปอบรมให้หน่อยเถอะเราเบื่ออบรมจะตายอยู่แล้ว รีบ ๆ มาเร็ว ๆ หน่อย พอพูดจบคำ
ตาปะขาวร้องไห้ขึ้นอีก พร้อมรับคำว่ากระผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ ขอ
ท่านอย่าให้เสือมาเลย กระผมกลัวมัน คืนนี้แทบปอดหลุดหายอยู่
แล้ว แต่ก็รีบไปที่พักของตนโดยไม่คิดถึงความกลัวความตายอีกเลย
เป็นที่น่าประหลาดและอัศจรรย์อย่างยิ่ง นับแต่วันนั้นมา
ไม่เคยปรากฏว่าเสือตัวนั้นมาลอบ ๆ มอง ๆ แถบบริเวณนั้น
อีกเลย จนกระทั่งจากที่นั้นไปซึ่งก็เป็นเวลาอีกหลายเดือน ถ้าคิด
ตามสามัญสำนึกก็น่าจะมีอะไรมาบันดาลใจเสือตัวนั้น ให้มาทรมาน
ตาปะขาวผู้เก่งกาจอาจหาญพาลพาโลทำในสิ่งไม่ควรทำ เช่น ยืน
ปัสสาวะรดกองไฟ แม้แต่คนธรรมดาไม่มีศีลมีธรรมก็ไม่คิดหาญ
ทำได้ คนชนิดนี้ไม่มีอะไรจะเอาให้อยู่ในเงื้อมมือได้ นอกจากเสือ
โคร่งใหญ่ตัวนั้นพอเป็นคู่ทรมานกันได้ แกถึงได้ยอมจำนนอย่างราบ
นับแต่วันนั้นมาท่านว่า ตาปะขาวก็ไม่เคยแสดงอาการดื้อดึงอีกเลย
นับว่าได้ผลดี เสือทรมานคนเก่งมาก ทำให้เข็ดไปนานเสียด้วย
ตอนนี้ขอแทรกเรื่องพิเศษลงสักนิดพอหอมปากหอมคอ คือ
ผู้เขียนเองก็คิดอยากได้เสือสักตัวมาอยู่แถวใกล้เคียงวัดป่าบ้านตาด
เพื่อช่วยภาระบางอย่างให้เบาลงบ้าง เวลาพระเณรเถรชีหรือท่าน
ผู้ใดก็ตาม ที่ขี้เกียจภาวนาขึ้นมามัวแต่นอน จะได้ช่วยให้ขยัน
ขึ้นบ้าง แม้ไม่มาให้เห็นตัวเสือ แต่เพียงช่วยทางเสียงก็คงพอจะ
ทำให้ตาตั้งหูกางและลุกขึ้นภาวนากันบ้าง ไม่สนุกนอนจนเกินไป
แต่ถ้าเสือมาอยู่ที่นั้นแล้ว สุนัขบ้านที่มาอาศัยวัดอยู่หลายตัวซึ่งเคย
เป็นอาจารย์สอนคนผู้ขี้เกียจปิดประตู และเก็บรักษาสิ่งของไว้
รับประทาน จะพากันกลัววิ่งแตกหนีหมด ก็จะขาดกำลังทางหนึ่งไปความจริงเราอยากได้ไว้ที่วัดทั้งสองอาจารย์ คือ อาจารย์
เสือและอาจารย์หมานั่นแล จะได้ช่วยกันเตือนทั้งความพากเพียร
ทั้งการเก็บรักษาสิ่งต่าง ๆ ไว้ดี ๆ วัดจะสมบูรณ์ทั้งคนขยัน
ทำความเพียร ทั้งคนขยันเก็บรักษาสิ่งของต่าง ๆ ไว้รับประทาน
ด้วยความปลอดภัย คงดีมากถ้าทำอย่างนี้ พระเณรเถรชีตลอด
บรรดาลูกศิษย์ที่มาจากที่ต่าง ๆ ซึ่งเป็นนักกลัวเสือและขี้เกียจเก็บ
รักษาสิ่งของต่าง ๆ ก็จะพาลโมโหอาจารย์เข้าให้อีกว่า ไปเอาเสือ
เอาอะไรมาทรมานกันไม่เข้าเรื่อง ก็จะยุ่งกันใหญ่ แต่ความจริงก็น่า
จะมีอะไรมาคอยช่วยเตือนบ้าง เฉพาะอาจารย์คนเดียวดูแลไม่ทั่วถึง
โดยมากทางครัวที่คณะลูกศิษย์ฝ่ายผู้หญิงและอุบาสิกา
มาจากที่ต่าง ๆ มาพักกัน มักจะเสียเปรียบพวกสุนัขบ้านที่แอบ
ซ่อนอยู่ในวัดเป็นฝูง ๆ ขโมยสิ่งของไปกินเสมอ แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่
และน่าเสียดาย ก็เป็นความบกพร่องซึ่งไม่อยากให้มี เพราะคำว่า
บกพร่องแล้ว อยู่กับอะไรไม่ดีทั้งสิ้น ยิ่งมาอยู่กับคนและไม่สนใจ
ชำระแก้ไขด้วยแล้วยิ่งไม่ดีเลย ที่นำสัตว์นำเสือมาลงบ้างต้อง
ขออภัยด้วย เห็นว่าเรื่องเกี่ยวเนื่องกันพอเป็นคติได้บ้างจึงได้นำลง
ขอย้อนพูดเรื่องท่านอาจารย์กับตาปะขาวต่อไปซึ่งยังไม่จบ
พอเวลาต่อไปตาปะขาวตั้งท่ากลัวเสืออยู่ตลอดทั้งกลางวันกลางคืน
ใจมองเห็นภาพเสือโคร่งใหญ่ตัวนั้นอย่างชัดเจนตลอดเวลา และคิด
เรื่องเสือจะมาหาแทบทุกลมหายใจกระทั่งเย็น ไม่มีเวลาสบายใจ
ได้เลย มัวคิดว่าเสือตัวนั้นจะโดดโผงผางมางับคอไปกินอยู่เรื่อยไป
แต่ดีอยู่อย่างหนึ่งที่ระลึกเห็นภาพเสือทีไรก็ระลึกถึงพุทโธทีนั้น
ไปพร้อม ๆ กัน ไม่มีเวลาพลั้งเผลอ พอเริ่มมืดก็เริ่มเข้าที่นั่งภาวนาพุทโธบ้าง คิดว่าเสือจะมาบ้างสับกันไป ไม่เป็นอันอยู่หลับนอน
และภาวนาได้เหมือนแต่ก่อนเลย ภาวนาไปตาคอยจ้องมองเสือไป
คืนนั้นเลยสว่างคาตาไม่ได้หลับนอนตลอดรุ่ง เพราะถ้าเผลอหลับไป
เผื่อเสือมาในระยะนั้นจะทำอย่างไร ก็เท่ากับนอนคอยท่ามันเอาไป
กินอย่างง่าย ๆ
พอสว่างก็รีบไปหาอาจารย์ ท่านถามว่า เป็นอย่างไรเสือที่
เป็นอาจารย์มาเยี่ยมบ้างหรือเปล่าคืนนี้ แกเรียนตอบท่านว่าไม่มา
ท่านจึงปลอบใจให้มีความอบอุ่นบ้างว่า จะกลัวมันทำอะไร ถ้ากลัว
ความชั่วของตัวเองเท่ากลัวเสือก็พ้นทุกข์ไปนานแล้ว จงรีบกำจัด
ความชั่วที่ซ่องสุมอยู่ในใจให้เบาบางและสิ้นไป จะไปสนใจอะไรกับ
เสือ มันไม่มาทำไมหรอก เชื่อเราเถอะถ้าไม่ทำชั่วอีกเสือก็ไม่มา
จงภาวนาให้ใจสบาย เสือจะได้สบายหายห่วงไม่ต้องมาเยี่ยมเยียน
อยู่เรื่อย ขาดการหากินของมันไปเปล่า ๆ ที่เสือมานั้นมันมาช่วย
ฉุดแกขึ้นจากนรกต่างหากเพราะการทำผิดของแก มิฉะนั้นแกจะ
ตกนรกจริง ๆ เสือมิได้มาเพื่อตั้งใจจะกิน ถ้าแกไม่ทำชั่วอีก คอย
รักษาตัวดี ๆ ก็แล้วกัน ถ้าแกพยายามและขยันภาวนาแล้ว แกจะ
เห็นเสือเท่าที่เห็นแล้ว จะไม่เห็นมันต่อไปอีกเลยกระทั่งพวกเราจาก
ที่นี่ไป
นับแต่วันนั้นก็ไม่เคยเห็นเสือตัวนั้นเดินผ่านกล้ำกรายแถว ๆ
นั้นอีกเลยดังกล่าวแล้ว แม้จะมีเสียงกระหึ่มไปมาบ้างก็เป็นธรรมดา
ดังที่เคยได้ยินทั่ว ๆ ไป ไม่เคยมารบกวนให้ลำบากใจ ตาปะขาวก็
ขยันภาวนาและสละทิฐิมานะทุกอย่าง กลายเป็นคนดีทั้งภายใน
ภายนอกไม่มีที่ต้องติ นับแต่วันเสือมาช่วยอบรมให้เพียงคืนเดียว
จึงน่าประหลาดใจอยู่ไม่ลืมจนบัดนี้ สำหรับท่านเองท่านไม่นึกกลัวเลย แม้ตาปะขาวมาเล่าให้ฟังก็เฉย ๆ เสือตัวที่มานั้นก็เป็นเสือเทพ
บันดาลต่างหากท่านว่า
ท่านอาจารย์องค์นี้เป็นศิษย์ผู้ใหญ่ของท่านอาจารย์มั่น
ท่านชอบอยู่ลำพังองค์เดียวในป่าในเขาลึก อาศัยชาวไร่ชาวสวนเป็น
ที่โคจรบิณฑบาต เวลาท่านพักอยู่เงื้อมผากับตาปะขาวนั้น มีความ
ก้าวหน้าทางจิตใจมากกว่าที่อื่น ๆ จึงได้พักอยู่ที่นั่นหลายเดือน จน
ก้าวเข้าฤดูฝนจึงได้กลับมาฝั่งไทย ท่านว่าขณะเสือคำรามตาปะขาว
เบา ๆ ท่านก็ได้ยินชัดเจนแต่มิได้สนใจ เพราะเคยได้ยินอยู่เสมอจน
ชินหูเสียแล้ว ต่อเมื่อตาปะขาวมาเล่าให้ฟังด้วยทั้งร้องห่มร้องไห้
เพราะความกลัว จึงได้พิจารณาตามเหตุการณ์และเทวดามาเล่าให้
ฟังจึงทราบว่าเทพบันดาลให้เสือตัวนั้นทรมานแกเพื่อหายพยศ
ไม่เช่นนั้นแกจะเคยตัวและแสดงความดื้อดึงไปเรื่อย ๆ ทำให้เป็น
บาปเพิ่มขึ้น เวลาตายแกจะลงนรก จึงได้รีบแก้ไขด้วยวิธีที่แกจะ
เข็ดหลาบไม่หาญทำอีกต่อไป
ท่านว่าเป็นความจริงดังเทวดามาเล่าให้ท่านฟัง เพราะนับ
แต่วันนั้นมานิสัยใจคอความประพฤติทุกด้านของแกเปลี่ยนไปหมด
จนกลายเป็นคนละคนไปได้ แต่ก่อนแกมีนิสัยดื้อ ๆ อยู่บ้าง
บางครั้งเป็นลักษณะเหมือนคนไม่เต็มเต็งบ้าง เราก็ไม่ค่อยถือสา
กับแก ปล่อยไปตามนิสัยของแกเรื่องมา จนวันเสือมาดัดสันดาน
หยาบปราบความดื้อดึงของแกลงได้ จึงได้ทราบชัดว่า แกมีนิสัยไม่ดี
ติดตัวมาจริง ๆ มิใช่คนไม่เต็มเต็ง มิฉะนั้นแม้ถูกเสือทรมานแล้ว
ก็ไม่เข็ด นิสัยไม่เต็มเต็งก็คงกลับมาอีก แต่นี่นับแต่วันนั้นมาแล้ว
ไม่มีอะไรที่ไม่ดีกลับมาอีกเลย เรียบร้อยดีงามตลอดมาท่านอาจารย์องค์นี้ท่านมีคุณธรรมสูงมาก น่ากราบไหว้บูชา
แต่ท่านเสียไปได้ราว ๔-๕ ปีแล้ว เวลาท่านจะจากขันธ์ไปก็ทราบว่า
ไม่ให้ใครวุ่นวายกับท่านมากเป็นกังวลไม่สบาย ท่านขอตายอย่าง
เงียบแบบกรรมฐานตาย จึงเป็นความตายที่เต็มภูมิของพระปฏิบัติ
ไม่เกลื่อนกล่นวุ่นวาย เวลาประชุมเพลิงท่าน ก็ทราบว่าพระผู้ใหญ่
ทั้งหลายไม่ค่อยทราบกันเลย เนื่องจากท่านไม่ให้บอกใครให้ยุ่งไป
มาก วุ่นเปล่า ๆ วุ่นกับคนตาย หมดราคาค่างวดแล้วไม่ค่อยเกิด
ประโยชน์เหมือนวุ่นกับคนเป็น ท่านพูดอย่างสบายง่าย ๆ อย่างนี้
เอง ใครจึงไม่กล้าขัดขืนคำท่าน ประการหนึ่งก็เป็นคำท่านสั่งเสีย
ด้วยใจจริงด้วย กลัวเป็นบาปถ้าขืนคำท่าน แม้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่
ผู้เขียนก็เคยได้ไปพักอาศัยอยู่กับท่านในเขาลึกราวครึ่งเดือน ที่ท่าน
พักอยู่เวลานั้นเป็นป่าเขา อาศัยอยู่กับชาวไร่บิณฑบาตพอเป็นไป
วันหนึ่ง ๆ ทราบว่าท่านจำพรรษาที่นั้นหลายพรรษาเหมือนกัน
ที่นั้นผู้เขียนเคยตั้งเวลาดูตอนออกเดินทางกลับ จากที่พักท่าน
ออกมาหมู่บ้านกว่าจะพ้นจากป่าก็เป็นเวลา ๓ ชั่วโมง ๒๐ นาที
พอดี จนถึงหมู่บ้านก็ร่วม ๔ ชั่วโมง
ชื่อท่านว่า ท่านอาจารย์หล้า ภูมิลำเนาเดิมอยู่เวียงจันทน์
นับแต่อุปสมบทแล้วท่านเลยอยู่ฝั่งไทยตลอดมาจนวันมรณภาพ
เพราะทางฝั่งไทยมีหมู่คณะและครูอาจารย์ทางฝ่ายปฏิบัติมาก การ
บำเพ็ญสมณธรรมท่านมีนิสัยเด็ดเดี่ยวอาจหาญ ชอบอยู่และไป
คนเดียว อย่างมากก็มีตาปะขาวไปด้วยเพียงคนเดียว ท่านมีนิสัย
ชอบรู้สิ่งแปลก ๆ ได้ดีคือ พวกกายทิพย์ มีเทวดาเป็นต้น พวกนี้
เคารพรักท่านมาก ท่านว่าท่านพักอยู่ที่ไหนมักมีพวกนี้ไปอารักขา
อยู่เสมอ ท่านมีนิสัยมักน้อยสันโดษมากตลอดมา และไม่ชอบออกสังคมคือหมู่มาก ชอบอยู่แต่ป่าแต่เขากับพวกชาวไร่ชาวป่าชาวเขา
เป็นปกติตลอดมา ท่านมีคุณธรรมสูงน่าเคารพบูชามาก คุณธรรม
ทางสมาธิปัญญารู้สึกว่าท่านคล่องแคล่วมาก แต่ผู้คนพระเณรส่วน
มากไม่ค่อยทราบเรื่องนี้มากนัก เพราะท่านไม่ค่อยแสดงตัว มีเพียง
ผู้ที่เคยอยู่ใกล้ชิดท่านที่ทราบกันได้ดี
ราว พ.ศ.๒๔๙๓ ที่ผู้เขียนไปอาศัยอยู่กับท่าน ได้มีโอกาส
ศึกษาเรียนถามธรรมท่าน รู้สึกว่าซาบซึ้งจับใจมาก ท่านอธิบาย
ปัจจยาการคืออวิชชาได้ดีละเอียดลออมาก ยากจะมีผู้อธิบายได้
อย่างท่าน เพราะปัจจยาการเป็นธรรมละเอียดสุขุมมาก ต้องเป็น
ผู้ผ่านการปฏิบัติภาคจิตตภาวนามาอย่างช่ำชอง จึงจะสามารถ
อธิบายได้โดยละเอียดถูกต้อง เนื่องจากปัจจยาการหรืออวิชชาเป็น
กิเลสประเภทละเอียดมาก ต้องเป็นวิสัยของปัญญาวิปัสสนาขั้น
ละเอียดเท่า ๆ กัน จึงจะสามารถค้นพบและถอดถอนตัวปัจจ-
ยาการคืออวิชชาจริงได้ และอธิบายได้อย่างถูกต้อง ท่านอาจารย์
องค์นี้เป็นผู้หนึ่งที่อธิบายอวิชชาปัจจยาการได้โดยละเอียดสุขุม
เกินความสามารถของผู้เขียนจะนำมาอธิบายในที่นี้ได้ จึงขอผ่านไป
ด้วยความเสียดาย
ท่านอาจารย์องค์นี้ท่านเริ่มฉันหนเดียว และเที่ยวกรรมฐาน
อยู่ตามป่าตามเขากับท่านพระอาจารย์มั่น ท่านพระอาจารย์เสาร์
มาแต่เริ่มอุปสมบทจนถึงวันมรณภาพ ไม่เคยลดละข้อวัตรปฏิบัติ
และความเพียรทางใจตลอดมา นับว่าเป็นอาจารย์ที่เหนียวแน่น
ทางธรรมปฏิบัติที่หายากองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบัน ควรเป็นคติ
ตัวอย่างแก่ท่านผู้สนใจปฏิบัติทั้งหลายได้เป็นอย่างดี จึงขอยุติ
เรื่องท่านไว้เพียงนี้ก่อนเขียนเรื่องท่านอาจารย์องค์นี้ ได้เขียนเรื่องวิธีการฝึก
ทรมานใจกับสิ่งที่น่ากลัว มีเสือเป็นต้น ของพระธุดงค์มาเป็นลำดับ
ยังไม่จบ จึงขอดำเนินเรื่องต่อไป
บางท่านไปนั่งภาวนาอยู่ที่ปากเหวลึก ซึ่งถ้าเผื่อตกก็มีหวัง
แน่ ๆ สำหรับท่านผู้นั้นไม่กลัว จึงต้องทำวิธีนั้นซึ่งเป็นวิธีฝึกวิธีหนึ่ง
เผื่อเผลอสติก็ยอมตกลงเหวตายไปเลยเพราะเวลาทำภาวนาอยู่
ตามธรรมดาจิตบังคับไม่อยู่ ชอบยุ่งกับสิ่งนั้น วุ่นกับสิ่งนี้ แล้ว
ก่อความทุกข์วุ่นวายให้ตัวเองไม่เลิกแล้วสักที ไม่ว่าคนหรือสัตว์
ความกลัวตายมีเท่ากัน ดังนั้นเวลาถูกบังคับให้เข้าตาจนจริง ๆ เช่น
พาไปนั่งที่ปากเหวลึก ๆ จิตต้องทำงานโดยไม่ต้องถูกบังคับขู่เข็ญ
ใด ๆ เพราะความตายเป็นสิ่งที่จิตกลัวมากกว่าสิ่งใด ๆ มาดั้งเดิม
ขณะนั้นแล เป็นเวลาจิตต่อสู้กับความตายด้วยความตั้งใจและ
ระลึกสติไว้กับตัวตลอดเวลา ไม่ยอมส่งจิตไปอื่น มีสติประคองตัว
อยู่ทุกขณะ จิตเมื่อมีสติคุ้มครองด้วยดีไม่เล็ดลอดออกไปสู่อารมณ์
ต่าง ๆ ที่เป็นข้าศึก ก็ย่อมรวมสงบลงได้ในเวลาไม่นานนัก ท่านที่
ทำวิธีนี้ก็ได้รับผลเป็นที่พอใจเช่นกัน
การทำด้วยวิธีมีสิ่งบังคับคือความตายย่อมถือเป็นเรื่อง
สำคัญ ความเพียรเพื่อรักษาความเป็นอยู่ไว้ด้วยความมีสติอยู่กับตัว
จึงทำให้เกิดผลทางด้านธรรมภายในใจ คือได้เห็นจิตดวงผาดโผน
ยอมสงบตัวลงสู่สมาธิอย่างประจักษ์ ไม่ต้องเสียเวลานาน บางท่าน
นั่งภาวนาอยู่ในถ้ำ พอได้ยินเสียงเสือกระหึ่ม สังเกตดูจิตไม่มี
ความรู้สึกหวาดกลัวใด ๆ ทั้งจิตก็ไม่ยอมลงสู่สมาธิตามต้องการ
ท่านต้องหาอุบายขู่จิตโดยวิธีออกไปนั่งภาวนาอยู่หน้าถ้ำ เวลาเสือ
มาที่นั้นจิตจะได้กลัวและรีบรวมสงบลงหาที่ปลอดภัยหายกลัว เสือก็
เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
ขอเชิญร่วมบูรณะปิดทองพระธาตุดอยหยวก(พระบรมธาตุขอบตาเบื้องขวา,พระเกศาธาตุ)
เบอร์โทรศัพท์ 054-497205 ,087-1795301
ขอเชิญร่วมบุญสร้างศาลาการเปรียญกับหลวงพ่อลออ ฐานวโร
ติดต่อสอบถามได้ที่ 081-853-6617
วัดหลวงศรีเตี้ย ตำบลศรีเตี้ย อำเภอบ้านโฮ่ง จังหวัดลำพูน
ขอเชิญชวนศรัทธาสาธุชนทุกท่านร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกและบูชา
รูปหล่อหลวงปู่ครูบาเจ้าสุรินทร์ สุรินฺโท
ท่านั่งสมาธิ เนื้อเหล็กน้ำพี้ผสมเนื้อผงว่านมงคล 108
ขนาดหน้าตักกว้าง 2 นิ้ว สูง 3 นิ้ว จัดสร้างจำนวน 999 องค์ องค์ละ 319 บาท
เพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์วิหารหลวงวัดศรีเตี้ย
ในวันที่ 15 เมษายน 2555 (วันพญาวัน) เวลา 19.09 น. เป็นต้นไป
ณ มณฑลพิธีหน้าอุโบสถวัดศรีเตี้ย
เชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญวิหารทาน และวิทยุเสียงธรรม[/B]
ผ้าป่า สร้างศาลาปฏิบัติธรรมชาธรรมสถาน และวิทยุเสียงธรรม เพื่อขยายธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น
ทุนในการสร้าง 300,000 บาท
สอบถามรายละเอียดได้ที่ 087-949-7861
เชิญร่วมกันทำบุญใหญ่ ร่วมกันพิมพ์ ใบคำขานนาค เพื่อให้กับ ผู้ที่กำลังจะบวช
087-561-9371
เลขบัญชีใครที่จะปลูกต้นไม้บูชาพุทธมลฑล
ชื่อบัญชี"กองทุนปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูพุทธมณฑล"
บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 732 -- 0 -- 26209 -- 6
ธ.กรุงไทย สาขาอ้อมน้อย
ช่วยบอกต่อไปเรื่อย ๆ ครับ
ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญ
เบอร์โทรศัพท์ 086-4523691
เชิญร่วมงานประจำปีปิดทองหลวงพ่อมงคลนิมิต
ณ วัดเจริญราษฎร์บำรุง (วัดหนองพงนก) ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
กิจกรรมบุญ]
วันที่ 7 มีนาคม 2555 (วันมาฆบูชา)
เวลา 10.00 น. ร่วมถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 1,000 รูป
เวลา 20.00 น. ร่วมเวียนเทียนเนื่องในวันมาฆบูชา
ติดต่อร่วมบุญ หรือสอบถาม ที่ 081-8072276
ขอเชิญชวนศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีทุกท่านมาร่วมกันพัฒนาวัดหนองบัวของครูบาธรรมชัยท่านเถอะครับ
คือผมไปดูที่วัดมาแล้วยังต้องการการช่วยเหลืออีกเยอะ เมืองนิพพานจำลองตอนนี้ยังขาดปัจจัยเยอะมากเลยครับ
หาคนมาบวชที่วัดบวรนิเวศวิหาร บางลำพู 15 วันครับ (วัดมีบวช 15 วันประจำ คือถ้าอยากบวชต่อต้องไปจำวัดที่อื่น) โดยยินดีออกค่าใช้จ่ายเฉพาะเครื่องบวช ไม่รวมค่างานที่ผู้บวชจะจัดขึ้นทุกชนิดเข่นค่าการ์ด ค่าจัดงานบวช ค่าเลี้ยงอาหารเครื่องดื่มแขกที่จะมาร่วมงาน ฯลฯ ยินดีนำไปพบกับพระอุปัชฌาย์ โดยนัดพบที่วัดได้เลยครับ ท่านที่สนใจลองเมล์มาคุยกันดูที่ viroajj@yahoo ครับ
ขอเชิญร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะ เพื่อนำไปบริจาคให้แก่ห้องสมุดเรือนจำทั่วประเทศ
ท่านที่ต้องการร่วมบุญพิมพ์หนังสือ
สามารถโอนเงินได้ที่...
บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขาย่อย มธ.ศูนย์รังสิต
ชื่อบัญชี สุวิภา รื่นพล
เลขที่บัญชี 475-0-14422-3
เมื่อโอนแล้วรบกวนแจ้ง ที่
bobubalis@gmail.comโดยแจ้งรายละเอียดการโอนดังนี้
๑. ชื่อ-นามสกุล
๒. วัน-เวลาที่โอน
๓. จำนวนเงิน(สิ้นสุดการโอนเงินวันที่ 10 มีนาคม 2555)
หลังจากแจ้งการโอนแล้ว สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่นี่
https://docs.google.com/spreadsheet/ccc ... zk2VTM4WGc