พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พุธ 22 ก.พ. 2012 6:46 pm
บางบ้านผู้คนก็ดีอยู่บ้าง พอเห็นพระไปพักแถวใกล้บ้านก็พา
กันออกมาไต่ถามความทุกข์สุกดิบ และถามถึงความประสงค์ว่าจะ
ไปไหนมาไหนกัน มีความประสงค์อะไร จะพักอยู่ที่นี่นานเท่าไร เรา
ก็พอพูดและบอกความประสงค์ให้เขาทราบได้บ้าง เขาก็พร้อมกันมา
จัดที่พักให้พอได้บังแดดบังลมบ้าง ทำแคร่ที่พักหลับนอนให้บ้าง ทำ
ทางจงกรมให้บ้างพอเป็นความสะดวกแก่การบำเพ็ญ ไม่ว่าที่ไหน
โดยมากถ้าพักอยู่นาน ๆ ไป เขามาทำที่พักอาศัยและที่อื่น ๆ ให้
จนเกิดความเชื่อเลื่อมใสจริงๆ ถึงคราวจะจากไปก็ไม่อยากให้จาก
บ่นอาลัยเสียดาย แต่เราก็มีความจำเป็นสำหรับตัวเป็นประจำ จึง
ต้องเที่ยวบำเพ็ญไปเรื่อย ๆ
เพราะการอยู่ประจำในที่แห่งเดียวก็ไม่ดีนัก ความเพียร
ไม่ค่อยก้าวหน้าเท่าที่ควร การอยู่บ้างไปบ้างเป็นการปลุกประสาท
ให้ตื่นตัวอยู่เสมอนั้น รู้สึกว่าดีสำหรับนิสัยผม ความเพียรก็ก้าวหน้า
การไปเที่ยวธุดงค์ในที่ต่างๆ โดยไม่มีจุดหมายป้ายบอกจำกัดสถานที่
และเวลาเป็นเครื่องผูกมัดตัวเอง มันเป็นความสะดวกใจสำหรับผม
ส่วนผู้อื่นนั้นไม่ทราบได้ แต่ถ้าเพื่อความไม่พะรุงพะรังแล้วก็ควร
จะเหมือน ๆ กันไปเรื่อย อยู่เรื่อยตามสถานที่ที่เห็นว่าเหมาะ
แก่การบำเพ็ญ ไม่เป็นอารมณ์ห่วงใยกับอะไร มีตัวคนเดียวเป็น
ความรับผิดชอบ กายชีวิตลมหายใจอยู่กับตัว การปฏิบัติอยู่กับตัว
แม้มรรคผลนิพพานที่จะพึงได้พึงถึงก็อยู่กับข้อปฏิบัติบำเพ็ญของตัว
เป็นผู้จะทำให้เกิดให้มีขึ้น
การไปการอยู่การบำเพ็ญเพื่อธรรมดังกล่าว จึงขึ้นอยู่กับเรา
จะแสวงหาให้เหมาะสมกับตัวที่ควรได้ควรถึงธรรมที่มุ่งหวังอยู่ทุก
ลมหายใจ เมื่อแน่ใจว่าทุกสิ่งขึ้นอยู่กับเราจะทำให้เหมาะสมแล้วที่ใดเหมาะสม การบำเพ็ญหรือการฝึกทรมานอย่างไรเหมาะสม
กับภาวะของตัว แม้จะไม่อยากไปก็จำต้องไป ไม่อยากอยู่ก็จำต้อง
อยู่ ไม่อยากบำเพ็ญเพราะเห็นว่าลำบากก็จำต้องบำเพ็ญ ไม่อยาก
ทรมานในเวลาที่ควรทรมานก็จำต้องทรมาน แม้ไม่อยากอดอยาก
ขาดแคลนกันดารด้วยปัจจัยสี่ก็จำต้องอดต้องขาดแคลน เพราะ
อยากเป็นคนดี อยากรู้ อยากเห็นธรรม และอยากพ้นทุกข์ ถ้าจะ
เอากิเลสออกหน้าให้มันพาดำเนินก็อย่างที่เห็น ๆ กันนั่นแล
เมื่อกี้นี้ก็พูดกันเรื่องความกลัว ไม่อยากอยู่ในที่เปลี่ยวเพราะ
กลัวเสือเป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องของกิเลสเหนี่ยวรั้งไว้ไม่อยากให้ไปในที่
ที่ควรเป็นสถานที่บำเพ็ญ ตามเยี่ยงอย่างอริยประเพณีท่านพา
ดำเนินและฆ่ากิเลสประเภทเหล่านี้มาแล้ว แต่อยากพาเข้าไปอยู่ใน
ที่ชุมนุมชนคนหนาแน่น เช่น ที่สนุกสนานรื่นเริง โรงลิเก ละคร ที่
ขับกล่อมบำเรอต่าง ๆ ฯลฯ อะไรเหล่านี้ นี่แล เรื่องกิเลสนำหน้า
มันตวัดใจคนออกจากศีลจากธรรมได้อย่างง่ายดาย และตวัดใจ
พระกรรมฐานให้ออกจากป่าอันเป็นสถานที่บำเพ็ญ หรือไม่ให้เข้า
ป่าเพราะกลัวเสือผีเป็นต้น แล้วต้อนเข้าสู่คอก สู่โรง…ตามชอบใจ
ของมัน จากนั้นก็เสร็จให้มันไปเลย
ผลที่กิเลสเป็นผู้นำก็เห็นกันประจักษ์ตลอดมา เป็นความ
ประทับใจดังที่กล่าวมา ผมจึงได้พยายามฝืน พยายามบึกบึนและ
ฝืนกิเลสตัวที่คอยร้อยหัวใจเราอยู่ทุกเวลาที่ได้โอกาส ไปตามสถานที่
ที่โลกเขาไม่อยากไป กิเลสไม่ชอบไป ทำสิ่งที่โลกไม่อยากทำ กิเลส
ไม่อยากทำ และทรมานใจที่โลกรักสงวนกิเลสก็ชอบไม่อยากให้
ทรมานเรื่อยมา โดยอาศัยการเที่ยวกรรมฐานไปตามสถานที่ต่าง ๆ
ตามอัธยาศัยที่เห็นว่าถูกธรรม อำนวยผลเป็นความสงบเย็นใจ และความฉลาดแยบคายพอรู้เค้าโครงของกองทัพใหญ่ และทัพย่อย
ของกิเลสอันแท้จริง มันตั้งอยู่ที่ไหนกันแน่เรื่อยมา จนสติปัญญา
แกล้วกล้าสามารถทันกับมันและห้ำหั่นกันแบบใครดีใครอยู่ ใครไม่ดี
จงบรรลัย ไม่มีการอ่อนข้อย่อหย่อนต่อกันเลย
ทั้งนี้ส่วนใหญ่ของภาคอุดหนุนความเพียร ก็คือการเที่ยวไป
และสถานที่ดังกล่าวแล้วเป็นสำคัญที่จะมองข้ามไม่ได้เลย ผมชมเชย
และเทิดทูนเสมอ สำหรับท่านที่พยายามดำเนินดังกล่าวมา เพราะ
เป็นทางตรงแน่วต่อมรรคผลนิพพานอยู่ทุกสมัย แต่ผู้ที่พอจะเข้า
ป่าบ้าง มีแต่เสือจะมากินเป็นอาหารนั้น น่าเบื่อและสลดสังเวชใจ
อย่างยิ่ง ทั้งระอาใจในการสอน ไม่อยากสอนให้เสียเวลาและ
เหนื่อยเปล่า ประหยัดเวลาและกำลังไว้เพื่อสอนผู้สนใจและเอาจริง
เอาจังบ้าง ธรรมจะได้เป็นประโยชน์แก่โลก สมกับธรรมเป็น
ธรรมชาติมีคุณค่ามาก
พอมองเห็นผู้เข้ามาเพื่อรับการอบรมที่มีนิสัยอ่อนแอ
ปวกเปียก ราวกับกระดูกจะหลุดออกจากร่าง ทั้งที่ยังมั่นคงแข็งแรง
มันรู้สึกสลดใจ เหมือนมองเห็นคนป่วยที่มีอาการเพียบเต็มที่ ไม่มี
ทางหายด้วยยาขนานใดๆ ฉะนั้น ธรรมในใจที่เคยให้การอบรมมา
เป็นเวลานานนับแต่ออกมาสู่หมู่คณะ ก็ไม่ทราบวิ่งหลบซ่อนไปอยู่
ที่ไหนหมด ปรากฏแต่ความรู้เฉย ๆ ซึ่งทำประโยชน์อะไรไม่ได้
คิดว่าธรรมก็คงกลัวอำนาจความอ่อนแอปวกเปียกนั้นเต็มประดา
สุดที่จะประคองตัวอยู่ได้ จึงพากันวิ่งหนีหมด คิดหาอะไรมาแสดง
ไม่มีเลย นั่งอั้นตู้ดูใจอยู่อย่างนั้นแล พูดอะไรไม่ออก ทำไมจึง
เป็นเช่นนั้น ถ้าเป็นหมอก็คงหมดปัญญากับคนไข้รายนั้น นี่ก็
หมดปัญญากับโรคอ่อนแอปวกเปียกเกินกว่าจะถูไถกระมัง ธรรมจึงหลบซ่อนตัวเสียสิ้น ไม่มีอะไรปรากฏพอได้พูดบ้างเลย
บรรดาท่านที่มาอบรมอยู่ที่นี่ได้พากันคิดบ้างหรือเปล่า
ว่า โรคขี้กลัวเสือกลัวผีก็เป็นโรคชนิดธรรมกลัวเช่นกัน ไม่หาญ
ประจันหน้ากับโรคประเภทนี้ได้ ถ้าต้องการให้ธรรมพอมีทางอยู่ได้
ไม่หลบซ่อนวิ่งหายไปหมด ก็ควรพลิกใจเสียใหม่ ใจที่พลิกใหม่นั้น
ไม่ต้องมากอะไร ก็พอจะเห็นคุณและโทษของตัวที่กำลังขี้ขลาดอยู่
เวลานี้ได้บ้าง โดยพลิกว่าพระพุทธเจ้าและสาวกท่านก็ดี ครูอาจารย์
ทั้งหลายก็ดี ล้วนเป็นนักต่อสู้มาแล้ว อย่างน้อยก็ต้องต่อสู้กับสิ่งที่
เรากำลังกลัวอยู่เวลานี้ ถ้าความกลัวนั้นเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อฝืน
ทรมานให้หลุดลอยออกจากใจแล้วผู้นั้นต้องตาย แล้วก็ทำไมไม่เห็น
ท่านที่ฝึกทรมานความกลัวดังที่มีอยู่ในใจเราเวลานี้ ออกจากใจแล้ว
ตายกันเสียหมดเล่า แต่เราทำไมจึงกลัวเอานักหนา จะไม่เข้าขั้น
บ้ากลัวแล้วหรือเวลานี้ และก็ไม่มีใครทราบได้ถ้าไม่ใช่เราทราบ
เราเองเท่านั้น
ทีนี้จะปฏิบัติจัดการกับตัวเองอย่างไรดี หรือจะฝืนเป็นคนบ้า
กลัวอยู่อย่างนี้ต่อไปละหรือ หลักฐานพยานก็พอมองเห็นชัด ๆ อยู่
แล้วว่า พระพุทธเจ้าและพระสาวกตลอดครูอาจารย์ท่านทั้งหลาย
เฉพาะอย่างยิ่งองค์ท่านที่กำลังสั่งสอนเราให้ชำระความกลัวอยู่เวลา
นี้ ท่านมิได้ตายเพราะเสือกินท่านเลย แม้องค์ท่านที่ปรินิพพาน
ไปแล้วก็มิได้เป็นไปเพราะเสือกินท่าน แต่ท่านปรินิพพานเพราะ
อนิจฺจา วต สงฺขารา ต่างหาก ส่วนเราทำไมจึงคิดแต่อย่างเดียวว่า
เสือจะเป็นผู้เก็บศพให้เท่านั้น ราวกับโลกนี้มีเพียงเสือเป็นผู้คอยเก็บ
ศพมนุษย์โดยถ่ายเดียว ทั้งที่ไม่เคยเห็นเสือมาคอยเก็บศพมนุษย์ที่
ตายแล้วแม้ตัวเดียว เห็นแต่คนล้วน ๆ มาช่วยสงเคราะห์อนุเคราะห์เพื่อนมนุษย์ด้วยกันด้วยวิธีต่าง ๆ ตลอดการเผาศพเก็บกระดูก
มนุษย์ตายแล้ว
เพียงเท่านี้เข้าใจว่า ความกลัวก็จะเริ่มเตรียมขนครอบครัว
ผัวเมียลูกเต้าเหล่ากอ ที่ตั้งรากฐานบ้านเรือนอยู่ในหัวใจอย่างมั่นคง
มานาน และขยับขยายออกไปด้วยความกลัวตัวสั่นเสียใจ เพราะ
ไม่มีทางต่อสู้กับนักรบที่มีเครื่องมือที่ทันสมัย และขนกันออกไปจน
หมดสิ้น ไม่มีอะไรมาก่อกวนลวนลามให้เกิดความกลัวอีกต่อไป
การจับกิเลสแต่ละประเภทออกจากใจ ถ้าไม่มีอุบายสติ
ปัญญาเป็นเครื่องมือช่วยปราบปราม เพียงแต่ความโมโหทำท่าขู่
ตวาดให้กิเลสกลัว ควรทราบว่ากิเลสมิใช่สุนัขตัวโง่พอจะวิ่งหัวหมุน
ให้ผู้ข่มขู่ดีใจ แต่กิเลสก็คือความฉลาดแหลมคมของฝ่ายต่ำที่
เกาะกินอยู่บนหัวใจคน ๆ หนึ่งนั่นเอง ยิ่งข่มขู่โดยไม่มีเครื่องมือ
คือสติปัญญาให้มันกลัวบ้างแล้ว ก็เท่ากับทำให้มันหัวเราะเยาะและ
สนุกกัดกิน ๆ จนใจไม่เป็นใจคนต่อไปได้ กลายเป็นใจสัตว์ใจผีใจ
ยักษ์ไปหมดนั่นแล อย่าเข้าใจว่ามันจะกลัวอำนาจป่า ๆ เถื่อน ๆ
อย่างนั้น ซึ่งอำนาจนั้นก็ได้มาจากมันนั่นเองเป็นผู้หยิบยื่นให้และ
นำมาขู่มัน มันจึงขบขันและหัวเราะเอาทุกขณะที่ข่มขู่ เพราะมัน
เห็นว่าเราโง่จนไม่ทราบว่าความข่มขู่นั้นก็คือตัวกิเลสซึ่งเป็นเรื่อง
มันดี ๆ นั่นเอง
ถ้าอยากให้มันกลัวและวิ่งหนีต่อหน้าต่อตาละก็ จงดำเนิน
ตามวิธีที่สอนแล้วนั้น คือที่ไหนกลัวยิ่งเข้าไปยิ่งอยู่ยิ่งพิจารณา
ไม่ลดละความเพียร ตายก็มอบถวายพระธรรมไปเลย ไม่ห่วงอาลัย
เสียดาย ถ้าอย่างนี้มันต้องบ้านแตกสาแหรกขาดแน่ ๆ พากัน
วิ่งหนีจนหลงแม่หลงลูกแบบชุลมุนวุ่นวาย ยิ่งกว่าไฟไหม้เมืองหลวงเสียอีก ใครไม่เคยเห็นไฟไหม้เมืองหลวง ลองดัดสันดานกิเลส
ด้วยวิธีที่กล่าวมาลองดู จะเห็นกิเลสวิ่งหัวซุกหัวซุนหมุนติ้วลืมเป็น
ลืมตายออกจากใจ ยิ่งกว่าไฟไหม้บ้านเป็นไหน ๆ ผมเคยทำได้
ผลประจักษ์มาแล้ว ใครไม่มาโกหกได้ จึงกล้าพูดเต็มปากไม่กระดาก
อายว่า ใครจะหัวเราะหรือจะเห็นด้วยเลย เรื่องมันเป็นอย่างนี้
จริง ๆ
ที่ได้ธรรมมาสอนหมู่คณะบ้างตามกำลังก็ได้จากการทำมา
อย่างนี้แทบทั้งนั้น จะให้ผมสอนอย่างอื่นที่ไม่เคยทำและไม่เคย
เห็นผลมานั้นผมสอนไม่ได้ จะเป็นการอุตริกันเล่นและทำคนอื่นให้
เสีย ผมทำไม่ลง ถ้าอย่างที่สอนมานี้ก็ถึงไหนถึงกัน เพราะเป็น
ความแน่วแน่ของตัวเองว่าได้เคยทำมาอย่างนี้ และได้เห็นผลมา
อย่างนี้จริง ๆ ประจักษ์ใจ ใครอยากเห็นกิเลสหลุดลอยออกจากใจ
ก็ควรพยายามทำตามแบบที่สอนมานี้ ใครอยากเห็นกิเลสขนลูก
หลานและทัพสัมภาระต่าง ๆ มาตั้งบ้านเรือนและที่ทำงานตลอด
ที่ขับถ่ายต่าง ๆ บนหัวใจแล้ว ก็ดำเนินแบบวิธีหมอบราบหมอบ
คาบ กิเลสตัวใดกระดิกตัวออกมานิดก็หมอบราบทำความเคารพ
มัน ผู้นั้นก็จะเป็นเจ้าของแห่งภพชาติ คือความเกิดตายเกิดตายอยู่
ประจำวัฏวน ไม่ต้องหนีพ้นมันไปไหนได้ตลอดอนันตกาล
เพราะทางเดินของกิเลสและผู้สั่งสมกิเลสก็คือเรื่องเกิดตาย
เท่านั้น ซึ่งผิดกับทางเดินของธรรมและผู้สั่งสมธรรม เพื่อตัดกิเลส
วัฏฏะออกจากใจไปทุกประโยคแห่งความเพียร เพียรไม่หยุดรุดหน้า
สู้แบบกล้าตาย แม้ใจที่เคยอ่อนแอมาก็กล้าแข็งได้ จนกลายเป็นใจ
วิวัฏฏะในคนผู้เป็นนักสู้นั้น เมื่อใจกลายเป็นวิวัฏฏะแล้ว เรื่องกิเลส
ชนิดต่าง ๆ ไม่ต้องกล่าวถึงมันก็ได้หายซากไปหมด นี่พวกเราจะเอาอย่างไรดี จะเป็นนักต่อสู้เพื่อเกิดตาย หรือจะเป็นนักต่อสู้เพื่อ
รื้อภพรื้อชาติที่ฝังเชื้ออยู่ในใจของพวกเราทุกคนให้สิ้นไป รีบวินิจฉัย
ตัวแต่บัดนี้อย่าเนิ่นนาน อย่าเข้าใจว่าลมหายใจจะยืดยาวเหมือน
สายไฟฟ้า แต่ความสั้นยาวของมันเพียงขนาดที่สูบเข้าสูบออกแค่
ปอดมาจมูกนี้เท่านั้น อย่าพากันหลงลมว่าเป็นของยืดยาวเลย
ที่เขียนผ่านมานี้ เป็นโอวาทที่ท่านอบรมพระปฏิบัติในวาระ
ต่าง ๆ เวลาท่านแสดงเพื่อปลุกใจให้เกิดความกล้าหาญรื่นเริงใน
ธรรมปฏิบัติ เนื้อธรรมรู้สึกว่าเข้มข้นมากผิดธรรมดา ผู้ไม่เคยได้ยิน
แทนที่ใจจะสงบในเวลาฟังเท่าที่ควรจะเป็น แต่กลับกลัวจนตัวสั่น
ไปก็มี เข้าใจว่าท่านดุด่าขู่เข็ญ ความจริงเป็นวิธีการแสดงธรรมที่
เหมาะแก่กาลสถานที่และบุคคลที่รับฟังในขณะนั้นเท่านั้น มิได้มี
ความโกรธความโมโหแฝงออกมาด้วยเลย แต่ท่านที่เคยฟังแล้ว ยิ่ง
ได้ยินท่านเร่งเนื้อธรรมและความเข้มข้นมากขึ้นเพียงไร ใจยิ่งเกิด
ความสงบเย็นมากเพียงนั้น ราวกับท่านช่วยสับช่วยฟันกิเลสภายใน
ให้ขาดเป็นชิ้นเป็นอันออกจากใจ ให้เห็นประจักษ์ตาประจักษ์ใจใน
ขณะฟัง ด้วยเหตุนี้ พระปฏิบัติจึงสนใจต่อการฟังกับครูอาจารย์ที่ตน
เคารพนับถือไม่มีวันอิ่มพอ ตลอดมาจนทุกวันนี้
การแสดงธรรมภาคต่าง ๆ แก่ผู้มาอบรมศึกษาตามกาลนั้น
คณะกรรมฐานสายท่านอาจารย์มั่นถือเป็นประเพณีสำคัญสืบทอด
กันมา ทั้งฝ่ายคณาจารย์และคณะปฏิบัติผู้มาอาศัยมิได้ขาด เพราะ
การแสดงธรรมภาคปฏิบัติขั้นต่าง ๆ นับแต่สมาธิอย่างอ่อนถึง
สมาธิเต็มภูมิ และปัญญาอย่างอ่อนถึงปัญญาอันละเอียดที่สุด
เป็นการแสดงแผนที่การดำเนินทางจิตใจโดยตรง ของคณาจารย์
ผู้ถอดออกจากความรู้ความเห็นของตนจากภาคปฏิบัติจริง ๆ เพื่อผู้มาอบรมได้ก้าวเดินตาม และทดสอบกับใจของตัวว่าผิดแผก
แตกต่างกันอย่างไรบ้าง เมื่อยังไม่แน่ใจตอนใดก็เรียนถาม เพื่อท่าน
จะได้อธิบายเพิ่มเติมและแก้ไขในจุดที่เห็นว่ายังบกพร่อง ไม่ปฏิบัติ
ไปแบบสุ่มเดาตามความคิดเห็นของตนโดยลำพัง
คณะปฏิบัติโดยมากเรียนธรรมจากอาจารย์โดยตรง นับแต่
ขั้นเริ่มต้นฝึกหัดภาวนาถึงขั้นสูงสุด คอยสดับและทดสอบกับครู
อาจารย์อยู่เสมอ ขณะภาวนาเกิดความรู้ความเห็นอย่างไรขึ้นมา
บ้างก็มาเล่าถวายท่าน เผื่อท่านจะอธิบายเพิ่มเติมเสริมต่อสติ
ปัญญาให้เป็นทอด ๆ และแก้ไขกันไปเป็นพัก ๆ ทั้งสมาธิทุกขั้น
ปัญญาทุกภูมิ เฉพาะสมาธิขั้นต้นก็ยังไม่สู้สำคัญนัก จะมีอยู่บ้างก็
เป็นบางรายที่มีความรู้แปลก ๆ เกี่ยวกับสิ่งภายนอก ที่อาจารย์จะ
คอยให้อุบายวิธีปฏิบัติต่อสมาธิประเภทนี้เพื่อความถูกต้องต่อไป
วิธีปฏิบัติต่อสมาธิของแต่ละรายก็ยึดหลักการที่เคยปฏิบัติมาแล้ว
เช่น ผู้มีความสงบได้ด้วยธรรมมีอานาปานสติเป็นต้น ก็ยึดธรรมนั้น
ปฏิบัติต่อไปเป็นลำดับ ไม่ลดละปล่อยวาง ผลปรากฏมีข้อแปลกต่าง
อย่างไรบ้างก็มาเล่าถวายอาจารย์ เพื่อท่านจะได้ชี้แจงให้เป็นที่เข้าใจ
และปฏิบัติต่อไปโดยสม่ำเสมอไม่ผิดพลาด ส่วนปัญญาเป็นสิ่งที่จะ
ต้องทดสอบกันอยู่เสมอระหว่างผู้ปฏิบัติกับอาจารย์ เพราะเป็นเรื่อง
สลับซับซ้อนอยู่มากเป็นพิเศษ แต่จะอธิบายข้างหน้าเมื่อถึงวาระ
พระธุดงค์สายท่านอาจารย์มั่น ท่านถืออาจารย์และ
เคารพอาจารย์มากเป็นชีวิตจิตใจจริง ๆ เพราะเรียนธรรมจาก
ใจอาจารย์มาเป็นธรรมของตน หรือจะเรียกว่าถอดจากใจหนึ่ง
ไปสู่อีกใจหนึ่งก็ไม่น่าจะผิด เพราะเรื่องเป็นอย่างนั้น เมื่อพระ
ปฏิบัติมาอยู่รวมในสำนักอาจารย์เดียวกัน ต้องมีการประชุมอบรม
เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.