นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 ม.ค. 2025 6:42 am

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: เรื่องราว
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 27 ก.พ. 2012 4:37 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4803
ของตถาคต ถ้าไม่เรียกว่ารุกขมูลควรจะเรียกว่าอะไร สิทธัตถราช
กุมารอุบัติตรัสเป็นพระพุทธเจ้าที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์นั่นแล
พวกเธอยังจะสงสัยและจะไปแสวงหาธรรมที่ไหนกันอีก ถ้าไม่หา
ดังที่ตถาคตพาหาพารู้นี้ สถานที่เช่นนี้แลคือที่อันศักดิ์สิทธิ์ของผู้
เห็นภัย จะพากันหลงงมงายไปหาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไหนกัน ความ
ศักดิ์สิทธิ์ในตัวเราเป็นความศักดิ์สิทธิ์ที่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง
เหนือสิ่งใด ๆ จงพากันค้นหาให้เจอและค้นลงที่ใจนี้ โดยอาศัย
สถานที่เหมาะสมเป็นสนามขุดค้นดังนี้
ท่านพระอาจารย์มั่นแสดงที่ไหน รู้สึกถึงใจดังที่เขียนผ่าน
มานี้ เพราะเป็นโอวาทที่ออกจากความรู้จริงเห็นจริงของท่านจริง ๆ
ไม่มีที่น่าสงสัยว่าข้อปฏิบัติมรรคผลนิพพานจะมีอยู่ในที่อื่นใด
นอกไปจากข้อปฏิบัติของผู้บำเพ็ญด้วยสามีจิกรรมเลย ยิ่งฟัง
ต่อหน้าท่านแสดงด้วยแล้ว ราวกับท่านถอดมรรคผลนิพพาน
ออกมาจากใจ ให้คณะศิษย์ผู้ตาบอดลูบคลำกันพอให้เสียดาย แล้ว
ท่านก็เก็บไว้ที่เดิมเสีย คือขณะท่านแสดงก็เหมือนท่านหยิบยก
ออกมาให้ดู พอจบการแสดงก็เหมือนท่านเก็บไว้ที่เดิมคือที่ใจ
ท่านเสีย ขณะฟังเหมือนจะพากันเหาะเหินเดินเมฆไปทางอากาศ
พอฟังจบแล้วเหมือนคนตาบอด ต่างลูบคลำแต่หาทางไปไม่ได้
อันนั้นก็สงสัยอันนี้ก็สงสัย อันนั้นก็เข้าใจว่าดี อันนี้ก็เข้าใจว่าเลิศ
แล้วคว้าเอาทั้งเปลือกทั้งกระพี้ทั้งรากแก้วรากฝอย ซึ่งทำประโยชน์
อะไรไม่ได้นั่นแล พอปลง อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เราดี ๆ นี่เอง
การอยู่รุกขมูลนี้ท่านอาจารย์ท่านว่า ท่านเคยได้รับ
ประโยชน์ประทับใจเรื่อยมา จึงชอบอยู่ในสถานที่เช่นนั้นไม่จืดจาง
การอยู่ปราศจากที่มุงที่บังอันเป็นเครื่องป้องกันอันตราย จิตใจต้องหวาดระแวงแน่นอน ยิ่งตกกลางคืน ถ้าเป็นคนขี้ขลาดมองเห็นอะไร
ต้องเหมาว่าเป็นเสือไปหมด บางรายที่มีนิสัยขี้กลัว ตอนกลางวัน
ต้องสังเกตพุ่มไม้ข้างบริเวณที่อยู่ไว้อย่างรอบคอบ เพื่อสังเกตง่าย
ในเวลากลางคืน ไม่เช่นนั้นพุ่มไม้ที่อยู่รอบ ๆ บริเวณที่พักนั้นก็
จะกลายเป็นเสือขึ้นในมโนภาพความสำคัญ และหลอกหลอน
ตลอดคืนไม่เป็นอันอยู่หลับนอนและภาวนาได้ ผู้ที่อยู่รุกขมูลมี
ความระมัดระวังผิดกับผู้อยู่ในที่มุงที่บังอยู่มาก ทั้งด้านอิริยาบถ
เกี่ยวกับความเป็นอยู่หลับนอนและด้านสมาธิภาวนา ฉะนั้นจิตจึง
มักก้าวไปเร็วกว่ากัน
ทั้งนี้มิได้มีใครบังคับท่านให้จำต้องทำ แต่เป็นความสมัครใจ
ของแต่ละท่านจะหาอุบายฝึกทรมานตนเป็นราย ๆ ไป บางครั้ง
ขณะท่านนั่งทำสมาธิภาวนาอยู่ในมุ้งใต้ร่มไม้ที่เรียกว่ารุกขมูล เสือ
ยังแอบด้อมเข้ามาดูท่านอย่างเงียบ ๆ จนถึงที่อยู่ก็ยังมี พอทราบ
ว่าเป็นคนแล้วก็รีบถอยห่างออกไปไม่มาเกี่ยวข้องอีกเลย ที่มันแอบ
เข้ามาดูนั้น เข้าใจว่ามันคงสงสัยเพราะไม่เคยเห็นมาก่อน แต่เสือ
บางตัวรู้สึกจะมีเจตนาซ่อนเร้นพิกลที่ไม่น่าไว้ใจแฝงอยู่ด้วย จะ
ทราบได้ขณะที่พระท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ที่มืด ๆ ไม่จุดไฟ มันยัง
แอบด้อมเข้ามาจนถึงที่สุดทางเดินจงกรม ห่างกันประมาณวาเศษ
เท่านั้น และหมอบราบดูอยู่ที่นั้นไม่ยอมหนีไปไหน จนพระท่าน
ได้ยินเสียงนิด ๆ ผิดสังเกตธรรมดา ฉายไฟไปดูก็เห็นมันโดดออก
ไปจากที่นั้นทันที แต่วันหลังไม่เห็นมันกลับมาอีก ที่กล่าวนี้หมายถึง
เสือโคร่งใหญ่ลายพาดกลอน ตัวขนาดเท่าม้าแข่งเราดี ๆ นี่เอง
มิใช่เสือดาวซึ่งเป็นสัตว์ชอบแอบหากินสุนัขกับคนที่ไปเที่ยวป่า ตาม
นิสัยของสัตว์ชนิดนั้นที่เคยหากินกับคนการอยู่รุกขมูลของพระธุดงค์ผู้เป็นเจ้าของเรื่องต่าง ๆ ที่น่า
หวาดกลัวซึ่งนำมาลงเพียงเล็กน้อยนี้ ถ้านึกวาดภาพเปลี่ยนให้ท่าน
ที่อยู่รุกขมูลและเรื่องที่ท่านประสบมา กลายมาเป็นเรื่องของเราเข้า
บ้าง ท่านผู้อ่านจะมีความรู้สึกอย่างไรบ้าง ถ้าทนได้และทรมานได้
จนกลายเป็นเจ้าของประวัติอันดีงามได้ก็นับว่าดี เป็นคติแก่อนุชน
ได้ยึดเป็นหลักใจต่อไป เผื่อทนไม่ได้ทรมานไม่ลงปลงไม่ตก น่ากลัว
จะเป็นประวัติที่ขายหน้าตัวเองและหมู่คณะตลอดพระศาสนาอัน
เป็นหัวใจของชาวพุทธให้มัวหมอง ชนิดไม่มีอะไรมาลบล้างให้หาย
ได้ตลอดกาลนาน และกลายเป็นบุคคลที่มีปมด้อย วงกรรมฐานที่มี
ปมด้อย และพระศาสนาที่มีปมด้อยตลอดไป เพราะอาศัยเราคน
ไม่เป็นท่าเพียงคนเดียว พาให้สิ่งที่มีคุณค่าไม่มีประมาณทั้งหลาย
เสียไปด้วย
เพียงนึกวาดภาพทดลองดูขณะเดียวก็พอทำให้ทราบได้ว่า
ท่านที่อุตส่าห์พยายามตะเกียกตะกายด้วยวิธีนั้นแต่ขั้นเริ่มแรกชีวิต
แห่งธุดงคกรรมฐาน จนสามารถตั้งรากฐานมั่นคงในธรรมทั้งหลาย
ได้ เพราะความเดนตายนั้น จะเป็นความลำบากกายทรมานใจ
มากเพียงไร ซึ่งยากจะมีผู้กล้าเสียสละอย่างท่านได้ในวงมนุษย์ผู้
เห็นแก่ตัวกลัวทุกข์มากกว่าธรรมเครื่องนำออก การอยู่ปราศจาก
ที่มุงที่บังโดยประการทั้งปวงนั้น ย่อมเป็นเครื่องส่อให้เห็นแล้วว่า
เป็นนักเสียสละทุกอย่างไม่อาลัยเสียดาย จะตายไปเพราะเหตุใดก็
ย่อมให้เป็นไปตามคติธรรมดา ไม่คัดค้านต้านทานด้วยวิธีเห็นแก่ตัว
จะอดอยากขาดแคลนปัจจัยสี่ที่โลกอาศัยและถือกันเป็นสำคัญ ก็
ยอมอดโดยธรรม ไม่แสดงความอึดอัดขัดใจอันเป็นทางส่งเสริมทุกข์
ให้มากมูน จะเป็นทุกข์ทรมานเพราะความเพียรกล้าก็ยอมทนเพราะอยากพ้นทุกข์ด้วยความเพียรนั้น ๆ แม้สัตว์เสือตัวหิวโหย
อาหารจะมากัดและคาบเอาไปกิน ก็ยอมสละให้มันด้วยความเป็น
นักบวชและนักเสียสละอย่างพร้อมมูลอยู่แล้วภายในใจไม่มีอะไร
ขัดข้องหึงหวง
การเสียสละทุกอย่างเพื่อธรรมดวงเลิศ เป็นความอยู่สบาย
ในที่ทุกสถาน แม้ชีวิตของผู้อยู่รุกขมูลร่มไม้ด้วยความเสียสละ จะ
ไม่มีความหมายสำหรับคนทั่วไป แต่ใจกลับมีความหมายในธรรมอัน
มีค่ามาก ฉะนั้นแทนที่ชีวิตร่างกายท่านจะหมดความหมายไปตาม
ความเสกสรรของโลกทั่ว ๆ ไป แต่กลับเป็นสิ่งที่มีค่ามากยากจะมี
ผู้สละได้ พระพุทธเจ้าทรงเล็งเห็นความสำคัญแห่งคุณค่าในธุดงค์
ข้อนี้ว่า เป็นธรรมเครื่องปราบปรามกิเลสภายในใจสัตว์โลกได้เป็น
อย่างดี จึงทรงบัญญัติเป็นแนวทางไว้ โลกจะได้ดำเนินตาม และ
เผื่อท่านผู้มีใจเป็นนักรบเพื่อการอยู่จบพรหมจรรย์ ประสงค์ธรรม
ข้อนี้เป็นยานพาหนะขับขี่ข้ามโลกสงสาร จะได้ยึดเป็นหลักชัยใน
การออกสงคราม ตามเสด็จให้ทันพระองค์โดยไม่ชักช้าเนิ่นนาน
เพราะธรรมข้อนี้เป็นเครื่องปลุกใจ ให้ผู้ปฏิบัติเกิดความ
อาจหาญต่อแดนพ้นทุกข์ไม่มีทางสงสัย โดยอาศัยสิ่งแวดล้อม
ชนิดต่าง ๆ เป็นเครื่องเตือนใจให้ประคองความเพียรด้วยความ
สม่ำเสมอ จนถึงจุดที่มุ่งหมายได้โดยไม่มีอุปสรรค ดังที่อธิบายมา
พอเป็นแนวทางเล็กน้อยแก่ท่านผู้สนใจจะได้นำไปเทียบเคียง
ระหว่างท่านกับเราซึ่งหวังความเจริญด้วยกัน จะควรปฏิบัติอย่างไร
บ้าง พอมีทางเล็ดลอดปลอดภัยที่ควรเป็นได้ ไม่นั่งนอนคอยรับ
ทุกข์น้อยใหญ่จากการกระทำของจิตผู้เป็นตัวการ ซึ่งมีนิสัยชอบ
ในสิ่งที่เลยขอบเขตประจำตน ธรรมข้อนี้แม้จะเรียกว่าเป็นหัวใจกรรมฐานข้อหนึ่งก็ไม่น่าจะผิด เพราะพระธุดงคกรรมฐานผู้มุ่งต่อ
อรรถต่อธรรมจริง ๆ ท่านชอบปฏิบัติธรรมข้อนี้แทบทั้งนั้น ผู้เขียน
เองแม้จะไม่มีความรู้ความฉลาดอะไรเลย แต่หัวใจมีก็อดจะชอบ
ธรรมข้อนี้ไม่ได้ นอกจากจะเอื้อมไม่ถึงเท่านั้น จึงยอมสารภาพตน
อย่างไม่อาย
ธุดงค์ข้อบิณฑบาตเป็นวัตร การบิณฑบาตเป็นกิจจำเป็น
ของพระผู้บวชเป็นศากยบุตรพุทธชิโนรส ปรากฏในพระพุทธศาสนา
โดยทางเพศอย่างเปิดเผย ย่อมถือบิณฑบาตเป็นงานสำคัญประจำ
ชีวิต ดังอนุศาสน์ท่านสอนไว้ ซึ่งมีทั้งข้อรุกขมูล เสนาสนะและ
ข้อบิณฑบาต ซึ่งเป็นเครื่องพร่ำสอนที่สำคัญหลังจากการอุปสมบท
แล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงสนพระทัย และทรงถือเป็นกิจจำเป็นประจำ
พระองค์ตลอดมาจนถึงวันเสด็จปรินิพพาน หากจะทรงงดบ้างก็เป็น
บางสมัยที่ไม่อาจทรงปฏิบัติได้ เช่น สมัยทรงจำพรรษาที่ป่าเลไลยก์
กับช้างปาลิเลยยกะ เป็นต้น เพราะมิใช่แดนมนุษย์ที่ควรจะถวาย
ความสะดวกแก่พระองค์ได้
การบิณฑบาตเป็นกิจวัตรข้อหนึ่งที่อำนวยผลแก่ผู้บำเพ็ญ
ให้ได้รับความสงบสุขทางใจ คือ เวลาเดินไปในละแวกบ้านก็เป็น
การบำเพ็ญเพียรไปในตัวตลอดทั้งไปและกลับ เช่นเดียวกับ
เดินจงกรมอยู่ในสถานที่พัก หนึ่ง เป็นการเปลี่ยนอิริยาบถในเวลา
นั้น หนึ่ง ผู้บำเพ็ญทางปัญญาโดยสม่ำเสมอแล้ว เวลาเดิน
บิณฑบาตขณะที่ได้เห็นหรือได้ยินสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาสัมผัส
ทางทวาร ย่อมเป็นเครื่องเสริมปัญญาและถือเอาประโยชน์จากสิ่ง
นั้น ๆ ได้โดยลำดับ หนึ่ง เพื่อดัดความเกียจคร้านประจำนิสัย
มนุษย์ที่ชอบแต่ผลอย่างเดียว แต่ขี้เกียจทำเหตุซึ่งเป็นคู่ควรแก่กันหนึ่ง เพื่อดัดทิฐิมานะ ที่เข้าใจว่าตนเป็นคนชั้นสูงออกจากตระกูล
สูงและมั่นคั่งสมบูรณ์ทุกอย่าง แล้วรังเกียจต่อการโคจรบิณฑบาต
อันเป็นลักษณะคนเที่ยวขอทานท่าเดียว
ได้อะไรมาจากบิณฑบาตก็ฉันพอยังอัตภาพให้เป็นไป
ไม่พอกพูนส่งเสริมกำลังทางกายให้มาก อันเป็นข้าศึกต่อความเพียร
ทางใจให้ก้าวไปได้ยาก การฉันหนเดียวก็ควรฉันพอประมาณ
ไม่มากเกินจนท้องอืดเฟ้อย่อยไม่ทัน เพราะเหลือกำลังของไฟ
ในกองธาตุจะย่อยได้ ความอดความหิวถือเป็นเรื่องธรรมดาของ
ผู้พิจารณาธรรมทั้งหลายเพื่อความสิ้นทุกข์โดยไม่เหลือ นอกจาก
ฉันหนเดียวแล้วยังสังเกตอาหารอีกด้วยว่า อาหารชนิดใดเป็นคุณ
แก่ร่างกาย ไม่ทำให้ท้องเสียและเป็นคุณแก่จิต ภาวนาสะดวก จิต
ไม่มัวหมองเพราะพิษอาหารเข้าไปทำลาย
เช่น เผ็ดมากเกินไป เค็มมากเกินไป ซึ่งทำให้ออกร้อน
ภายในท้อง ก่อความกังวลแก่จิตใจไม่เป็นอันทำความเพียรได้
สะดวก เพราะกายกับใจเป็นสิ่งเกี่ยวเนื่องกันและกระเทือนถึงกัน
ได้เร็ว ท่านจึงสอนให้เลือกอาหารที่เป็นสัปปายะ ซึ่งเป็นคุณแก่
ร่างกายและจิตใจถ้าพอเลือกได้ ถ้าเลือกไม่ได้แต่ทราบอยู่ว่าอาหาร
นี้ไม่เป็นสัปปายะก็งดเสียดีกว่า ฝืนฉันลงไปแล้วเกิดโทษแก่ร่างกาย
ทำความทุกข์กังวลแก่จิตใจ ผู้ฉันหนเดียวมักทำความรู้สึกตัวได้ดี
ไม่ฟุ้งเฟ้อเห่อเหิมในรสอาหารชนิดต่าง ๆ
การอยู่รุกขมูลร่มไม้เป็นวัตรก็ดี การบิณฑบาตเป็นวัตร
ก็ดี การฉันหนเดียวเป็นวัตรก็ดี สำหรับพระธุดงคกรรมฐาน
ล้วนเป็นอุบายวิธีฝึกทรมานกิเลสตัวพาดวงจิตดิ้นรนกวัดแกว่งให้
ลดกำลังลง ไม่ฮึกเหิมลำพองออกนอกลู่นอกทาง เหมือนม้าตัวพยศแหวกแนวจากสนามรบฉะนั้น คุณสมบัติแห่งธุดงค์เหล่านี้
ทำให้ร่างกายจิตใจเบา ฝึกหัดง่ายกว่าธรรมดา กายก็ไม่มีกำลังทับ
จิตใจได้มากเหมือนปล่อยให้ฉันตามต้องการ และฉันจิ๊บ ๆ จั๊บ ๆ
พร่ำเพรื่ออันเป็นการบำรุงมากไป ผิดกับลักษณะของพระธุดงค-
กรรมฐานผู้ศึกษาอบรมเพื่อรู้จักประมาณในทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัว
ฉันในบาตรเป็นวัตร ฉันในภาชนะเดียว นี้หมายถึงการ
ฉันสำรวมในบาตร บรรดาอาหารคาวหวานต่าง ๆ นำเข้ารวมลง
ในบาตรใบเดียวทั้งสิ้น ไม่แบ่งแยกไว้ในภาชนะใดที่อยู่นอกบาตร
อันเป็นความมักมากเหลือเฟือ เสียศักดิ์ศรีของพระธุดงค์ผู้ตั้งตนอยู่
ในความมักน้อยสันโดษซึ่งเป็นความเหมาะสมดีแล้ว ไม่พะรุงพะรัง
ทั้งการเตรียมฉันเตรียมนั่งเตรียมนอนต่าง ๆ คุณสมบัติที่เกิดจาก
การฉันในบาตรมีมากตามแต่กำลังสติปัญญาของแต่ละรายจะขุดค้น
ขวนขวายขึ้นมาใช้สำหรับตัว
ธุดงค์นี้มีอย่างต่ำ อย่างกลางและอย่างเยี่ยม อย่างต่ำ
แม้จะนำอาหารลงรวมในบาตร แต่ก็แยกไว้คนละด้านได้ เช่น
คาวอยู่ด้านหนึ่ง หวานอยู่ด้านหนึ่ง หรือมีอาหารชนิดที่ควรกั้นได้
เช่น กล้วยเป็นต้น กั้นไว้ไม่ให้คละเคล้ากัน อย่างกลางแม้นำอาหาร
รวมกันเช่นอย่างต่ำ แต่อาจแยกกันโดยปริยาย ไม่ผสมกันทีเดียว
อย่างเยี่ยม ไม่ว่าคาวหรือหวานนำเข้าผสมกัน ไม่ปรากฏว่าคาว
กับหวานอยู่คนละด้านเลย ทำให้ผสมกันหมด ก่อนจะลงมือฉันก็
รำพึงถึงปัจจเวกขณะก่อน คือ ปฏิสงฺขา โยนิโส ปิณฺฑปาตํ ปฏิเส
วามิ ฯลฯ เป็นเครื่องพิจารณาโดยแยบคาย ในบรรดาอาหารชนิด
ต่าง ๆ ที่รวมกันอยู่ในที่แห่งเดียว ตามกำลังสติปัญญาที่มีอยู่
อย่างน้อยไม่ต่ำกว่าหนึ่งนาที เพราะของดีที่จะเกิดจากการพิจารณาด้วยดีนั้น มีซ่อนเร้นอยู่ในอาหารผสมอย่างลึกลับ ทั้งจะได้เห็นตัว
ตัณหา ที่คอยแอบแฝงมากับความหิวโหยอย่างไม่คาดฝันในวันหนึ่ง
แน่นอน
ตามปกติความหิวโหยของธาตุขันธ์ท่านมิได้จัดว่าเป็นตัณหา
แต่ความหิวอันเป็นตัวตัณหาที่คอยแอบตามมากับธาตุขันธ์นั้นเป็น
ความลึกลับอยู่มาก ยากจะเห็นและจับตัวมันได้ เพราะมันคอยกลบ
รอยและสอดแทรกไปกับธาตุขันธ์ที่กำลังหิวโหยในเวลานั้น จนมิได้
สนใจว่า ความหิวของธาตุก็มีกิเลสประเภทบังเงาแฝงมาด้วย การ
พิจารณาก่อนฉันหรือกำลังฉันไปตามลำดับแห่งการฉัน จึงมีทาง
รู้เรื่องของกิเลสชนิดแอบแฝงนี้ได้ดี และเห็นคุณของ ปฏิสงฺขา
โยนิโส ฯ ว่าเป็นอาวุธเครื่องประหารกิเลสประเภทบังเงาได้อย่างดี
เยี่ยม แม้กิจนอกการในใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนก็จะไม่ลืมธรรมบทนี้
จนกลายเป็นผู้มีธรรมบทนี้ประจำใจอยู่ทุกอิริยาบถ การแยกแยะ
ต่าง ๆ ทั้งชนิดอาหารและวิธีพิจารณาจะไม่ขออธิบายไว้มาก
เกรงจะฟั่นเฝือเกินไป
ธุดงค์ข้อถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร การถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร
เป็นการตัดทอนกิเลสตัวทะเยอทะยานชอบสวยชอบงามได้ดี
กิเลสชนิดนี้เป็นที่น่าเบื่อหน่ายในวงนักปราชญ์ทั้งหลาย แต่เป็นที่
กระหยิ่มลืมตัวของพาลชนทั้งหลาย พระธุดงค์ที่ต้องการความ
สวยงามภายใน คือ ใจสะอาดผ่องใส จำต้องฝืนกิเลสตัวชอบ
สวยงามราวกับจะเหาะเหินเดินเมฆไปทางอากาศนี้ เที่ยวเสาะ
แสวงหาผ้าบังสุกุลที่เขาทอดทิ้งไว้ตามป่าช้า หรือที่กองขยะของ
เศษเดนทั้งหลาย มาซักฟอกแล้วเย็บปะติดปะต่อเป็นสบงจีวรสังฆาฏิ
ใช้สอยพอปกปิดกาย และบำเพ็ญสมณธรรมไปตามสมณวิสัย



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 151 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
cron
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO