Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

เรื่องราว

พุธ 29 ก.พ. 2012 4:21 am

พระอรหันต์มาแสดงธรรมให้ท่านฟัง
ท่านพักอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ตอนกลางคืนยามดึกสงัด ท่าน
กำลังเข้าที่ทำสมาธิภาวนาอยู่ มีพระอรหันต์องค์หนึ่งชื่อ พระ
ภากุละ รูปร่างขาวสูง สวยงามมาก มองเห็นแล้วน่าเคารพเลื่อมใส
ทันที ท่านเหาะทางอากาศมาเยี่ยมท่านทางสมาธิภาวนา ตอน
กลางวันของคืนวันนั้น บริขารชิ้นหนึ่งของท่านหาย หายังไงก็ไม่พบ
พอตกกลางคืนนั่งภาวนา พระอรหันต์องค์นี้ก็เหาะมาเยี่ยมท่าน
พอดี พอเหาะลงมาถึงพื้น นั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ถามขึ้นทันทีว่า
ทราบว่าบริขารชื่อนั้นของท่านหายเมื่อตอนกลางวันใช่ไหม ท่าน
เรียนตอบว่า ใช่ พระอรหันต์องค์นั้นก็ชี้มือบอกว่า “นั่น อยู่ที่นั่น
มิได้หาย ท่านลืมที่ไว้ต่างหาก” พอเช้าวันหลังไปดูที่ท่านชี้บอกก็
เห็นจริง ๆ ท่านรู้สึกแปลกใจว่าท่านก็มิได้บนบานศาลกล่าวอะไร
เลย แต่ท่านทำไมทราบได้ บริขารนั้นก็ได้คืนมาจริง ๆ ตามจุดที่
ท่านชี้บอก จึงน่าอัศจรรย์อยู่มากท่านว่า
ขณะที่พระอรหันต์ท่านเหาะมาเยี่ยมท่านอาจารย์องค์นั้น
ท่านชมเชยและสรรเสริญท่านที่ถือธุดงควัตร และปฏิบัติดีปฏิบัติ
ชอบน่าเคารพเลื่อมใส จึงดลบันดาลให้ท่านต้องมาเยี่ยมถึงที่อยู่
จากนั้นท่านก็แสดงธรรมเพื่อความรื่นเริงแก่ท่าน และสอนเน้นหนัก
ลงในธุดงควัตรว่า จงพยายามรักษาธุดงค์ไว้ให้มั่นคงต่อไป อย่าให้
เสื่อมร่วงโรยไปเสีย ธุดงควัตรเสื่อมก็เท่ากับว่าศาสนาเสื่อม แม้
คัมภีร์ธรรมทั้งหลายยังมีอยู่ก็ไม่อาจทรงคุณค่าแก่ผู้ไม่สนใจได้เท่าที่
ควร ธุดงควัตรเป็นธรรมขั้นสูงมาก ผู้รักษาธุดงค์ได้ต้องเป็นผู้มีจิตใจ
สูง ท่านควรทราบว่า พระอริยเจ้าทุกประเภทไปจากธุดงควัตรนี้
ทั้งนั้น เพราะธุดงค์เป็นธรรมเครื่องทำลายกิเลสได้ทุกประเภทธุดงควัตรจึงเป็นทางเดินเพื่ออริยธรรม อริยบุคคล
คนไม่มีธุดงควัตรคือคนวัตรร้าง เช่นเดียวกับบ้านร้าง
เมืองร้าง อะไรก็ตามถ้าลงได้ร้างแล้วไม่เป็นสิ่งที่พึงปรารถนาเลย
ท่านจงรักษาธุดงค์อันเป็นเครื่องทำลายกิเลสไว้ให้ดีและมั่นคง อย่า
ให้เป็นพระวัตรร้าง จะเป็นทางรั่วไหลแตกซึมแห่งมรรคผลนิพพาน
ที่ควรจะได้จะถึง พระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลายบรรดาที่เลิศแล้ว
ล้วนแต่ท่านรักษาธุดงควัตรกันทั้งนั้น ใครประมาทธุดงค์ว่าไม่สำคัญ
ผู้นั้นคือผู้หมดสาระสำคัญในตัวเอง ท่านจงรักษาความสำคัญของ
ตนไว้ด้วยธุดงควัตร ผู้มีธุดงควัตรเป็นผู้มีอำนาจทั้งภายนอกภายใน
อย่างลึกลับจับใจที่บอกใครไม่ได้ เป็นผู้เด่นในวงแห่งทวยเทพชาว
ไตรภพทั้งหลาย มนุษย์และเทวดาทุกชั้นทุกภูมิเคารพรักผู้มีธุดงค-
วัตรประจำตัวอยู่ และไปที่ไหนไม่เป็นภัยแก่ตัวและผู้อื่น มีแต่ความ
เย็นฉ่ำอยู่ภายในทั้งกลางวันและกลางคืน
ธุดงควัตรเป็นธรรมลึกลับยากที่จะมองเห็นความสำคัญ ทั้งที่
ธุดงควัตรเป็นธรรมสำคัญในศาสนามาดั้งเดิม ธุดงควัตรเป็นหลัก
ใหญ่แห่งพระศาสนา ผู้มีธุดงค์ประจำตัว คือผู้รู้ความสำคัญของ
ตัวและรักษาถูกจุดแห่งความสำคัญได้ดี เป็นที่น่าชมเชยอย่างถึงใจ
ผู้มีธุดงควัตรดีเป็นผู้มีจิตใจเมตตาอ่อนโยนในสัตว์ทั้งหลาย ถ้ายังมี
ผู้ปฏิบัติรักษาธุดงควัตรอยู่ตราบใด ศาสนาก็ยังทรงดอกทรงผล
อยู่ตราบนั้น เพราะธุดงค์เป็นทางที่ไหลมาแห่งมรรคและผลทุกชั้น
ไม่มีสถานที่กาลเวลาหรือสิ่งใด ๆ มาเป็นอุปสรรคกีดขวางทางเดิน
เพื่อมรรคผลนิพพานได้ ถ้าธุดงควัตรยังเป็นไปอยู่กับผู้ปฏิบัติ
ทั้งหลาย ท่านจงจดจำให้ถึงจิต คิดไตร่ตรองให้ถึงธรรมคือธุดงควัตร
ดังกล่าวมา อยู่ที่ใดไปที่ใดจะชุ่มเย็นอยู่กับตัวท่านเอง ธุดงควัตรนี่แลคือบ่อเกิดแห่งธรรมทั้งหลายดังนี้
พอแสดงธรรมจบลง ท่านก็ลาจากไปโดยทางอากาศ
หายเงียบไปเลย เมื่อพระอรหันต์ท่านจากไปแล้ว ท่านนำธรรมที่
ท่านแสดงสั่งสอนมาคิดอ่านไตร่ตรอง เกิดความอัศจรรย์ใจตัวเองที่
ไม่คาดฝันว่าจะมีพระอรหันต์ผู้วิเศษ แม้นิพพานแล้วยังอุตส่าห์มา
เมตตาอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับธุดงควัตรและธรรมอื่น ๆ มากมาย
เกิดความมั่นใจในธรรมทั้งหลายว่า ไม่เสียทีที่เกิดมาเป็นมนุษย์
ทั้งชาติ ได้จอมปราชญ์มาเมตตาสั่งสอน ซึ่งเป็นพระขีณาสพทั้งองค์
เหาะมาทางอากาศ เราคงมีวาสนาบารมีอยู่บ้างที่ได้เห็นสิ่งที่ไม่น่า
จะเห็น และได้ฟังสิ่งที่ไม่คาดฝันว่าจะได้ยินได้ฟังนับแต่เกิดมา การ
ดำเนินของเราคงไม่เป็นโมฆะในวงพระศาสนา มิฉะนั้นพระอรหันต์
องค์วิเศษคงไม่เหาะมาโปรดเมตตาให้เสียเวลา
คืนวันนั้นพอออกจากที่ทำสมาธิมาเดินจงกรม ราวกับตัวจะ
เหาะลอยขึ้นบนอากาศตามพระอรหันต์ท่านไปจนได้ ทำความเพียร
ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าใด ๆ เลย มรรคผลนิพพานเหมือนกับ
อยู่ชั่วเอื้อมมือถึง ทั้งที่จิตก็ยังมีกิเลสอยู่ในใจนั่นแล จิตใจสงบเย็น
กายก็เบา มองไปในทิศทางใดรู้สึกปลอดโปร่งโล่งไปหมด ไม่ปรากฏ
สิ่งและอารมณ์ใด ๆ มาเกี่ยวข้องพัวพันจิตใจให้ลำบากรำคาญ
เหมือนที่เคยเป็นมารต่อกันมาเลย เดินจงกรมจนถึงสว่างโดยไม่รู้สึก
เมื่อยขบใด ๆ ทั้งสิ้น
ที่เคยได้ยินธรรมท่านแสดงไว้ว่า ธมฺมปีติ สุขํ เสติ ผู้มี
ความปีติในธรรมย่อมอยู่หลับนอนเป็นสุขดังนี้ ก็เพิ่งมาปรากฏ
ชัดกับใจในคืนวันนั้นดังนี้ ฟังแล้วขนลุกซู่เพราะความปีติยินดีใน
ประสบการณ์ของท่านที่มีวาสนาบารมี บำเพ็ญธรรมจนเห็นมรรคเห็นผลอยัมภทันตา ทั้งภายนอกมีพระอรหันต์องค์วิเศษเหาะมา
โปรดเมตตา ทั้งภายในก็ได้ดื่มธรรมรสปรากฏซาบซ่านไปทั้งกาย
ทั้งใจ อันเป็นความเย็นที่หาได้ยาก ฟากฟ้าแดนดินถิ่นใกล้ถิ่นไกล
หรือถิ่นไหน ๆ ก็ไม่มีให้เจอ ถ้าไม่เจอจากความเพียรพยายาม
ปฏิบัติอบรมในธรรมนี้เท่านั้น ท่านที่เพียรทางนี้ย่อมมีวันเจอ
เพราะสิ่งที่จะให้เจออยู่กับธรรม และธรรมก็อยู่กับใจ ไม่แยกหรือ
อยู่ห่างไกลกันอะไรเลย
ท่านอาจารย์องค์นี้รู้สึกจะมีประวัติแปลกอยู่บ้างองค์หนึ่ง
ในบรรดาศิษย์ท่านอาจารย์มั่นในการเผชิญกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่ง
โดยมากก็เป็นความอดอยากกันดารและสัตว์เสือที่เป็นเรื่องเสี่ยง
ต่อชีวิตที่โลกรักสงวนกันอย่างยิ่ง ผลที่ได้รับก็ประทับใจทั้งภายนอก
ภายใน คือภายนอกก็ได้เห็นสิ่งลึกลับที่เกินกว่าสายตาและหูของ
มนุษย์ทั้งหลายจะรู้เห็นและได้ยินได้ แต่ท่านก็ได้เห็นอยู่เสมอเป็น
คู่เคียงกับปฏิปทาตลอดมา และภายในคือธรรมรสก็ปรากฏอยู่กับใจ
โดยสม่ำเสมอ ต่อไปนี้ท่านผู้อ่านก็จะได้นึกวาดภาพไปตามความ
เป็นไปแห่งเรื่องของท่านต่อไปอีก ซึ่งจะขออาราธนาเรื่องท่านมา
ลงไปเรื่อย ๆ จนควรแก่การยุติ
คือท่านพักทำความเพียรอยู่ในถ้ำแห่งภูเขาลูกหนึ่ง ทราบว่า
ห่างจากหมู่บ้านมากผิดที่เคยอยู่มาก่อน บิณฑบาตทั้งไปและ
กลับก็กินเวลาราวสองชั่วโมงกว่า จนเหงื่อแตกโชกแทบไม่มีเหลือ
ติดตัวกว่าจะกลับถึงที่พักแต่ละครั้ง แต่ท่านก็พอใจที่จะอยู่บำเพ็ญ
ด้วยความสมัครใจ ไม่คิดถึงความลำบากกันดารใด ๆ ทั้งสิ้น การ
ภาวนาก็เป็นไปด้วยความดูดดื่มไม่จืดจาง คืนวันหนึ่งพอจิตสงบ
ตัวลงไม่นานนัก ก็ปรากฏเห็นพระอรหันต์องค์หนึ่ง ชื่อท่านว่าพระกัสสปเถระ เหาะลอยมาทางอากาศ มุ่งหน้ามาหาท่านและ
ค่อย ๆ เหาะลงมาราวกับมีเบรกห้ามล้อเหมือนรถยนต์เรา แล้วก็
ค่อย ๆ หย่อนองค์ท่านลงมาจนถึงพื้น เสร็จแล้วนั่งพับเพียบ
เรียบร้อยที่ตรงหน้าท่านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มที่เต็มไปด้วยรัศมี
แพรวพราวรอบองค์ มีลักษณะท่าทางอ่อนโยนด้วยเมตตา ราวกับ
หมอผู้มีอัธยาศัยใจเอื้ออารีต่อคนไข้ เข้ามาถามดูอาการด้วยความ
เป็นห่วง หวังจะช่วยอนุเคราะห์ด้วยหยูกยาและวิธีการต่าง ๆ
อย่างเต็มสติกำลังความสามารถที่มีอยู่ฉะนั้น
พระอรหันต์องค์นั้นก็เช่นกัน พอนั่งพับเพียบเรียบร้อย
ด้วยทั้งอัธยาศัยที่เต็มไปด้วยเมตตาหวังธรรมานุเคราะห์แก่ท่าน
แล้วก็ถามด้วยความเอื้อเฟื้อว่า เป็นอย่างไร ขันธปัญจกกับใจที่เป็น
เจ้าของแห่งวัฏฏะของท่าน พอเป็นไปอยู่ละหรือ จิตพอจะเห็นโทษ
และเบื่อหน่ายต่อการเกิดตายบ้างหรือยัง ผมเป็นห่วงท่าน กลัวว่า
จิตที่เคยนอนไม่ตื่นมาเป็นอนันตกาลจนนับประมาณมิได้ จะไม่
สนใจอยากตื่นพอมองเห็นทางเดินเพื่อพระนิพพาน อันเป็นแดน
ลึกลับสำหรับสัตว์โลกผู้ไม่สนใจจะตื่นจากหลับ คือความเพลินหลง
ในสิ่งหลอกลวงทั้งหลายที่มีประจำอยู่ในแดนของสัตว์โลกผู้ชอบ
ลุ่มหลง ยิ่งกว่าความชอบรู้จริงเห็นจริงทั้งหลายซึ่งมีอยู่ในแดน
เดียวกัน จึงได้มุ่งมา เมื่อมาถึงแล้วก็น่าอนุโมทนาในกำลังศรัทธา
และข้อปฏิบัติที่ท่านบำเพ็ญอยู่เวลานี้ นี่เป็นประโยคแรกที่ท่าน
ทักทายไต่ถามด้วยความเป็นห่วงและเมตตา
ส่วนท่านอาจารย์องค์นั้นท่านปรากฏในนิมิตภาวนาว่า ท่าน
ลุกขึ้นกราบไหว้ท่านด้วยความตื้นตันใจ ทั้งที่ใจยังอยู่ในสมาธิขณะที่
ท่านเหาะลงมาถึงทีแรก ท่านเรียนตอบพระอรหันต์โดยทางสมาธิภาวนาว่า ขันธ์ของเกล้ากระผมก็พอทนกันไปแบบโลก ๆ เขาทน
กัน ส่วนจิตก็พยายามตะเกียกตะกายปลุกปล้ำกันไป เพื่อความเห็น
โทษแห่งการลืมตัวมั่วสุมกับสิ่งที่เป็นพาลภายใน ซึ่งคอยหลอกหลอน
ให้ลุ่มหลงไปตามตลอดเวลา พอได้รับความร่มเย็นเห็นโทษแห่ง
วัฏฏะบ้างเท่าที่สติปัญญาสามารถ
เมื่อจบลงท่านก็เริ่มแสดงธรรมให้ฟัง โดยเน้นหนักไปทาง
ธุดงควัตรเช่นเดียวกับองค์ก่อน แสดงพระวินัยเป็นวาระสุดท้าย
ใจความแห่งธรรมที่แสดง ท่านยกเอาธุดงควัตรที่อาจารย์องค์นั้น
กำลังปฏิบัติอยู่ขึ้นแสดง ว่าที่ท่านปฏิบัติอยู่ทุกวันนี้นั้นเป็นสามี
จิกรรมอันชอบแล้ว พระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลายที่เป็น
อัจฉริยบุคคล ท่านชอบอยู่ในป่าเปลี่ยว อยู่ในถ้ำ เงื้อมผา รุกขมูล
ร่มไม้ อยู่ในป่าชัฏ อยู่ในป่าช้า อันเป็นสถานที่เตือนบอกเรื่อง
ความตายทุกวันเวลา เกี่ยวกับการที่ประชาชนมาทิ้งผี ทั้งผีหญิง
ผีชาย ผีชายหนุ่ม ผีหญิงสาว ผีเด็กผีคนเฒ่าคนแก่ อยู่ทุกวันเวลา
ท่านอยู่ด้วยความมีสติปัญญาไตร่ตรองกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่
ตลอดเวลา เพื่อสติปัญญาจะได้มีทางตื่นตัวและหาทางออก ท่าน
อยู่อย่างที่ท่านกำลังอยู่บำเพ็ญเวลานี้แล
การอยู่ของท่านจึงเป็นความถูกต้อง ไม่เกลื่อนกล่นวุ่นวาย
ด้วยเรื่องส่งเสริมวัฏทุกข์ให้พอกพูนหัวใจจนหาที่ปลงวางมิได้ แต่
สัตว์โลกไม่ค่อยคิดหาที่ปลงวางกัน นอกจากต่างคนต่างคิดสั่งสม
และส่งเสริมให้เชื้อและทุกข์เพิ่มขึ้นจนเป็นมหันตทุกข์เท่านั้น ฉะนั้น
การเกิดตายของสัตว์โลกจึงเกลื่อนไปทั่วดินแดน ไม่มีอะไรที่ไหนจะ
มากกว่าป่าช้าของสัตว์ที่ตั้งหน้าเกิดตายกัน แม้ที่เรากำลังนั่งอยู่
เวลานี้ก็คือป่าช้าของสัตว์ชนิดต่าง ๆ ทั้งสิ้น ไม่มีที่ว่างว่าไม่มีป่าช้าของสัตว์แทรกอยู่ แม้ในตัวเราตัวท่านก็คือป่าช้าของสัตว์เราดี ๆ
นี่แล ก็เมื่อทุกหนทุกแห่งมีแต่ที่เกิดตายของสัตว์เช่นนี้ เราจะหา
ความสบายที่ไหนกัน
ท่านได้พิจารณาบ้างหรือยังว่า แม้ในตัวท่านเองก็เป็น
ป่าช้าที่เกิดตายของสัตว์ชนิดต่าง ๆ เช่นเดียวกับภายนอก ถ้ายัง
ไม่พิจารณาก็แสดงว่าปัญญายังไม่รอบคอบพอที่วัฏฏะจะเกรงกลัว
และหาทางออก ไม่มารบกวนชวนให้เกิดตายซ้ำ ๆ ซาก ๆ ที่น่า
รำคาญของนักปราชญ์ทั้งหลาย คำว่าปัญญาก็ได้แก่ความแยบคาย
ของใจเอง ต้องสอดแทรกไปหมดไม่มีเว้นแม้ขนาดเท่าเม็ดหิน
เม็ดทราย ซึ่งล้วนเป็นสมมุติสิ่งทำให้ติดข้องได้ด้วยกัน ปราชญ์ท่าน
จึงพิจารณาและรื้อถอนออกจนหมดสิ้นไม่มีเหลืออยู่เลย
ท่านก็เป็นผู้หนึ่งในวงของพระธุดงค์ที่มีใจมุ่งมั่นต่อแดน
พ้นทุกข์ และปฏิบัติตามเยี่ยงอย่างปฏิปทาของอริยบุคคลอันสูงสุด
จึงควรใช้สติปัญญาแบบท่านบ้าง จะเป็นความถูกต้องเหมาะสมตาม
นโยบายของธุดงควัตรที่ทรงบัญญัติไว้ เพื่อส่งเสริมสติปัญญาของ
ผู้ดำเนินตามให้เกิดความฉลาดรอบรู้ในทุกแง่ทุกมุมที่เกี่ยวกับตน
และถอดถอนออกได้เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่นั่งเฝ้านอนเฝ้าธุดงควัตร
ต่าง ๆ อยู่โดยไม่ทราบความมุ่งหมายว่า ธุดงค์ข้อนั้น ๆ เพื่อแก้
กิเลสบาปธรรมต่างกันอย่างไรบ้าง และอำนวยประโยชน์แก่ผู้ดำเนิน
ตามโดยถูกต้องในทางใดบ้าง ซึ่งความจริงธุดงค์แต่ละข้อมีความ
มุ่งหมายในการแก้หรือถอดถอนกิเลสอยู่ในตัวอย่างพร้อมมูลแล้ว
ไม่ว่ากิเลสประเภทใดที่มีอยู่ในใจสัตว์โลก ธุดงค์นั้น ๆ สามารถ
รื้อถอนได้โดยสิ้นเชิง ถ้าผู้ปฏิบัติสามารถรู้ทั่วถึงความมุ่งหมาย
ของธุดงค์ได้โดยถูกต้อง เพราะธุดงค์เหล่านี้เป็นเครื่องกลั่นกรองสามัญมนุษย์ให้กลายเป็นอัจฉริยมนุษย์มามากต่อมากแล้ว
เท่าที่ท่านปฏิบัติอยู่เวลานี้ก็น่าชมเชยอยู่แล้ว แต่ที่อธิบาย
เพิ่มเติมบ้างก็เพื่อเป็นการส่งเสริมสติปัญญาให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป สมกับ
ธุดงค์เป็นเครื่องกลั่นกรองคนให้ฉลาดแหลมคมขึ้นไปโดยลำดับ
ไม่ติดอยู่เพียงแค่คำว่าถือธุดงค์เท่านั้น ซึ่งเป็นความโง่เขลานอนใจ
ไม่คิดอ่านทางปัญญาหาความฉลาดใส่ตน ธุดงค์แต่ละข้อมี
ความหมายลึกซึ้งมากมายที่จะรู้ทั่วถึง จึงควรใช้สติปัญญา
ไตร่ตรองให้ละเอียดถี่ถ้วนเป็นข้อ ๆ ไป ท่านจะได้รับประโยชน์
จากธุดงค์ไม่มีประมาณ แม้ความสิ้นสุดถึงวิมุตติพระนิพพาน ก็
ไม่นอกเหนือไปจากธุดงค์ดังกล่าวเป็นเครื่องส่งเสริมเลย
ท่านอัจฉริยชนทั้งหลายมีความรักชอบธรรมเหล่านี้มาก
และท่านฝากชีวิตจิตใจไว้กับธรรมเหล่านี้กันทั้งนั้น ทั้งชมเชยยกย่อง
ท่านผู้สนใจปฏิบัติธุดงค์ว่า เป็นผู้จะยังประโยชน์ตนให้สำเร็จไป
ด้วยดีไม่มีอุปสรรค และดำรงอริยประเพณีไว้ได้ เพราะนี้เป็นอริย
ประเพณีที่ท่านดำเนินมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าพระพุทธศาสนาของ
พระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาตรัส ตรัสไว้ในสมัยใดและที่ใด จำต้อง
มีธุดงควัตรอันเป็นคู่เคียงพระศาสนาเสมอมา
อย่าเข้าใจว่าธุดงควัตรเหล่านี้ จะมีเฉพาะศาสนาของ
พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งเท่านั้นเลย แต่มีประจำกับทุก ๆ
ศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์นั้น ๆ ตลอดมาจนถึงพุทธศาสนา
ปัจจุบัน จะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ใดมาตรัสในพระนามของความ
บริสุทธิ์หมดจดจากกิเลส พระพุทธเจ้านั้น ๆ จำต้องประกาศสอน
ธุดงควัตรแก่ภิกษุบริษัทของพระองค์เช่นเดียวกันทุก ๆ ศาสนา
เพราะธุดงควัตรเป็นปฏิปทาที่เหมาะสมกับนักบวชอย่างยิ่ง ผู้หวังความหลุดพ้นอย่างเต็มใจอยู่แล้ว จะได้ปฏิบัติตามธุดงควัตรด้วย
ความมุ่งมั่นกลั่นกรองกิเลสออกจากใจ ได้ทันกับเหตุการณ์ไม่เนิ่น
ช้าล้าหลัง
ท่านอาจารย์องค์นั้นเรียนถามข้อข้องใจ ในระหว่าง
พระอรหันต์ท่านหยุดชั่วขณะว่า มีผู้สงสัยว่านับแต่พระพุทธองค์
ปรินิพพานจนถึงสมัยนี้ ถ้านับเวลาก็ได้สองพันกว่าปีแล้ว ถ้า
เป็นผลไม้และสิ่งต่าง ๆ ก็จำต้องร่วงโรยไปตามกฎอนิจจัง ไม่มี
อะไรเหลืออยู่แม้ซากแห่งลำต้นของมัน ถ้าเป็นบริษัทห้างร้าน
ต่าง ๆ ก็เป็นผุยผงของดินไปหมดแล้ว ไม่มีอะไรเหลือพอเป็น
เครื่องหมายแห่งบริษัทและตึกรามบ้างเลย แม้แต่ภูเขาแท่งทึบ
ยังมีการเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีอะไรเหนืออำนาจกฎอนิจจัง ส่วน
ธรรมาภิสมัยที่พระพุทธเจ้าและพระสาวกทั้งหลายตรัสรู้และบรรลุใน
สมัยนั้น พอตกมาสมัยนี้ น่าจะไม่มีเค้าโครงแห่งมรรคผลนิพพาน
เหลืออยู่พอกุลบุตรทั้งหลายได้ดื่มบ้าง ด้วยปฏิปทาข้อปฏิบัติของตน
น่าจะค่อยๆ เสื่อมสูญไปเช่นเดียวกับสิ่งทั้งหลายฉะนั้น
กระผมเองไม่มีปัญญาสามารถแก้ไขเหตุการณ์ทำนองนี้ให้
สงบลงได้ แต่วันนี้เป็นโอกาสวาสนาสุดที่จะอัศจรรย์ของกระผม
เองที่คาดไม่ถึง ซึ่งพระผู้ประเสริฐเลิศโลกเหาะลอยลงมาโปรดด้วย
ความเมตตาสงสาร จึงขอประทานกราบเรียนถามข้อข้องใจที่เป็นมา
ว่า เรื่องมรรคผลนิพพานในวงพระศาสนาอันเป็นทางปฏิวัติกับสิ่ง
สมมุติทั้งหลาย ยังจะกลับเป็นธรรมานุวัติไปตามโลกแห่งอนิจจังอยู่
หรือประการใด คือเมื่อโลกแปรปรวน ธรรมก็แปรปรวน โลกเสื่อม
ธรรมก็เสื่อม โลกสูญธรรมก็สูญ สิ่งต่าง ๆ หมดความหมายลง
ธรรมก็อาจหมดความหมายไปตาม และอาจกระเทือนถึงมรรคผลนิพพานว่า จะต้องสิ้นสุดกุดด้วนไปตามกาลสถานที่แห่งการ
ปรินิพพานของพระพุทธเจ้าด้วยหรือประการใด
เท่าที่ทราบมาการปรินิพพานของพระองค์นั้น เป็นเรื่อง
ของพระองค์โดยเฉพาะ มิได้เกี่ยวกับหลักธรรมวินัยที่ทรงประกาศ
สอนไว้เพื่อมรรคผลนิพพานแต่อย่างใด แต่แล้วผู้ที่สงสัยเกี่ยวกับ
กาลเวลาแห่งการปรินิพพานของพระองค์ ที่ทำให้มรรคผลนิพพาน
กระเทือนไปก็ยังมีอยู่ ดังคำว่าพระองค์ปรินิพพานได้สองพันกว่าปี
แล้ว ศาสนาของพระองค์ย่อมจะค่อย ๆ ร่วงโรยและหมดมรรค
หมดผลไปด้วย แม้ปฏิบัติกันไปก็ลำบากเปล่าโดยไม่มีผลตอบแทน
แต่อย่างใดเลยดังนี้ ฟังแล้วรู้สึกขัดกันกับพุทธพจน์อยู่มาก ทั้ง
เป็นการสร้างความสะเทือนใจแก่วงพระศาสนาและประชาชนพุทธ
บริษัท ให้เกิดความสงสัยลังเลได้พอดู ซึ่งความคิดเห็นเหล่านี้ไม่เกิด
ประโยชน์แต่อย่างใดเลย นอกจากเขย่าศาสนาและจิตใจประชาชน
ให้ขุ่นมัวเท่านั้น
พระอรหันต์ตอบท่านว่า ถ้าธรรมเป็นเหมือนผลไม้ เป็น
เหมือนบริษัทห้างร้าน เป็นเหมือนสิ่งต่าง ๆ ในแดนสมมุติที่ตกอยู่
ในกฎแห่งอนิจจัง ธรรมก็หายซากไปนานแสนนานแล้ว ไม่มีใครได้
ดื่มรสแม้เพียงผ่านชิวหาประสาทคือใจชั่วขณะเลย พระพุทธเจ้า
ทั้งหลายและสาวกของพระพุทธเจ้าแต่ละองค์ที่มีจำนวนมหาศาล
ไม่สามารถจะนับจะประมาณ ก็ไม่มีโอกาสปรากฏขึ้นในโลกแห่ง
อนิจจังนี้ได้ แม้ที่จะมาตรัสรู้และบรรลุข้างหน้าซึ่งไม่มีประมาณ ก็
เป็นอันดับดิ้นสิ้นอริยชาติอริยวาสน์อริยวงศ์ไปตาม ๆ กัน เท่าที่
พระพุทธเจ้าและสาวกทั้งหลาย ทั้งอดีตอนาคต ยังปรากฏสืบเนื่อง
กันมาเป็นลำดับไม่ขาดมูลสูญราก ยังปรากฏความดีและคนดีวิเศษ



เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย


ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
ตอบกระทู้