"ที่ถืออยู่มันหนัก" ก็คือความยึดมั่นถือมั่นใน"ตัวตน" ในสิ่งของวัตถุ"ภายนอก"ว่านี้เป็นของๆเราตัวของเรา เราถืออยู่ที่ไหน? ถือที่ "ใจ" ก็ต้อง "วางที่ใจ" รู้ว่านี้เป็น"ทุกข์" ก็ต้องค่อยๆ "ละ" และ "วาง"ครับ นี้คือในทาง"ธรรม" เป็น"นามธรรม" ถ้าในทางโลก เราถือของอยู่ในมือหนักสิบโล แรกๆไม่หนักหรอกครับ แต่..ถ้าเราถือเป็นชั่วโมงหรือเป็นวันๆ น้ำหนักก็จะทวีขึ้นหลายเท่า "หนัก" ครับหนักมากหนักน้อยขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่เราถือ รู้ว่าหนักเราคงไม่ถือต่อหรอกครับ ก็ต้อง"วาง"แล้วเราจะเบานี้เป็น"รูปธรรม" "ที่ถืออยู่มันร้อน" ก็คือ โทสะ โมหะ โลภะ ก็คือรักโลภโกรธหลงความอยากได้อยากมีอยากเป็นเหมือนคนอื่นเขา ยังใจเราให้เราเร่าร้อนเป็นไฟแผดเผาจิตให้ลุ่มหลงร้อนรน ดิ้นรนแสวงหาและ ริษยาไปทั่ว เป็น"นามธรรม"ที่เกิดขึ้นในจิตของเรา มองให้เห็น"กฏพระไตรลักษณ์" แล้วค่อยๆละและวาง ใช้"อิทธิบาท4"เป็นความเพียร และใช้"โพชฌงค์7"เป็นตัวแก้ความตรึงความหย่อนของจิตครับ ...ถือนานหนักนาน ถือน้อยหนักน้อย รู้ก่อนวางก่อนไม่หนัก เบาสบายไม่เป็นทุกข์ เพ่งให้เห็นความเกิดดับแห่งจิต แห่งทุกข์ เราก็จะสุขด้วยการ"วาง" "วาง"ที่ว่าก็คือ"วางจิต"ให้เป็น"อุเบกขา"ครับ รู้สิ่งใดเข้ามาในจิตหรือในชีวิตอย่าเก็บไปคิดให้รกสมองกับทุกๆเรื่องที่ผ่านเข้ามาเราก็จะหนักนะครับ ทุกๆคนล้วนเกิดมาแล้วย่อมมีทุกข์จะยากดีมีจนก็ทุกข์ หากไม่มีทุกข์ไม่มีปัญหา เราก็จะไม่รู้จักเริ่มต้นที่จะเรียนรู้การแก้ไขปัญหา เอาปัญหาที่ผ่านมา มาเป็นบทเรียน ถือว่าเป็นบททดสอบเราและถือว่าเป็นมารมาทดสอบว่าเราจะผ่านได้ไหมจะทำให้มีกำลังใจสู้ต่อครับ "เรา"จะไม่ย้อน"เวลา"กลับไปเพื่อ"แก้ไข" แต่..."เรา"จะใช้"เวลา"ที่เดิน"ต่อไป"เพื่อ"ปรับปรุง" "วางอดีตไว้ข้างหลัง ทำปัจจุบันให้เกิด เตรียมอนาคตไว้ข้างหน้า และ อย่าเอาอดีตมาคิดให้ทำลายปัจจุบันและทำลายอนาคตนะครับ"
มนุษย์ แปลว่า ใจสูง หมายถึงมีจิตใจสูงกว่าสัตว์เดรัจฉาน มนุษย์รู้จักผิดชอบชั่วดี มีหิริโอตตัปปะ ละอายเกรงกลัวต่อบาป มีศีลธรรม รักษาศีล 5 ได้ก็เท่ากับรักษาศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ...ได้สมบูรณ์
พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
ปล่อย วางให้เป็น จึงจะแบกขึ้นมาใหม่ได้ ผู้ที่ ปล่อยวางหรือแบกภาระได้อย่างสบายใจ คือผู้ ที่มีความอิสระอย่างแท้จริง
คนเราโดยมากมักนึกว่า อนาคตจะเป็นอย่างไรเราทราบไม่ได้ แต่ที่จริงเราย่อมจะทราบได้บ้างเหมือนกัน เพราะอนาคต ก็คือ ผลของการกระทำในปัจจุบัน
เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
|