นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พุธ 15 ม.ค. 2025 3:18 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: เสาร์ 14 ก.พ. 2009 10:27 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ละครที่ชอบที่สุดคือรามเกียรติ์ มันไปได้คติตรงที่ว่า ตอนที่พระรามหักคันศรพระศิวะ พระปิตุลาบำเพ็ญตบะอยู่บนยอดเขามเหธรจนสำเร็จอิทธิฤทธิ์ล่องหนหายตัวได้ พอได้ยินเสียงคันศรหักก็เหาะมาทางอากาศ

"มันมาบังอาจพังคันศรพระศิวะที่ข้าบูชาอยู่ คนนั้นมันจะต้องตายลูกเดียว"

วาทะของผู้ปฏิบัติโดยมีศีลเป็นเครื่องประกันความปลอดภัยจะไม่มีอย่างนี้ เพราะฉะนั้นสมาธินี่ใครจะเก่งแค่ไหนเชิญเก่งไปเถอะ ถ้าศีลไม่บริสุทธิ์ไม่มีทางจะรอดพ้นจากกองทุกข์ ไม่พ้นจากนรกเสียด้วยซ้ำ

เพราะฉะนั้นใครจะว่าเราได้หรือไม่ได้ ภาวนาเป็นหรือไม่เป็น ขอให้ยึดศีล ๕ เป็นหลัก พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ อยู่ที่ตรงไหน ? อยู่ที่เรามีสติรู้จิตอยู่ตลอดเวลา จิตที่มีสติสัมปชัญญะมันก็รู้ตัวอยู่ แล้วมันก็เตรียมพร้อมอยู่ มันตื่นอยู่ตลอดเวลา พร้อมที่จะรับสถานการณ์ตลอดเวลา มันจะไม่หันหลังให้ เมื่อเป็นเช่นนั้น มันก็แช่มชื่น ...เบิกบาน... แจ่มใส... เป็นพุทโธ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

ในเมืองไทยมีนักภาวนาเก่ง ๆ แต่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะอะไร ? เพราะนักภาวนามันทุศีล มาสมาทานศีล ๘ แล้วกินนมตอนเย็น พระภิกษุสงฆ์บวชเข้ามาแล้วจับเงินจับทองใช้เอง ในเมื่อมาละเมิดศีลสิกขาบทในพระปาฏิโมกข์นี่ มันก็กลายเป็นคนทุศีล

สมาธินี่ไม่จำเป็นต้องมีศีล แต่ต้องอาศัยสัจจะ ลองว่าฉันจะนั่งให้ได้ ๑๐ ชั่วโมง มันก็ได้สมาธิได้ฌานเหมือนกัน แต่สมาธิ-ฌานที่ไม่หลักประกันความปลอดภัยคือศีล สามารถประทุษร้ายคนอื่นได้...

เพราะฉะนั้นใครจะว่าอย่างไรก็ตาม ให้เราดูจิตดูใจของเรา เราปฏิบัติอย่างนี้จิตของเราสงบไหม ? เราได้ความสุขจากการปฏิบัตินั้นไหม ? สิ่งที่เป็นบาปทั้งหลายเราเลิกละได้ไหม ?

ดูกันที่ตรงนี้


ไม่ต้องไปเที่ยวดูเมืองฟ้าเมืองสวรรค์ที่ไหนหรอก...


ฐานิโย 7re1.jpg


พระราชสังวรญาณ (พุธ ฐานิโย)
วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 16 ก.พ. 2009 10:13 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 05 ธ.ค. 2008 9:50 pm
โพสต์: 98
สา...............ธุ
แล้วหนูจะทำตามเจ้าค่ะ
มีคำถามนิดนึงเรื่องการจับเงินเจ้า :?:
คือเหรียญ 1 บาท ที่ห่อด้วยริบบิ้นอย่างสวยงาม(แต่มองไม่เห็นเหรียญนะคะแต่ก็ทราบว่าเป็นเงิน)
หรือพลาสติก ไว้โปรยให้ทาน
แก่หมู่คณะ หน้าโบสถ์ หรือโปรยในงานพิธีต่างๆ อย่างนี้ เป็นอาบัติไหมคะ
ขอบคุณจ๊าดนักๆเจ้า


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 16 ก.พ. 2009 10:32 pm 
ออฟไลน์
ภาพประจำตัวสมาชิก

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 14 ก.ย. 2008 6:00 am
โพสต์: 6586
ถ้าพูดกันตามหลัก เพียงศีลสิบของสามเณรในข้อที่สิบก็ห้ามแล้วครับ

ชาตะรูปะ ระชะตะ ปฏิคคะหะนา เวระมณี... คือให้เว้นเสียจากการจับเงินและทอง

องค์ของศีลมิได้มุ่งยกเว้นว่าจะจับเพราะเหตุใด วัตถุประสงค์ใด ดั้งนั้นเมื่อจับต้อง ก็เป็นอันว่าต้องอาบัติแล้วในทันทีที่จับ

แต่เรื่องของบาป ก็ต้องอยู่ที่เจตนาแล้วครับว่าจับเพราะอะไร ? เพื่ออะไร ?

ครูบาอาจารย์บางรูปท่านจับเงิน ต้องอาบัติ แต่ไม่ต้องบาป เพราะท่านจับเฉย ๆ จริง ๆ จับสงเคราะห์จริง ๆ

แต่พระบางรูปวางท่าเคร่งเงินไม่จับ ท่านก็ไม่ต้องอาบัติครับ แต่ท่านได้บาปทางใจก็มีอยู่ เพราะท่านเพ่งเล็งแต่ว่า จะแสดงท่าทางไม่จับเงินเพื่อให้โยมศรัทธา เมื่อโยมศรัทธาเชื่อถือเสียอย่างแล้ว ลาภสักการะต่าง ๆ ก็จะไหลเข้ามาเป็นอันมาก นี่เรียกว่าเกิดบาปแล้วที่จิตครับ เพราะอะไรน่ะหรือ ?

เพราะกายไม่จับเงิน แต่จิตจับทั้งวันเลยครับ

_________________
ถ้าเราไม่อยากได้อะไรจากใคร ก็จะไม่มีอะไรให้หมางใจกัน


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 3 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 170 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO