ศีล ๘ ในสมัยครั้งพุทธกาลเรียกว่า อุโบสถศีล มีองค์ ๘ คือ
๑. เว้นจากการฆ่าสัตว์
๒. เว้นจากการลักทรัพย์
๓. เว้นจากอพรหมจรรย์ (เมถุน)
๔. เว้นจากการพูดเท็จ
๕. เว้นจากการดื่มน้ำเมา
๖. เว้นจากการบริโภคอาหารในเวลาวิกาล ๗ .เว้นจากการประดับตกแต่งด้วยเครื่องประดับและของหอม
๘. เว้นจากการนอนบนที่นอนสูงใหญ่
ไม่ฆ่าสัตว์ ๑ ไม่ถือเอาของที่เจ้าของ
มิได้ให้ ๑ ไม่พูดมุสา ๑ ไม่ดื่มน้ำเมา ๑
เว้นจาก เมถุนอันมิใช่ความประพฤติดัง-
พรหม ๑ ไม่บริโภคอาหารในราตรี และ
อาหารผิดเวลา ๑ ไม่ประดับดอกไม้ ไม่ใช้
ของหอม ๑ นอนบนเตียง (ที่ได้ประมาณ)
หรือเครื่องลาดบนพื้น ๑ บัณฑิตทั้งหลาย
กล่าวอุโบสถมีองค์ ๘ นี้ ซึ่งพระพุทธเจ้า
ผู้ถึงที่สุดทุกข์ทรงประกาศไว้.
พระจันทร์ และพระอาทิตย์ที่น่าดูทั้ง
สอง โคจรส่องแสงไปตลอดที่มีประมาณ
เท่าใด อนึ่ง พระจันทร์และพระอาทิตย์
ขจัดมืดในอากาศส่องอยู่บนฟ้า ทำให้รุ่ง-
โรจน์ไปทั่วทิศ(ตลอดที่เพียงใด) ทรัพย์อัน
ใดมีอยู่ในระหว่าง (ที่ๆ แสงส่องถึง) นั้น
เช่นแก้วมุกดา แก้วมณี แก้วไพฑูรย์อัน
งาม ทองสิงคี ทั้งทองกาญจนะ ทองที่
เรียกว่าชาตรูปะ ทองหฏกะทรัพย์เหล่านั้น
(มีค่า) ไม่ถึงแม้ส่วนที่ ๑๖ แห่งอุโบสถ
อันประกอบด้วยองค์ ๘ ดุจหมู่ดาวทั้งหมด
(สว่าง) ไม่ถึงส่วนที่ ๑๖ แห่งแสงจันทร์
ฉะนั้น.
อุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ บุคคลเข้าอยู่แล้ว
มีผลมาก มีอานิสงส์มาก มีความรุ่งเรื่องมาก มีความแพร่หลายมาก
เพียงไร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนพระราชาเสวยราชย์
ดำรงอิสรภาพและอธิปไตยในชนบทใหญ่ ๆ ๑๖ รัฐ มีรัตนะ ๗
ประการมากมาย เหล่านี้ คือ อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี
มัลละ เจดีย์ วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ
อวันตี คันธาระ กัมโพชะ การเสวยราชย์ดำรงอิสรภาพและ
อธิปไตยของพระราชานั้น ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ แห่งอุโบสถที่
ประกอบด้วยองค์ ๘ ประการ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะราชสมบัติ
มนุษย์เป็นเหมือนของคนกำพร้า เมื่อเทียบสุขอันเป็นทิพย์ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย ๕๐ ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งวันหนึ่งของเทวดาชั้น
จาตุมมหาราช ๓๐ ราตรีโดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง ๑๒ เดือน
โดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง ๕๐๐ ปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุ
ของเทวดาชั้นจาตุมมหาราช ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคล
บางคนในโลกนี้จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบ
ด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย เราหมายเอาข้อนี้จึงกล่าวว่า ราชสมบัติมนุษย์เป็นเหมือน
ของคนกำพร้า เมื่อเทียบกับสุขอันเป็นทิพย์.
...............ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้
จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘
ประการแล้ว เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดา
ชั้นดาวดึงส์นี้เป็นฐานะที่จะมีได้ ...
...... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นหญิง
หรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว
เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นยามานี้เป็นฐานะที่
จะมีได้ ...........
............ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นหญิง
หรือชายก็ตาม เข้าอยู่อุโบสถอันประกอบด้วยองค์ ๘ ประการแล้ว
เมื่อตายไป พึงเข้าถึงความเป็นสหาย แห่งเทวดาชั้นดุสิตนี้เป็นฐานะที่
จะมีได้ ..................
พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ติกนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ 168
ข้อความบางตอนจาก ทุติยราชสูตร
[๔๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ท้าวสักกะจอมเทวดา
เมื่อจะปลุกใจเหล่าเทวดาดาวดึงส์ จึงภาษิตคาถานี้ในเวลานั้นว่า
แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้น
ก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถี
ที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถือ
อุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลคาถานั้นนั่น ท้าวสักกะจอมเทวดาขับไม่
เข้าที ไม่เป็นการขับดีแล้ว กล่าวไม่เหมาะ ไม่เป็นสุภาษิต นั่นเพราะเหตุอะไร
เพราะท้าวสักกะจอมเทวดายังไม่ปราศจากราคะ ...โทสะ ...โมหะ ส่วนภิกษุ
ผู้เป็นพระอรหันต์สิ้นอาสวะแล้ว สำเร็จแล้ว ทำกิจที่ควรทำแล้ว ปลงภาระ
แล้ว เสร็จประโยชน์ตนแล้ว สิ้นเครื่องร้อยรัดไว้ในภพแล้ว หลุดพ้นด้วย
ความรู้ชอบแล้ว จึงควรกล่าวคาถานั่นว่า
แม้ผู้ใดพึงเป็นเช่นดังข้าพเจ้า ผู้นั้น
ก็พึงถืออุโบสถประกอบด้วยองค์ ๘ ในดิถี
ที่ ๑๔ ที่ ๑๕ และที่ ๘ แห่งปักษ์ และถือ
อุโบสถปาฏิหาริยปักษ์เถิด.
นั่นเพราะเหตุอะไร เพราะภิกษุนั้น ปราศจากราคะ...โทสะ...โมหะแล้ว
เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย
ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
|