พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
อังคาร 02 มิ.ย. 2015 4:42 am
ดูกรอานนท์ สังเวชนียสถาน ๔ แห่งเหล่านี้ เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา สังเวชนียสถาน ๔ แห่ง เป็นไฉน คือ
๑. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตประสูติในที่นี้ ฯ (ลุมพินีวัน)
๒. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ ฯ (พุทธคยา)
๓. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตทรงยังอนุตตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ ฯ (สารนาถ)
๔. สังเวชนียสถานอันเป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธาด้วยมาตามระลึกว่า พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุ ในที่นี้ (กุสินารา)
สังเวชนียสถาน ๔ แห่งนี้แล เป็นที่ควรเห็นของกุลบุตรผู้มีศรัทธา ฯ
ดูกรอานนท์ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา จักมาด้วยความเชื่อว่าพระตถาคตประสูติในที่นี้ก็ดี พระตถาคตตรัสรู้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณในที่นี้ก็ดี พระตถาคตทรงยังอนุตรธรรมจักรให้เป็นไปในที่นี้ก็ดี พระตถาคตเสด็จปรินิพพานแล้วด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุในที่นี้ก็ดี ก็ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง เที่ยวจาริกไปยังเจดีย์ มีจิตเลื่อมใสแล้ว จักทำกาละลง ชนเหล่านั้นทั้งหมดเบื้องหน้าแต่ตายเพราะกายแตก จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ฯ
พระไตรปิฎก มหาปรินิพพานสูตร ที.ม. ๑๐/๑๓๑/๑๓๕
พุทธโอวาทก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพานในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ
" ดูกรภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ เราขอเตือนพวกเธอว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา พวกเธอจงยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด ฯ นี้เป็นพระปัจฉิมวาจาของพระตถาคต ฯ"
พระไตรปิฎก มหาปรินิพพานสูตร ที.ม. (ไทย) ๑๐/๑๔๓/
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
" ท่านบอกไว้ในธรรมคุณว่า.
" เอหิปัสสิโก "
พึงเรียกร้องสัตว์ทั้งหลายให้เข้ามาดูธรรม.
ดูกุศลธรรมและอกุศลธรรม.
กุศลธรรมจิตเราดี. จิตเราฉลาด,
จิตเรามีความสุขสบาย,
เราทำการงานทุกอย่างก็ต้องการความสุขสบาย,
นี่แหละกุศลธรรม.
อกุศลธรรมคือ จิตเราไม่ดี.
ทุกข์ยากวุ่นวายเดือดร้อน,
ท่านเรียกร้องให้สัตว์มาดูธรรมอันนี้,
ลองเรียกหาความทุกข์จากดินฟ้าอากาศดูซิ . ไม่มี,
นอกจากใจที่มีทุกข์แล้ว. สุขก็ใจของเรา.
จะมีสุขดีนอกจากใจเรามีแล้วที่อื่นไม่มี. "
"ชั่ว"
นอกจากใจเราชั่วแล้ว, ที่อื่นก็ไม่มี.
" ถ้าจิตเราไม่ดีแล้วก็พากันไม่ดีไปทั้งหมด,
จิตเราดีแล้วก็ดีไปทั้งหมด.
บิดามารดา สามีภรรยา บุตรธรรมดาก็รักกัน,
ถ้าจิตเราดีแล้วก็ไม่ทะเลาะกัน."
" สรุปแล้วธรรมะทั้งหลายทั้งหมดแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์.
อย่าเข้าใจว่าอยู่ที่แห่งอื่นแห่ใด,
" อยู่ที่เรา "
เราอาศัยพระสามองค์อยู่คือ พระสูตร พระวินัย พระปรมัตถ์,
ท่านวางศาสนาไว้ตรงนี้."
" ธรรมะแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์รวมอยู่ในตัวของเรา.
เราเป็นตู้พระไตรปิฎก. เหตุใดเล่า.
สูตตปิฎก วินัยปิฎก ปรมัตถ์ปิฎก ทั้งสามนี้รวมเป็นพระไตรปิฎก.
อิสโส, ปิสโส, นิสังโส
สูตตปิฎก., ได้แก่สูดลมหายใจเขาไป
วินัยปิฎก., ได้แก่หายใจลมออกมา
ปรมัตถ์ปิฎก., ได้แก่ผู้รู้ที่อยู่ข้างใน
รักษาชีวิตินทรีย์ไว้ไม่ให้แตกไม่ให้ทำลาย,
นี่แหละเราอาศัยพระสามองค์นี้. ก็ต้องกราบต้องไหว้,
เราต้องปฏิบัติพระสามองค์นี้.
ถ้าท่านละไปแล้ว.
หมอก็รักษาชีวิตของเราไม่ได้.
ถ้าพระสามองค์นี้ยังรักษาเราอยู่, หมอก็ยังรักษาได้.
ตราบใดมีลมหายใจอยู่, หมอก็รักษา.
ถ้าหมดลมหายใจ, หมอก็ไม่รักษา.
เห็นไหมล่ะ. จริงหรือไม่จริง.
นี่แหละพระสามองค์เราต้องปฏิบัติ, ต้องกราบต้องไหว้. "
" ท่านจึงว่าธรรมะย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม.
ถ้าสัตว์ใดปฏิบัติธรรมดี ธรรมย่อมนำความดีมาให้.
ถ้าสัตว์นั้นปฏิบัติธรรมชั่ว ธรรมก็นำความชั่วมาให้.
ที่เรามานั่งอยู่ที่นี่.
ผู้ใดประพฤติธรรมดี ธรรมก็ให้ดีแก่เรา.
ผู้ใดประพฤติไม่ดี ธรรมก็ให้ไม่ดีแก่เรา."
" เมื่อได้ยินได้ฟังแล้ว.
โอปนะยิโก, น้อมเข้ามารู้ภายใน.
รู้เฉพาะตนนั่นแหละ, นี่แหละข้อปฏิบัติที่นำมาเตือนใจ,
พอเป็นเครื่องประดับสติปัญญาบารมีของท่านทั้งหลาย."
" เมื่อท่านได้ฟังแล้ว.
"โยนิ โสมมนสิการ"
พากันกำหนดจดจำไว้แล้ว, พากันประพฤติปฏิบัติ.
ฝึกหัดตนไปตามธรรมคำสั่งสอนดังได้บรรยายแล้ว.
ขอให้ท่านทั้งหลายมีความสุขความเจริญ.......,
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้.-
------------------------------------------------------------------------@
คัดลอกจากหนังสืออนุสรณ์งานศพพระอาจารย์ฝั้น อาจารเถระ
ในงานเสด็จพระราชทานเพลิง ณ วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่อวันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๒๑