“อยู่คนเดียวสบายกว่า”
พระพุทธเจ้านี้ฉลาดมีวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ปัญหามันเกิดจากตัวเรา เราก็ต้องแก้ในตัวเรานี่แหละ เราชอบไปมองในแง่ดีไม่ชอบมองด้านที่ไม่ดี มันก็เลยหลงติดกับสิ่งที่ดีสิ่งที่ไม่ดีก็ไม่เอามาคิด เวลาคิดถึงสิ่งที่ดีต้องคิดถึงสิ่งที่ไม่ดี เช่นคิดว่าจะมีแฟนแล้วมีความสุข แล้วพออยู่ด้วยกันตบตีกัน ดูซิว่ามันจะมีความสุขไหม บางคนนี้ถ่ายรูปมาให้ดูเลย หน้าบูดหน้าเบี้ยวเขียวช้ำ จะไปฟ้องตำรวจอีก ตำรวจก็ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เวลามีความสุขไม่เห็นไปฟ้องตำรวจ เวลาตีกันแล้วไปฟ้องตำรวจทำไม ไปยุ่งเขาเปล่าๆ ให้เขาทำงานอย่างอื่นดีกว่า เรามาแก้ปัญหาของเราดีกว่า อย่าให้ตำรวจเขามาแก้ปัญหาให้เรา เราโง่เอง
เวลาอยากได้อะไรเห็นดีไปหมดใช่ไหม ส่วนที่ไม่ดีไม่ยอมคิดเลย พอได้มาแล้วก็เสียใจ ถ้าคิดสักหน่อยแล้ว มันก็จะได้ไม่อยากได้ จะอยู่คนเดียวดีกว่าสบายกว่า อยู่คนเดียวก็เป็นเจ้านายตัวเอง อยู่กับคนอื่นเขาก็ต้องมาเป็นเจ้านายเราแล้ว จะทำอะไรก็ต้องขออนุญาตเขาต้องบอกเขาแล้ว จะทำคนเดียวไม่ได้แล้ว เวลาอยู่คนเดียวนี้จะทำอะไรไม่ต้องบอกใครนะ จะกินจะนอนจะเล่นจะเที่ยว จะทำอะไรที่ไหนอยู่กับใครไปที่ไหนกับใครไม่ต้องไปบอกใคร พอไปอยู่กับอีกคนหนึ่งนี้กลายเป็นทาสเขาไปแล้ว จะไปไหนก็ต้องขออนุญาตต้องบอกแล้ว เขาไม่ให้ไปก็ไปไม่ได้
อยู่คนเดียวสบายกว่าเยอะเเยะกลับอยู่ไม่ได้ต้องไปอยู่ในกรง ลองมาฝึกทำใจให้สงบแล้วอยู่คนเดียวได้สบาย ไม่สนใจใครจะดีจะชั่วก็เรื่องของเขา เขาไม่สามารถทำให้เราดีเราชั่วได้หรอก ไม่มีใครทำให้เราสุขเราทุกข์ได้ นอกจากตัวเราเอง ไปหลงคิดว่าเขาทำให้เราสุขได้ พอได้เขาก็สุขแล้วพอเขาเป็นอะไรไปก็กลายเป็นทุกข์ไป พยายามมาฝึกปฏิบัติธรรมกัน มาฝึกปฏิบัติธรรมก็ต้องตัดความสุขทางร่างกายไป ถือศีล ๘ ศีล ๘นี้เป็นวิธีตัดความสุขทางร่างกาย ถ้าไม่ถือศีล ๘ เดี๋ยวมันก็ไปหาความสุขทางร่างกาย แทนที่จะมาเดินจงกรม มาเจริญสติมันก็ไม่เอา ทำได้แป๊บเดียวมันก็เบื่อแล้ว สู้ไปดูละครดีกว่า ดูละครเป็นชั่วโมงก็ดูได้ พอให้พุทโธๆ ๑๐ นาทีก็เบื่อแล้ว มันถึงไปไหนไม่ได้ ต้องมีความแน่วแน่ต้องมีความตั้งใจว่าจะต้องทำอันนี้ให้ได้ ถ้ามีความแน่วแน่แล้วมันจะขยันทำ ทำไปเรื่อยๆพุทโธไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็ได้เอง เหมือนหัดขี่จักรยาน ขี่ใหม่ๆมันก็ล้ม แต่ถ้าพยายามหัดขี่ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ขี่ได้ ใหม่ๆพุทโธได้ ๒ - ๓ คำก็ล้ม พยายามพุทโธไปเรื่อยๆ เดี๋ยวต่อไปมันก็ทำได้
ทำได้แล้วก็สบาย ใจก็เย็น แล้วจะอยากทำ พอได้ผลแล้วทีนี้จะติดใจจะอยากทำไปเรื่อยๆ ทำให้มากขึ้น ถ้าไม่ได้ผลมันก็ท้อแท้ ความท้อแท้มันก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดีขึ้น ต้องทบทวนตัวเราว่าเราไม่ขยันทำพุทโธๆ เราไม่ขยันตั้งสติ ผลมันก็เลยไม่เกิด พอผลไม่เกิดมันก็เกิดความท้อแท้เบื่อหน่ายขึ้นมา ต้องแก้ด้วยการพยายามเจริญสติไปเรื่อยๆ อย่าท้อ ท้อก็ได้แต่อย่าถอย อย่าเลิก ต้องยอมรับว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องเจอกันทุกคน แต่ถ้าไม่ท้อ ไม่ถอย ไม่เลิก เดี๋ยวมันก็ได้เอง ทำไปเรื่อยๆ เดินไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึงจุดหมายปลายทางเอง ถ้าหยุดเมื่อไรไม่เดินเมื่อไรมันก็ไปไม่ถึง
การปฏิบัติมันก็มีอยู่แค่จุดนี้ จุดที่เราจะต้องพยายามทำไปให้ได้ ผลจะได้มากได้น้อยอย่าไปคาดอย่าไปหมาย เดี๋ยวมันจะท้อแท้ ทำมานิดเดียวมันก็คิดว่าทำมาตั้งเยอะไม่เห็นได้ผลเลย ผลมันก็อยู่ที่เหตุ ถ้าเหตุมันเยอะผลมันก็เยอะเอง ถ้าเหตุมันน้อยผลมันก็น้อย เหตุมันถูกหรือไม่ถูก ถ้าไม่ถูกมันก็ไม่มีผลเหมือนกัน ก็ต้องพยายามเท่านั้นแหละทำไปเรื่อยๆ.
ธรรมะบนเขา วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ สนทนาธรรม
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
|