นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 ม.ค. 2025 2:44 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: กรรมดีหรือกรรมชั่ว
โพสต์โพสต์แล้ว: ศุกร์ 13 พ.ย. 2015 9:22 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4804
อารมณ์วู่วามนั้น‬ หากบุคคลใดรู้ตัวก็ต้องถือว่าเป็นคนมีปัญญาแล้ว และหากถ้ามันเห็นว่าไม่มีประโยชน์มันก็จะวางไปเอง แต่ถ้าหากเห็นว่ามีประโยชน์มันก็วางไม่ได้ อย่างไรก็ตาม มันจะถึงกับฆ่าหรือตีเขาหรือไม่ ข้อนี้ก็เป็นส่วนที่จะต้องรู้อีก ถ้ามันหมายจะฆ่าจะตีเขาก็ส่อแสดงให้เห็นว่ามันยังมีกิเลสมากอยู่ เรื่องนี้เราต้องพิจารณา
•หลวงปู่หล้า เขมปัตโต•



การต่อสู้กิเลสไม่ใช่ของทำเล่น
สิ่งที่มารบกวนเป็นข้าศึกศัตรู ที่เราต้องรู้และตระหนักถึงมันอยู่
มันเกิดเวทนาขันธ์ขึ้นมา เจ็บปวดขึ้นมา
นั่นแหละมันเป็นข้าศึกหรือเป็นศัตรูแก่เรา ไม่ให้เราบรรลุคุณงามความดี
ให้เรารำลึกขึ้นมา ให้เราเห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะฉะนั้นท่านจึงให้ปล่อยวาง
หรือเจ็บขึ้นมาก็แยกออกจากกัน ท่านว่าความเจ็บไม่มีอยู่ที่ใจของเรา
ใจของเราไม่ใช่ความเจ็บ ความเจ็บไม่ใช่ใจของเรานะ
ใจของเราต่างหาก ใจของเรามีหน้าที่รู้เท่านั้น
เจ็บรู้ปวดรู้ ไม่เจ็บไม่ปวดก็รู้ นั่นใจของเรา
น้อมเข้ามาอยู่ในความสงบจิตนั้น เวทนาจะเข้าไม่ถึงใจของเรานั้น
ให้แยกออกจากกันแบบนี้ ไม่ว่ามันจะเจ็บจะปวด
เราก็พยายามแยกออก ให้รู้จักวิธีการแยกใจของเรา
ธาตุขันธ์เหล่านี้มันเจ็บ ให้เราพิจารณาแยกออก
ใจของเราไม่เจ็บ เป็นแต่เพียงรู้ว่ามันเป็นอยู่เท่านั้น
รู้อาการของธาตุขันธ์เท่านั้น ใจของเรารู้อยู่ตลอด
สิ่งเหล่านี้ไม่มีใครที่จะให้ว่างได้ มันรู้อยู่ตลอดเวลา ตื่นก็รู้หลับก็รู้อยู่อย่างนั้น
ให้เราน้อมเข้ามาอย่างนั้น อย่าส่งไปตามสัญญาอารมณ์
สัญญาเกิดที่ไหนก็ไปตาม อารมณ์มันเกิดที่ไหนก็ไปตาม
อย่าไปตามมัน ให้เรารู้อยู่ที่จุดนั้น
มันเกิดก็รู้ มันดับก็รู้อยู่อย่างนั้น ให้ทำอย่างนั้น
เราต้องพยายามฝ่าฟันเวทนานั้นให้มาก
มันจะเจ็บจะปวดขึ้นมาขนาดไหนก็ช่างมัน อดทนเอา...
คราวหน้าเวลาขันติความอดทนอันนี้มันมีความกล้าหาญขึ้นมา
มันก็กระเด็นออกจากกัน พอเมื่อเวลามันกระเด็นออกจากกัน
ความยึดความถืออันนั้นกระเด็นออกได้ มันไม่ยึดไม่ถือ มันก็ไม่มีอะไร
มีแต่ใจดวงเดียวดวงนี้ มันจะมีอะไรเกิดขึ้น
เวทนามันก็ไม่มีแล้ว สัญญาความจำได้หมายรู้มันก็ไม่มี มีแต่รู้อยู่เฉยๆ
รู้แล้วก็วิตกวิจาร พิจารณาสิ่งที่มันรู้นั่นแหละ ให้รู้จักความเป็นจริงของเขา
ว่าเราจะไม่ยึดไม่ถือ เพื่อเราจะได้ปล่อยวาง
ถ้าเราไม่รื้อถอน มันจะยึดมั่นถือมั่นอยู่นั่นแหละ
ถ้าเรารื้อถอนมัน ก็จะปล่อยวางอย่างนั้นแหละ
ข้อสำคัญให้ฝ่าฟันเวทนานั้น
มอบกายถวายชีวิตต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
"ร่างกายอันนี้ ข้าพเจ้าขอมอบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ข้าพเจ้าไม่ยึดไม่ถือ ขอแต่ว่าข้าพเจ้ารู้ธรรมเห็นธรรมเท่านั้น"
เอาอย่างนี้ อธิษฐานในใจนะ ขอให้ข้าพเจ้ารู้ธรรมเห็นธรรม
เมื่อเวลารู้ธรรมเห็นธรรมแล้ว มันไม่มีอะไรเลิก มีแต่สร้างบาปสร้างกรรมเท่านั้นเลิก

พระครูศาสนูปกรณ์ (หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล)



"..กรรมดีหรือชั่วถ้าได้ทำลงไปแล้ว
ถึงแม้คนอื่นจะไม่รู้เรื่องที่เราทำ
ตัวเรานั้นแหละรู้ตัวเองดีที่สุด
ถึงจะโกหกคนทั้งโลกได้
แต่เราจะโกหกความจริงไม่ได้
ปากคนเราพูดจริงพูดเท็จได้
แต่จิตไม่เคยบอกเท็จในเรื่องกรรม
พอตายไปแล้วยมบาลไม่ต้องถามให้ยาก
จิตเราที่บันทึกกรรมดีชั่ว
จะอธิบายบอกเล่าให้ฟังเอง.."
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 168 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO