นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 ม.ค. 2025 8:48 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
 หัวข้อกระทู้: การปล่อยวาง
โพสต์โพสต์แล้ว: จันทร์ 30 พ.ย. 2015 7:13 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4804
อยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร จะบังคับให้ไม่มีศัตรูเป็นได้ยาก การชนะศัตรูด้วยการต่อสู้มักจะเป็นการก่อเวร เรื่องต่างๆจึงไม่จบสิ้น มีวิธีเดียวที่จะชนะศัตรูทั้งปวงนั่นคือการเปลี่ยนความรู้สึกว่าเราเป็นศัตรูกับผู้ปองร้ายเรา ถ้าเราไม่ยอมมองใครเป็นศัตรูเราก็กลายเป็นคนไม่มีศัตรูทันที แล้วดำเนินชีวิตด้วยความรอบคอบและระวังตัวแต่ไม่เศร้าหมองใจ ท่ามกลางผู้ที่ทำให้ชีวิตท้าทายมากขึ้น
พระอาจารย์ชยสาโร



เมื่อเราเอาตัวเอง เป็นศูนย์กลางของจักรวาล
เราก็จะต้องทุกข์ทุกครั้ง
ที่สิ่งต่างๆ และคน ไม่ยอมโคจรรอบตนเอง

ความคิดอาฆาตพยาบาทจองเวรนี่ทำให้จิตใจเศร้าหมอง ให้หยาบคาย นั่นแหละคือผลกรรมที่ปรากฏทันที ผู้ที่ทำสิ่งใดทางกาย วาจา หรือใจ ด้วยอำนาจของกิเลส ชื่อว่ากำลังเบียดเบียนตัวเองอย่างยิ่ง เพราะถอยห่างออกไปจากความสุขที่แท้จริง นั้นคือวิบาก การทำบาปแต่ละครั้งคือทำให้บันไดที่เราต้องปีนขึ้น สูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง

การปฏิบัติธรรมเท่านั้นที่จะช่วยให้เราเป็นอิสระจากกิเลสได้ การทำบุญอย่างเดียว ไม่ปฏิบัติ ถึงจะทำให้มีสิ่งยึดเหนี่ยวอยู่ในใจบ้าง แต่มันไม่มั่นคง ลึก ๆ แล้วเราจะยังอยู่ในสภาพเดิม คือเคว้งคว้างอยู่เหมือนเรือเล็ก ๆ กลางทะเลอันกว้างใหญ่ มีเข็มทิศก็ใช้ไม่ค่อยเป็น มีสมอก็ไม่รู้จักทอด เอาแต่ประดับประดาเรือก่อนอับปาง ชาวพุทธเราควรสนใจวิธีอุดรู วิธีวิดน้ำบ้าง จะได้เราตัวรอดได้ หากไม่สนใจศึกษาเรื่องตัวเอง เข้าวัดแล้วสักแต่ว่าไหว้พระพอเป็นพิธี ทำบุญบำรุงวัดตามประเพณี แล้วออกไปชมต้นไม้บ้างก่อนกลับ ไม่ใช่ว่าไม่ดี ดีอยู่หรอก แต่ยังดีไม่พอ

การจะฆ่ากิเลสหรือนิวรณ์นั้นต้องเข้าใจคำว่า “ฆ่า” นั้นว่าหมายถึง การรู้เท่าทัน ฆ่าด้วยการรู้เท่าทัน

การภาวนาคือ การลดความโง่ของตัวเอง ผู้ที่หาว่าไม่มีเวลาภาวนา คือผู้ที่ถือว่าไม่มีเวลาลดความโง่ของตัวเอง

การที่จะรอให้สิ่งที่มายุ่งสงบลงก่อน จึงจะปฏิบัติธรรม
ก็เหมือนกับว่า เราจะรอให้ทะเลหมดคลื่นก่อน
เราจึงปฏิบัติธรรม มันไม่หมดหรอก
ความสงบ คือ ความพร้อมที่จะปฏิบัติ
ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งภายนอก
แต่ขึ้นอยู่กับศรัทธาภายในจิตในใจของเรา
นี่แหละ คือ การปฏิบัติธรรม

ถ้าคิดว่า คนอย่างเราๆ คงไม่มีวาสนา
จะพัฒนาตัวเองบรรลุธรรม หรือตัดกิเลสได้หรอก
นั่นไม่ใช่แค่เถียงพระนะ เถียงพระพุทธเจ้าเลย

พวกเราชอบอ้างบุญ อ้างบารมีอยู่เรื่อย เพื่อเป็นการแก้ตัว บางคนก็อ้างว่าบุญหรือบารมีที่จะภาวนาก็ไม่มี ทำไมเรามีแต่บุญมีแต่บารมีเพื่อทำความชั่ว ทำไมเราไม่มีบุญบารมีเพื่อทำความดีบ้าง บุญบารมีทำความชั่วเห็นเรามีทุกคนตลอดเวลา ทำไมเราไม่มีบุญบารมีทำความดี นั่นต้องถามตัวเองอย่างนี้

ถึงแม้ว่าการปฏิบัติของเรานั้น ยังไม่ถึงขั้นที่ว่า “การปฏิบัติชอบ” ก็อย่างน้อยที่สุด ขอให้เรา “ชอบปฏิบัติ” เสียก่อน

ครูบาอาจารย์ท่านสอนเรื่องการปล่อยวาง
แต่การปล่อยวางนั้นไม่ใช่การปล่อยทิ้งหน้าที่ของเรา
แต่หมายถึงการปล่อยวางความหวังในผลของการกระทำ
ไม่ใช่การปล่อยวางในการสร้างเหตุในการกระทำ

อยากทำ ไม่ถือว่าเป็นกิเลส อยากได้ผลของการกระทำ นั่นแหละคือกิเลส การอยากทำความดีก็ไม่เป็นกิเลส ขอให้ทำมากๆ แต่ถ้าเราอยากได้ผลของการทำความดี นั่นแหละจะเป็นเหตุให้เราต้องทุกข์

ชยสาโร



วัฏฏะนี้‬ มันจะเกิดโดยวิธีนี้ คือ มันติดภพอันนั้นอยู่ มันอาศัยภพนั้นอยู่ มันจะพลอยไปดีใจในที่นั้น นี้ก็คือความเกิด มันจะพลอยไปเสียใจในที่นั้น นี่คือความเกิด นี่มันวางยังไม่ได้ มันเป็นตัววัฏฏะทั้งนั้นแหละ สํสาเร ทุกฺขํ ทุกข์ในสงสาร มันก็เป็นไปตามวัฏฏะ อันนี้ให้ไปคิดให้ไปพิจารณาดู อะไรที่เรายึดว่านั่นเรานั่นของเรา นั่นแหละเป็นภพทั้งนั้น เห็นง่าย ๆ ภพนั้นมีไว้เพื่อจะเกิด อุปาทานนี้มีไว้เพื่อจะเกิดนั่นแหละ พระพุทธเจ้าท่านว่ามีอะไรก็อย่าให้มันมี ให้มันมี แต่อย่าให้มันมี ให้รู้จักว่ามีหรือไม่มีนั้นมันเป็นอย่างไร ให้รู้เรื่องตามความจริงของมัน อย่าให้มันเกิดทุกข์
ภพที่เราเกิดมานี้นะ มันอยากไปเกิดอีกใช่ไหม พระเณรเราทุกคนเคยเกิดมาจากไหนล่ะ ที่ไหนที่เราเกิดมาเคยรู้ไหม เราอยากจะเข้าไปอีกใช่ไหม ตรงนั้นนะนี่ ดูซิ ทุกคนเตรียมตัวทั้งนั้น มันเกิดมาจากตรงไหน มันก็จะเข้าไปตรงนั้นแหละ จวนจะออกพรรษาแล้วมันเตรียมตัวจะไปเกิดตรงนั้น อย่างนั้นมันน่าจะเห็น มันน่าจะรู้นะว่าถ้าไปเกิดตรงนั้น มันจะเป็นอย่างไรนะ ตัวขนาดนี้ไปอยู่ในท้องของคนมันจะอยู่ยากลำบากแค่ไหน ดูซิ ให้เราอยู่ในกุฏิสักวันหนึ่งก็พอแล้วปิดประตูหน้าต่างไว้อึดอัดเต็มทีแล้ว จะไปอยู่ในนั้นสัก ๑๐ เดือน ๙ เดือน ลองคิดดูซิ อย่างนั้นก็ยังไม่เห็นโทษของมันว่าเราอยู่อย่างไร ว่าชาติมันเป็นทุกข์อย่างไร ก็ไม่รู้เรื่อง ยังอยากจะดันเข้าไปอยู่ในนั้นอีกหรือ ทำไม มันน่าจะเห็นแต่ว่ามันไม่เห็น

•หลวงพ่อชา สุภัทโท•


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 122 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO