นวรัตน์ดอทคอม

รวบรวมสาระความรู้เกี่ยวกับวัตถุมงคล-เครื่องรางของขลัง

  • Increase font size
  • Default font size
  • Decrease font size
วันเวลาปัจจุบัน พฤหัสฯ. 16 ม.ค. 2025 8:48 pm

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


Switch to mobile style


โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 
เจ้าของ ข้อความ
โพสต์โพสต์แล้ว: อังคาร 29 ธ.ค. 2015 8:11 am 
ออฟไลน์

ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 07 มิ.ย. 2009 7:24 pm
โพสต์: 4804
จะปฏิบัติธรรมอย่างไร คนเราไม่รู้จัก นึกว่าการเดินจงกรม นึกว่าการฟังธรรม นึกว่าการนั่งสมาธิ เป็นการปฏิบัติ นั่นเป็นส่วนน้อย ก็จริงอยู่ แต่มันเป็นเปลือกของมัน การปฏิบัติจริงๆ ก็ปฏิบัติเมื่อประสพกับอารมณ์ นั่นแหละการปฏิบัติ แล้วที่มันประสพอารมณ์ อยู่นั้น เช่นมีอะไร มีคนมาพูดไม่ถูกใจนะ เราเป็นทุกข์ขึ้นมา ถ้าคนพูดให้ถูกใจเรา เราก็เป็นสุข ตรงนี้แหละ ตรงที่จะปฏิบัติ

เราจะปฏิบัติอย่างไร อันนี้สำคัญ ถ้าเราไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์ มัวไปวิ่งกับสุข ไปวิ่งกับทุกข์อยู่นั่น จะวิ่งตลอดจนถึงวันตายก็ไม่พบธรรมะ นี่ก็อยู่ไม่ได้ เมื่อรู้จักสุขทุกข์ ทั้งสองนี้ขึ้นมาเมื่อไร เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไรโดยธรรมะ นี่คือการปฏิบัติ

โดยมากคนที่ได้ของที่ไม่ชอบใจ ไม่อยากจะพิจารณา อย่างคนนินทาว่าเรา "อย่ามาว่าฉัน มาว่าฉันทำไม" นี่คือคนปิดตัวไว้ ตรงนั้นแหละต้องปฏิบัติ ถ้าเขาว่าเราไม่ดี เขานินทาเรานี่ควรฟัง "เขาว่าถูกหรือผิดอะไรหนอ" ไม่ดีตรงไหน เราควรรับฟังไม่ต้องปิด ปล่อยเข้ามาให้ดูไว้ บางทีก็มีนะ ที่เราไม่ดีนั่นน่ะ เขาว่าถูก ยังไปโทษเขาอีก นี่ทีนี้เรามาดูตัวเรา เราเห็นที่ไหน มันไม่ค่อยดี เราก็เขี่ยมันออกเสีย เขี่ยโดยไม่ให้ใครรู้จักนั่นแหละ เขี่ยสิ่งที่ไม่ดีออกเสีย มันก็ดีขึ้นมาอีก นี่คือคนมีปัญหา

สิ่งที่มันวุ่นวาย สิ่งที่มันไม่สงบอยู่ ตรงนั้นแหละมันเป็นเหตุสิ่งที่สงบอยู่ ก็ตรงนั้นเอง เราเอามันแทนที่เข้าไปที่มันไม่สงบนั่นไง นี่บางคนไม่รับฟัง ทิฐิมันแรง เราทำอย่างนั้นจริงๆ ก็ไปเถียงเขาอีกนะ ยิ่งกับลูกเราแล้ว ความเป็นจริงบางอย่างมันถูกของเขา แต่เราเข้าใจว่า เราเป็นแม่เขา ไม่ยอมมัน อย่างนี้ก็มี อย่างเราเป็นครูคนนี่ บางทีลูกศิษย์นะ เขาพูดถูก แต่ว่าเราไม่ยอมมัน ทำไม เพราะว่าเราเป็นครูเขา เขาจะเถียงเราได้อย่างไร นี่คืออย่างนี้ มันคิดไม่ถูก

ในครั้งพุทธกาล มีสาวกองค์หนึ่ง ท่านมีปัญญามากพระพุทธเจ้าก็เทศน์ธรรมะให้ฟัง เทศน์ไปเรื่อยๆ ท่านก็ฟังไปเรื่อยๆ พระพุทธเจ้าถามว่า

"ท่านพระสารีบุตร ท่านฟังธรรมนี้ ท่านเชื่อไหม" "เกล้ากระผมยังไม่เชื่อ" พระพุทธเจ้าชอบใจเลย "เออ ! ดีแล้ว ท่านมีปัญญา คนที่มีปัญญาไม่ควรเชื่อง่าย ต้องรับอันนี้ไปพิจารณาดูเหตุผลกันก่อนจึงเชื่อ" นี่แหละ ธรรมที่เป็นครูสอนคนอย่างดีทีเดียว คือความเป็นจริงมันถูกของท่าน พระสารีบุตร ที่ท่านพูด ท่านเอาใจจริงมาพูดให้ฟังเลย บางคนก็ว่า ถ้าจะพูดว่าไม่เชื่อ ก็ดูเหมือน จะฝ่าฝืนอำนาจพระพุทธเจ้า กลัว ก็เลยกลัวในสิ่งที่ไม่ควรกลัว ก็เลยว่าถูกตามกันไปหมด นี่โลกของเรา มันเป็นอย่างนี้ พระพุทธเจ้าของเราตรัสว่า สิ่งที่ไม่ผิด ไม่เป็นบาป ไม่ต้องอายเลย เพราะเรายังเชื่อไม่ได้ เราพิจารณาไม่ได้ เรายังไม่เชื่อ พระสารีบุตรจึงพูดว่า "ข้าพระพุทธองค์ยังไม่เชื่อ " พระพุทธเจ้าชอบใจ "องค์นี้มีปัญญามาก ให้ไตร่ตรองดูเหตุดูผลก่อนจึงเชื่อ" พระสารีบุตรนี้มีปัญญา อันนี้เป็นคติของผู้ที่เป็นครูเป็นอาจารย์ ของคนเป็นอย่างดี บางทีความรู้เราได้จากเด็กๆ ก็มีนะ เราอย่าไปถือไปยึดมั่นอะไรทั้งหลาย

ที่เราเกิดมา จะยืน จะเดินไปมา จะนั่งที่ไหน เวลานั้นเรียกว่าเราศึกษาทุกอย่าง เราศึกษาตามธรรมชาติ รูปก็ดี เสียงก็ดี กลิ่นก็ดี รสก็ดี โผฏฐัพพะก็ดี เราต้องฟัง ต้องรับฟัง คนมีปัญญาต้องรับฟังข้อประพฤติปฏิบัตินั้น ก็ท่านปฏิบัติให้มันหมดเรื่อง ถ้าเรามีความชอบใจ ไม่รู้เท่าความชอบใจ ไม่รู้เท่าความไม่ชอบใจ นี่เรายังมีเรื่อง ถ้าเรารู้เท่ามันแล้ว ความชอบใจ ความสุขนี้ก็ไม่มีอะไร สักแต่ว่าความรู้สึกแล้วมันก็หายไป ไม่ชอบใจนี้ ก็ไม่มีอะไรมากมาย สักแต่ว่าความรู้สึกเท่านั้น แล้วมันก็หายไป จะเอาอะไรกับมันเล่า ถ้าเรานึกว่าสุขนั้นเป็นของเรา ทุกข์นั้นเป็นของเรา มันก็ทุกข์ยากลำบากไปเท่านั้นแหละ มันหมดเรื่องจบเรื่องไม่ได้ ปัญหาอันนี้ มันก็เกิดต่อๆ ไปเรื่อยๆ นี่มันเป็นเช่นนี้ หลักความจริงมันก็เป็นเช่นนี้...
‪#‎หลวงปู่ชา‬




“ทำบุญเจาะจงกับทำบุญไม่เจาะจง”

ถาม : การทำบุญถ้าเลือกที่จะทำบุญเฉพาะกับพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีเท่านั้น จะบาปไหมคะ

พระอาจารย : การทำบุญนี้ก็มี ๒ ลักษณะด้วยกัน ทำบุญเจาะจงกับทำบุญไม่เจาะจง เหมือนกับไปเติมน้ำมันตามปั๊มต่างๆเราก็อาจจะเลือกปั๊มเติมหรือไม่เลือกปั๊มเติมก็ได้ ที่เราเลือกปั๊มเพราะว่าปั๊มนี้อาจจะมีของแจก มีของชิงโชค เราก็จะได้ของแถมนอกจากน้ำมันแล้ว เราก็จะได้ของแถมของแจกด้วย บางปั๊มถ้าปั๊มไหนไม่มีของแจกเราก็ไม่ไปเติม ถ้าเราต้องการของแจก

ฉันใดการทำบุญที่เราเลือกกับไม่เลือกก็เหมือนกัน ถ้าเราทำบุญแบบไม่เลือกเราก็จะได้น้ำมันเติมให้กับใจคือบุญ ความสุขใจเพียงเดียว แต่ถ้าเราต้องการของแถม เช่นต้องการธรรมะคำสอนต้องการฟังเทศน์ ฟังธรรม เราก็ต้องไปหาพระที่เทศน์เป็นแสดงธรรมเป็น ถ้าไปทำบุญกับพระที่เทศน์ไม่เป็นก็จะให้พรแล้วก็จบ ถวายสังฆทานเสร็จก็กรวดน้ำ ยะถา สัพพี แล้วก็ไล่กลับบ้าน

แต่ถ้าเป็นพระที่ท่านเทศน์ท่านสอนเป็น ท่านก็จะแสดงธรรมให้เราฟังๆ แล้วดีไม่ดีเราก็จะได้บรรลุเป็นโสดาบันไปเลยก็ได้ด้วยการฟังธรรม ดังนั้นอยู่ที่ว่าเราต้องการอะไรในการทำบุญ ถ้าเราต้องการบุญอย่างเดียวไม่ต้องการฟังธรรม ทำที่ไหนก็ได้ ปล่อยนก ปล่อยกาก็ได้บุญเหมือนกัน

ธรรมะบนเขา วันที่ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๕๗

“เพียรเจริญมรรค”

พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต





กิเลสตัณหาเหมือนกับห้วงน้ำในมหาสมุทร
บุคคลผู้ไม่มีความพากเพียร พยายามละ
เหมือนกับบุคคลตกลงไปแล้วไม่พยายามแหวกว่าย
ก็จมน้ำตาย หากปล่อยใจให้กิเลสครอบงำ
ก็ย่อมเอาตัวรอด ออกจากทุกข์ไม่ได้

~หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ~




สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยงมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา‬ มีลาภเลื่อมลาภ มียศเสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์ โลกธรรมทั้ง 8 นี้ต่างก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป โบราณจึงบอกว่า "เมื่อเจอเรื่องดีใจก็ให้ยิ้มเพียงมุมปากเดียว อย่าถึงกับหัวเราะฮา ๆ ไม่อย่างนั้นถึงคราวพบเรื่องเสียใจจะต้องร้องไห้โฮ ๆ" และเมื่อเราพบความยากลำบากก็ขอให้อย่าท้อถอย ถือคติว่า "ยิ่งมืดยิ่งดึก ยิ่งดึกยิ่งใกล้สว่าง" กัดฟัน ทำงานค่อย ๆ แก้ปัญหาไป ทีละเปลาะด้วยใจที่เยือกเย็น มั่นคง ยึดมั่น ความดี ‪#‎มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง‬ สุดท้ายปัญหาก็จะคลี่คลายไป เรื่องร้ายจะกลายเป็นดีในที่สุด




กาเยน วาจาย จ โยธ สญฺญโต
มนสา จ กิญฺจิ น กโรติ ปาปํ
น อตฺตเหตุ อลิกํ ภณาติ
ตถาวิธํ สีลวนฺติ วทนฺติ

ผู้ใดสำรวมในโลกนี้...
สำรวมทางกาย... วาจาและใจ
ไม่ทำบาปอะไรๆ... และไม่พูดพล่อย

เพราะเหตุแห่งตน...
ท่านย่อมเรียกคนเช่นนั้นว่า " ผู้มีศีล "





"..มาเถิดมา ลูกเอ๋ย หลานเอ๋ย
ที่นี่ไม่มีวุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง รีบมาเถิด

คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท คล้ายๆ กับว่า
พระบรมศาสดาเรียกอยู่ทุกวัน
เรียกลูก ๆ หลาน ๆ ให้เข้าสู่พระนิพพาน

ที่นั้นเป็นที่วุ่นวาย ที่นั้นเป็นที่ขัดข้อง
ที่นี่ไม่วุ่นวาย ที่นี่ไม่ขัดข้อง

คือ ที่จิตที่ใจขององค์ท่านไม่มีหลง
เรียกว่าไม่วุ่นวาย เรียกว่าไม่ขัดข้อง
เป็นธรรมะอันไม่ตาย

คำสอนแต่ละบท แต่ละบาท
เรียกเข้าสู่พระนิพพานทั้งนั้น

ไม่ได้เรียกให้คิด
ไม่ได้เรียกร้องให้ติดอยู่ในมนุษย์สมบัติ
สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ

ให้เห็นโทษในมนุษย์สมบัติ
สวรรค์สมบัติ พรหมสมบัติ
เพราะอยู่ใต้อำนาจอนิจจัง

เกิดขึ้นแล้วก็แปรปรวน และแตกสลาย

ไม่มีใครเป็นเจ้า เป็นจอมเป็นจริงอยู่
ไม่มีกลางวันกลางคืนอีกด้วย
ไม่ลงธรรมาสน์อีกด้วย
ไม่จบเกษียณอีกด้วย.."

.............................
โอวาทธรรมคำสอน...
องค์หลวงปู่หล้า เขมปัตโต



เมื่อใจเราถึงคุณพระ พระย่อมรักษา
ยังมีชีวิตอยู่พระก็รักษา

ตายไปแล้วพระก็ตามรักษาให้ไปในที่สุขสบาย
พระนั้นก็คือ จิตใจของเราที่ภาวนา พุทโธ พุทโธ อยู่นี่เอง

(หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร)



" ลักษณะหนทางแห่งความหมดจด "

ทางมีองค์แปด
เป็นทางอันประเสริฐกว่าทางทั้งหลาย.

บทแห่งอริยสัจสี่
ประเสริฐกว่าบททั้งหลาย.
วิราคธรรม ประเสริฐกว่าธรรมทั้งหลาย.

ผู้มีพุทธจักษุประเสริฐกว่าสัตว์สองเท้าทั้งหลาย.
นี่แหละทางเพื่อความหมดจดแห่งทัสสนะ ทางอื่นมิได้มี.

เธอทั้งหลาย !!
จงเดินตามทางนั้น อันเป็นที่หลงแห่งมาร

เธอทั้งหลาย !!
เดินตามทางนั้นแล้ว จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
ทาง เราบอกแล้วแก่เธอทั้งหลาย เพื่อการรู้จักการถอนซึ่งลูกศร
ความเพียรเป็นกิจอันเธอทั้งหลายพึงกระทำ

ตถาคตทั้งหลายเป็นเพียงผู้บอก
ผู้มุ่งปฏิบัติแล้วย่อมพ้นจากเครื่องผูกแห่งมาร.

เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า
“สังขารทั้งหลายทั้งปวงไม่เที่ยง”
เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.

เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า
“สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์”;
เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.

เมื่อใด บุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า
“ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา”
เมื่อนั้น เขาย่อมเบื่อหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์
นั่นแหละเป็นทางแห่งความหมดจด.

ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐.

ขอเชิญร่วมบุญ สร้างพระอุโบสถและพระวิหารทั่วไทย
มากกว่า 116 วัด
https://www.facebook.com/permalink.php? ... ry_index=0



ขอเชิญร่วมบุญหล่อพระประธาน
https://www.facebook.com/photo.php?fbid ... 808&type=3




ขอเชิญร่วมบุญช่วยชีวิตสัตว์ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตั้งแต่บัดนนี้ถึง 1 ม.ค.59
Tel 0959146965




พระอาจารย์สลาม เตชพโล สำนักปฏิบัติธรรมพุทธบูชา ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา จากรายการพุทธบูชา แจ้งข่าวรายการงานบุญดังนี้
1. เจ้าภาพไถ่ชีวิตกระบือ ในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ จำนวน 2 ตัว ตัวละ 20,000 บาท หรือร่วมทุนสามัคคี ทุนละ 1,000 บาท
2. เจ้าภาพสร้างถนนทางขึ้นอุโบสถ วัดใหม่ลาดอุดม อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา งบประมาณ 100,000 บาท กองทุนละ 300 บาท
ร่วมบุญกับ พระอาจารย์สลาม เตชพโล
โทร 081-789-4230



ขอเชิญสร้างพระเจดีย์ ของวัดนามะตูม อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
https://www.facebook.com/media/set/?set ... 740&type=3


ข้างบน
 ข้อมูลส่วนตัว  
 
แสดงโพสจาก:  เรียงตาม  
โพสต์กระทู้ใหม่ กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 123 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ไปที่:  
ขับเคลื่อนโดย phpBB® Forum Software © phpBB Group
Thai language by phpBBThailand.com
phpBB SEO