นิทานหลังโบสถ์ เรื่อง คิดบวก
หญิงแก่คนหนึ่ง ส่องกระจกในตอนเช้า เห็นผมเหลืออยู่เพียงสามเส้นบนศีรษะ เธอใช้โยนิโสมนสิการ คือการรู้เท่าทัน ธรรมดาของการชราภาพ แล้วจึงพูดกับ ตัวเองว่า
“วันนี้ฉันจะถักผมเปีย” เธอก็ใช้ชีวิตในวันนั้นอย่างมีความสุข
หลายวันต่อมา เธอส่องกระจกพบว่าเหลือผมเพียงสอง เส้น เธอพูดกับตัวเองว่า
“วันนี้ฉันจะแสกกลาง” เธอก็ใช้ชีวิตในวันนั้นอย่างมีความสุข
สัปดาห์หนึ่งผ่านไป เธอเหลือผมเพียง เส้นเดียว เธอพูดกับตัวเองว่า
“อืม...วันนี้ฉันจะไว้ผมแกละ” เธอก็ใช้ชีวิตในวันนั้นอย่างมีความสุข
วันรุ่งขึ้น เธอส่องกระจกเห็นว่าศีรษะของตัวเอง ไม่เหลือผมสักเส้น เธอพูดกับตัวเองว่า
“ในที่สุดก็ล้านจนได้ ดีจริงๆ ต่อไปนี้ ไม่ต้องเสียเวลาว่าจะทำผมทรงอะไร อีกแล้ว” ...........................................
ธรรมทั้งหลายตกอยู่ในไตรลักษณ์ มี ทุกขา อนิจจา อนัตตา ทั้งสามนี้
ทุกขัง ชาติ ความเกิดมาเป็นทุกข์ อนิจจัง มันไม่เที่ยงมันแปรเป็นอื่น อนัตตา ไม่ใช่ตัวตน บอกมันไม่ฟัง
บอกไม่ให้มันแก่ มันก็แก่ บอกไม่ให้ฟันหลุด มันก็หลุด บอกไม่ให้ผมหงอก มันก็หงอก บอกว่าหนังอย่าเหี่ยว มันก็เหี่ยว
ผลที่สุดท้าย ก็นอนตายทับถมแผ่นดิน ส่วนดินก็ไปเป็นดิน ส่วนน้ำก็ไปเป็นน้ำ ลมก็ไปเป็นลม เหลือแต่ดวงจิตนี้เท่านั้น
หลวงปู่ขาว
เรื่อง "นาบุญ"
" .. ผู้ทรงศีลด้วยความบริสุทธิ์ ก็เท่ากับว่า นานั้นมีคันนา ฝนตกลงมาน้ำก็ขัง เอาปุ๋ยใส่มันก็ขัง ถ้าใครไม่มีศีลบริสุทธิ์ ก็เท่ากับนาไม่มีหัวคันนา ฝนตกลงมา น้ำในนาไหลหนีหมด ใครจะไปหว่านปุ๋ยก็ไม่อยู่ เมล็ดข้าวก็ไม่อยู่ .. "
(ท่านพ่อลี ธัมมธโร) วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
ธรรมะก่อนนิทรา : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ข้อที่ควรปฏิบัติเป็นขั้นที่หนึ่ง : บทนำ
บัดนี้ จักแสดงธรรมะเป็นเครื่องอบรมในการปฏิบัติอบรมจิต ในเบื้องต้นก็ขอให้ทุกๆ ท่านตั้งใจนอบน้อมนมัสการ พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ตั้งใจถึงพระองค์พร้อมทั้งพระธรรมและพระสงฆ์เป็นสรณะ ตั้งใจสำรวมกายวาจาใจให้เป็นศีล ทำสมาธิในการฟัง เพื่อให้ได้ปัญญาในธรรม
จิตตภาวนาการอบรมจิต หรือกรรมฐาน ทั้งที่เป็นฝ่ายสมาธิหรือสมถะ ทั้งที่เป็นฝ่ายปัญญาหรือวิปัสสนา เป็นข้อที่ทุกๆ คนควรฝึกปฏิบัติโดยมีศีลเป็นภาคพื้น และหลักปฏิบัติที่นิยมปฏิบัติกันอยู่ทั่วไป ก็คือหลักปฏิบัติในสติปัฏฐานทั้ง ๔ ที่ได้เริ่มสวดและเริ่มแสดงสำหรับในพรรษากาลนี้ตั้งแต่เมื่อวานนี้.
".. คำว่า "มีธรรมะ" นี้ก็คือ จะทำอะไรก็ตาม จะพูดอะไรก็ตาม
ให้ทำด้วยปัญญา ให้พูดด้วยปัญญา ให้นึกคิดด้วยปัญญา
ผู้ใดมีสติ สัมปชัญญะ ควบคู่กับปัญญาอยู่ตลอดเวลาแล้ว
ผู้นั้นย่อมอยู่ใกล้พระพุทธเจ้าทุกเมื่อ.."
........................................ โอวาทธรรมคำสอน.. พระโพธิญาณเถร
"...คุณจะจนหรือจะรวย ก็ขึ้นอยู่กับว่า คุณยังอยากได้อีกเท่าไหร่ถึงจะรวย
คุณมีแสนล้าน คุณอยากได้อีกแสนล้าน คุณก็จนแสนล้าน คุณมี หนึ่งร้อย คุณไม่ขาด คุณไม่อยาก คุณก็รวย.."
...พระญาณวิสาลเถร (หา สุภโร) วัดสักกะวัน(ภูกุ้มข้าว) ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธุ์ จ.กาฬสินธุ์.
|