หิวกามจนตาย
เหมือนบุรุษหนึ่ง หิวน้ำจัด เพราะเดินทางไกลมา ขอน้ำกิน เจ้าของน้ำก็บอกว่าน้ำนี้จะกินก็ได้ สีมันก็ดี กลิ่นมันก็ดี รสมันก็ดี แต่ว่ากินเข้าไปแล้ว มันเมานะ บอกให้รู้เสียก่อน เมา จนตาย หรือเจ็บเจียนตายนั่นแหละ
แต่บุรุษผู้หิวน้ำ ก็ไม่ฟัง เพราะหิวมาก เหมือนคนไข้หลังผ่าตัด ที่ถูกหมอบังคับให้อดน้ำ ก็ร้องขอน้ำกิน คนหิวในกามก็เหมือนกัน หิวในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส ล้วนเป็นพิษ พระพุทธเจ้าทรงบอกไว้ว่า รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ นั้นมันเป็นพิษ เป็นบ่วง ก็ไม่ฟังกัน
หลวงพ่อชา สุภทฺโท
"....การทำสมาธิก็ต้องให้มันสม่ำเสมอ การทำวิปัสสนา ก็คือการทำสมาธินั่นเองแหละ บางแห่งเขาก็ว่า บัดนี้เราทำสมาธิ ต่อไปเราจึงจะทำวิปัสสนา บัดนี้เราทำสมถะเป็นต้น อย่าให้มันห่างกันอย่างนั้นสิ
สมถะนี้แหละ คือบ่อเกิดของปัญญา ปัญญานี้ก็คือผลของสมถะ
จะไปถือว่าบัดนี้เราทำสมถะ ต่อไปเราจะทำวิปัสสนาอย่างนั้น มันแยกกันไม่ได้หรอก มันจะแยกกันได้ก็แต่คำพูด
เหมือนกับมีดเล่มหนึ่งนะคมมันก็อยู่ข้างหนึ่ง สันมันก็อยู่อีกข้างหนึ่ง นั่นแหละ มันแยกกันไม่ได้หรอก ถ้าเราจับด้ามมันขึ้นมาอันเดียว เท่านั้น มันก็ติดมาทั้งคมทั้งสันนั่นแหละ ความสงบนั้นมันก็ให้เกิดปัญญาในตรงนั้น.."
หลวงพ่อชา สุภัทโท
"..อาจารย์องค์หนึ่งของผมฉันอาหารเร็วมาก และฉันเสียงดัง แต่ท่านสอนให้พวกเราฉันช้าๆ และฉันอย่างมีสติ ผมเคยเฝ้าดูท่าน และรู้สึกขัดเคืองใจมาก ผมเป็นทุกข์ แต่ท่านไม่ทุกข์เลย
ผมเพ่งเล็งแต่ลักษณะภายนอก ต่อมา ผมจึงได้รู้ บางคนขับรถเร็วมากแต่ระมัดระวัง บางคนขับรถช้าๆแต่มีอุบัติเหตุบ่อยๆ อย่ายึดมั่นถือมั่นในกฏระเบียบ และรูปแบบภายนอก ถ้าท่านใช้เวลาอย่างมากเพียง 10% มองดูผู้อื่น แต่เฝ้าดูตัวเอง 90 % อย่างนี้เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้ว.."
หลวงพ่อชา สุภทฺโท
|