ละชั่วทำความดี

[รสมน]

ความจริงก็เรามันไม่ดีเอง ถ้าเราดีอะไรมันก็ดีทั้งนั้น มันขึ้นอยู่กับเรา เอาอันนั้นมาประดับก็เท่าเดิม เอาอันนี้มาตกแต่งก็เท่าเดิม ถ้าใจไม่ดี ใจไม่มีเหตุมีผลเสียอย่างเดียว ต่อให้เอาสมบัติสิ่งของทั้งโลกมาปรนปรือ ก็เท่ากับเอาดอกไม้ไปบูชาขี้หมานั่นแล จะผิดกันอะไร ถ้าใจมีเหตุมีผลเสียอย่างเดียวอะไรๆ ก็ดีทั้งนั้น สิ่งต่างๆ ที่เรานำมาใช้จนถึงอายุขัยของมันแล้วจึงทิ้งไป ด้วยเหตุผลว่าใช้ไม่ได้แล้ว ก็ให้ทราบตามความเหมาะสมว่าใช้ไม่ได้ อย่าให้กิเลสตัณหาความทะเยอทะยานมันบอกว่าใช้ไม่ได้ ใช้เพียงเดือนสองเดือน ผ้าก็ยังไม่เก่าแต่ใช้ไม่ได้มันไม่ทันสมัย ไปหามาเรื่อยให้ทันสมัย กว่าจะทันสมัยเจ้าของตายเสียก่อนและฉิบหายไปก่อนแล้ว แล้วเมื่อไรที่เป็นเวลาทันสมัย ไม่เคยทันสมัยเลยถ้าทำตามอำนาจของกิเลส เพราะความบกพร่องไม่มีอะไรเกินกิเลส มันมีความสมบูรณ์เมื่อไรขึ้นชื่อว่ากิเลส อยากตลอดเวลา หิวโหยตลอดเวลา ทั้งหลับตื่นลืมตา"


หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน




"...นิพพานดูเหมือนจะเป็นสิ่งมืดมิด ลี้ลับเข้าใจไม่ได้ เเละเป็นธรรมะสูงสุดเอื้อม

เเต่ความจริงเเล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะธรรมะทั้งหลายนั้น ที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน ล้วนประกอบด้วยลักษณะ๓ประการคือ

รู้ได้ มีเหตุผลที่อาจตรองตามได้ ปฎิบัติได้จริง เเละนิพพานก็เป็นธรรมะข้อหนึ่งที่ตรัสสอนไว้

จึงเป็นธรรมะที่รู้ได้ มีเหตุที่อาจตรองตามได้เเละเป็นธรรมะที่รู้ได้ มีเหตุที่อาจตรองตามได้ เเละปฎิบัติให้บรรลุได้..."

คติธรรม สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก




“ทางพระสอนให้ละชั่ว ทำความดี แต่ไม่ให้ติดอยู่ในความดีให้บำเพ็ญจิตให้ยิ่งขึ้น จนไม่ติดดีติดชั่วจึงจะพ้นโลกนี้ไปได้ เพราะแม้คุณความดีจะส่งผลให้เป็นสุข ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เป็นเทพ อินทร์ พรหม ก็ตาม แต่เมื่อกำลังของกุศลกรรมความดีนั้นๆ หมดลง ก็ย่อมต้องกลับเวียนว่ายตายเกิดอีก
ทางพระจึงสอนให้มุ่งภาวนา ทำจิตให้ รวม ระวัง ตั้งมั่นทำจิตให้มีปัญญารู้ตามความจริงด้วยตนเอง จนถอดถอนอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นต่างๆออกเสีย จึงจะเป็นไปเพื่อความสิ้นภพสิ้นชาติ หมดทุกข์หมดยากโดยแท้จริง”
โอวาทธรรมหลวงปู่สิม พุทธาจาโร





"...หัวข้อใจความในพระพุทธศาสนา คือกายกับใจนี้

เป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธศาสนา

เป็นที่ตั้งแห่งคุณพระพุทธเจ้า

เป็นที่ตั้งแห่งพระธรรม

เป็นที่ตั้งแห่งพระสงฆ์

เป็นที่ตั้งแห่งมรรคและผล..."

โอวาทธรรมคำสอน..
องค์หลวงปู่ฝั้น อาจาโร




พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่า
" ปฏิบัติบูชาเป็นบูชาอย่างเลิศสูงสุด "
คือปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์
เป็นการบูชาอย่างถูกพระทัย
และเป็นการสนองพระคุณพระพุทธเจ้าอย่างสูงสุด.
ธมฺมวิตกฺโก ภิกฺขุ