พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
พฤหัสฯ. 01 ก.ย. 2016 5:16 am
" ทำบุญอย่ามักง่าย ขี้ข้างทางมันเหม็น ทำหยาบ ๆ ก็ได้บุญหยาบ ๆ ทำประณีตก็ได้บุญละเอียด ไม่ใช่ทำบุญแบบรีบ ๆ ไม่เตรียมตัว หาซื้อแต่ถังสังฆทานข้างทางโดยไม่เลือก เคยเปิดดูหรือไม่ว่าข้างในมีอะไร หาแต่กระดาษหนังสือพิมพ์ส่งไปให้เขา คนรับเขาจะได้รับอานิสงส์ผลบุญอะไร ให้เขากินหนังสือพิมพ์บ้อ อยากถวายอะไรเราก็เลือกซื้อใส่ถุงนำไปถวายพระท่านเลย งานศพก็อย่าไปหาบูชาผ้าไตรบังสุกุลจากที่วัด ห้ามเลย ไปแย่งทั้งพระแย่งทั้งคนตาย ญาติพี่น้องเขาทำบุญถวายพระให้คนตายแล้ว ไปแย่งเขามา พระก็ไม่ได้ใช้ ไปแย่งกันถึงสวรรค์ถึงนรก อย่าพากันหลงเป็นบ้า ให้ซื้อใหม่ตามกำลัง จะทำบุญเอาหน้าหรือเอาบุญ
หลวงปู่ประไพร สุภโร
วัดป่าไพรรัตนวณาราม บ้านหลุบหวาย ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
อย่าเป็นพวกมอดเจาะหนังสือ แทะเลียเล็มกินอยู่นั่น อ่านเป็นแนวทางแล้วก็วางกันลงบ้าง บางคนถามอะไรรู้หมด ตอบได้หมด เพราะหาจำแต่คำของคนอื่นมาอวดเล่าให้คนฟัง แต่ไม่เคยลงมือปฏิบัติ นั่นมันรู้ไม่จริง คำพ่อแม่ครูบาอาจารย์ในหนังสือนั้นมาจากการภาวนา พิจารณาสังขารของท่านเอง เราอย่าไปหลงเข้าใจผิิด ว่าเราจะไปเห็นเหมือนท่าน มันไม่เหมือนกัน หาของเจ้าของให้มันได้เด้อ "
หลวงปู่ประไพร สุภโร
วัดป่าไพรรัตนวณาราม บ้านหลุบหวาย ต.บ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี
อย่าทิ่มแทงกันด้วยหอกด้วยดาบ
• เหตุขัดเคืองใจกันของหลวงปู่แหวน สุจิณโณ กับ หลวงปู่ขาว อนาลโย •
เมื่อออกพรรษาแล้ว หลวงปู่มั่น พระอาจารย์ใหญ่ พร้อมด้วยพระอาจารย์พร สุมโน ได้ตามาสมทบหลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว ที่ป่าเมี่ยงขุนปั๋ง ที่หลวงปู่ทั้งสององค์พักจำพรรษาอยู่
ต่อมา หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี กับ พระอาจารย์อ่อนสี สุเมโธ ก็ตามขึ้นไปสมทบอีก
เมื่อเห็นว่ามีพระไปอยู่ด้วยกันหลายรูป เกรงว่าจะเป็นภาระหนักแก่ชาวบ้าน หลวงปู่มั่น จึงให้หาทางแยกย้ายกันออกไปวิเวกบริเวณที่ไม่ไกลนัก
จะมารวมกันเฉพาะวันอุโบสถ เพื่อฟังสวดปาฏิโมกข์แล้วรับการอบรมจากพระอาจารย์ใหญ่ เสร็จแล้วก็แยกย้ายกันกลับไปที่อยู่ของแต่ละองค์
เมื่อใกล้จะเข้าพรรษาต่อไป หลวงปู่แหวน กับ หลวงปู่ขาว ได้กราบเรียน พระอาจารย์ใหญ่ ขอกลับออกมาจำพรรษาที่ดอยน้ำมัว หรือ ดอยนะโม หรือ ฮ่องนะโม (ชื่อสถานที่เดียวกัน) และเมื่อพระอาจารย์พร สุมโน ทราบเรื่องก็ขอตามไปจำพรรษาด้วย รวมเป็น ๓ องค์
เมื่อเข้าไปกราบลา หลวงปู่มั่น ได้พูดเตือนสติศิษย์ทั้งสามว่า “เออ ไปแล้วอย่าไปทิ่มแทงกันด้วยหอกด้วยดาบนะ”
หลวงปู่ทั้งสามไม่ค่อยเข้าใจความหมายของคำเตือนนั้น และได้กราบลาเดินทางมาดอยน้ำมัว บ้านทุ่งบวกข้าว ซึ่งเป็นเทือกเขาเดียวกันกับดอยแม่ปั๋ง อยู่ไม่ห่างกันนักอยู่ทางตะวันออก ไปมาหากันได้สบาย ใช้เวลาเดินทางประมา ๒๐ นาทีเท่านั้น
ส่วน พระอาจารย์ใหญ่มั่น กับลูกศิษย์องค์อื่นๆ คงอยู่จำพรรษาที่ป่าเมี่ยงขุนปั๋ง นั้น โดยพระอาจารย์ใหญ่พักอยู่ใกล้ถ้ำฤาษี ซึ่งชาวบ้านได้สร้างกุฏิชั่วคราวถวาย
การอยู่จำพรรษาที่ดอยนะโม (น้ำมัว) ของหลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว และหลวงปู่พร สุมโม เป็นได้ด้วยความเรียบร้อย การภาวนาไม่มีอุปสรรค จิตก้าวหน้าดี เกิดอุบายธรรมแปลกๆ หลายอย่าง
มีเหตุการณ์อยู่วันหนึ่ง ขณะที่หลวงปู่แหวน กำลังเดินจงกรมอยู่ หลวงปู่ขาว เดินถือไม้กวาดตรงเข้าไปหา เมื่อถึงทางเดินจงกรม หลวงปู่ขาวก็ลงมือกวาดเรื่อยไปตามทางจงกรม กวาดไปจนถึงตรงที่หลวงปู่แหวนเดินอยู่ ก็ยังกวาดไปกวาดมาอยู่ที่เท้าของหลวงปู่แหวน นั่นเอง เสร็จแล้วหลวงปู่ขาว ก็เดินออกไปโดยไม่พูดไม่จา
ครั้งแรก หลวงปู่แหวน นึกขัดเคืองใจอยู่เหมือนกันที่ถูกรบกวน ท่านได้คิดทบทวนดูว่า หลวงปู่ขาว ทำเช่นนั้นเพราะเหตุใด จึงนึกได้ว่าสักครู่ที่ผ่านมา ขณะที่หลวงปู่ขาว นั่งสมาธิอยู่ ท่านใช้ไม้กวาดกวาดบริเวณ คงส่งเสียงดังรบกวนการนั่งสมาธิภาวนาของหลวงปู่ขาว ด้วยเหตุนี้ หลวงปู่ขาวจึงได้มาเตือน ความขัดเคืองใจก็หายไป ทำให้ท่านระมัดระวังยิ่งขึ้น
เหตุการณ์ครั้งที่สอง เมื่อออกพรรษาแล้ว มีโยมนำผ้ามาถวายเพื่อให้ตัดเย็บเป็นจีวร เมื่อลงมือเท่านั้น หลวงปู่ทั้งสามองค์ เกิดความเห็นไม่ตรงกัน องค์หนึ่งเห็นว่าควรตัดขนาดเท่านั้น อีกองค์ว่าเท่านี้จึงจะพอดี ก็เกิดการโต้แย้งกันขึ้นกลายเป็นโต้เถียงเพื่อเอาแพ้เอาชนะกัน
แม้ไม่มีเหตุรุนแรง แต่ก็หงุดหงิดใจต่อกันพอสมควร
หลังออกพรรษานั้นเอง แคว่น (กำนัน) มี ขึ้นมาหาที่ดอยนะโม กราบเรียนว่าเขาจะไปทำธุระที่ป่าเมี่ยงขุนปั๋ง
หลวงปู่แหวน กับ หลวงปู่ขาว จึงบอกว่าขากลับไปให้แวะนิมนต์และรับ “ครูบาใหญ่ของเรา” ลงมาด้วย
เมื่อแคว่นมี ขึ้นไปนิมนต์ พระอาจารย์ใหญ่ ท่านไม่ขัดข้อง ท่านเก็บบริขารเสร็จ แคว่นมี ก็สะพายบาตรรับท่านเดินทางออกมาพร้อมกัน
เมื่อพระอาจารย์ใหญ่ มาถึงดอยนะโมแล้ว ลูกศิษย์ต่างเข้าไปกราบนมัสการ ตอนนั้นยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ตกเย็น หลังจากทำกิจวัตรเสร็จแล้ว หลวงปู่มั่นก็แสดงธรรมให้การอบรมศิษย์ตามปกติ
การแสดงธรรมในช่วงแรกก็ไม่มีอะไรผิดแปลก พอแสดงไปได้สักพัก เสียงของท่านเริ่มหนักแน่นจริงจังมากขึ้น เนื้อธรรมเต็มได้ด้วยไม้ค้อนที่ประเคนตอกย้ำลงไปที่หัวใจของศิษย์
ท่านกล่าวถึงหมู่คณะที่ขัดแย้งกันว่า รังแต่จะถึงกาลวิบัติ ไม่ยังหมู่คณะให้เจริญ ไม่ยังหมู่คณะให้มั่นคงถาวร ไม่ยังหมู่คณะให้ตั้งอยู่ได้นาน
แล้วท่านก็แสดงอานิสงส์ของความสามัคคีในหมู่คณะเพราะมีทิฏฐิสามัญญตา ร่วมกัน
จบลงด้วยการชี้จุดที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในหมู่คณะคือการถือเอาแต่ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่เคารพความรู้ความเห็นของผู้อื่น
หลวงปู่แหวน ท่านว่า “เป็นอันว่าเทศน์ของท่านอาจารย์กัณฑ์นั้น ท่านตั้งภาษิตเอาไว้ตั้งแต่สามเดือนที่แล้วมา ก่อนเข้าพรรษา ให้ระวังอย่าไปทิ่มแทงกันด้วยหอกด้วยดาบ คำเทศน์จึงมาอธิบายเอาตอนออกพรรษาแล้วนี้เอง”
เมื่อหลวงปู่มั่น ท่านแสดงธรรมจบลง ท่านก็พูดคุยกับศิษย์เป็นธรรมดา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พูดคุยถามโน่นถามนี่
เมื่อหลวงปู่แหวน หลวงปู่ขาว หลวงปู่พร หายจากอาการสลบ เพราะถูกตีด้วยธรรมาวุธแล้ว ก็เข้าไปกราบสารภาพผิด ซึ่งหลวงปู่มั่น ก็ไม่ได้แสดงอาการผิดปกติใดๆ ออกมา
“อุบายการแสดงธรรมก็ดี การวางตัวก็ดี การพูดจาปราศรัยก็ดี เป็นกุสโลบายเฉพาะองค์ของหลวงปู่มั่น ยากที่ศิษย์ทั้งหลายจะสังเกต ติดตามได้ทัน ซึ่งจะหาผู้ปฏิบัติได้อย่างองค์ท่านนั้นยากแท้”
#ที่มา หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
วัดดอยแม่ปั๋ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่
และในการที่จะรู้เองได้นี้ทุกคนก็ย่อมทราบได้ว่า โดยปรกตินั้นก็จะต้องว่า หายใจเข้าหายใจออกยาวก่อน ในเมื่อการหายใจนั้นเป็นการหายใจสะดวก เราจึงเรียกกันว่าหายใจทั่วท้อง ซึ่งมีอาการท้องที่พองหรือยุบไปตามธรรมดา ก็เป็นหายใจสะดวก หายใจเป็นปรกติ ก็เป็นอันว่ายาวก่อน แต่ว่าแม้การหายใจปรกติ หรือหายใจสะดวกดั่งนี้ จะถือว่ายาวก็ตามก็อาจจะมีบางคนที่มีการหายใจยาวไม่เท่ากัน ความที่ยาวไม่เท่ากันนั้นเมื่อมาเทียบกันเข้า ก็จะต้องว่าสั้นไปกว่าบ้าง หรือยาวไปกว่าบ้าง แต่ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปคิดเทียบกัน เอาของตนเองนี่แหละ เมื่อหายใจอยู่เป็นปรกติเหมือนอย่างที่มิได้ปฏิบัติ ก็เป็นอันถือว่ายาวเป็นปรกติ หรือใครจะสั้นกว่านั้นก็สั้นกว่าเป็นปรกติ ก็เป็นอันว่ายาว แต่เรียกว่ายาวไม่เท่ากันก็แล้วกัน ดั่งนี้ ก็เมื่อตั้งสติกำหนดลมหายใจเข้าลมหายใจออก ก็ให้รู้หนึ่งเข้า หรือออกสอง เข้าหรือออกยาวเป็นปรกติ คือให้รู้การหายใจที่เป็นปรกติของตนเองนี่เอง.
ธรรมะ : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
Powered by phpBB © phpBB Group.
phpBB Mobile / SEO by Artodia.