Switch to full style
พระพุทธพจน์ - พุทธภาษิต พระธรรมเทศนา และ ธรรมะจากครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
ตอบกระทู้

ควรภาวนาและฝึกสติ

พุธ 07 ก.ย. 2016 12:34 pm

"อิฉันไม่มีเวลาจะภาวนา"
"ทำไม"
"ขายของค่ะ ขายของไม่ได้ภาวนา"
"โยมขายของโยมได้หายใจไหม"
"หายเจ้าค่ะ"
"อ้าว ทำไมมีเวลาล่ะ ทำไมมีโอกาสหายใจ ทำไมไม่อึดลมไว้

เรื่องภาวนาไม่ใช่เรื่องอื่น คือเรื่องความรู้สึกนึก คิด
เราคิดแต่จะมานั่งแต้ หลับตาอยู่ในกลางตลาดเท่านั้นซิ ไม่ได้อย่างนั้น

ความรู้สึกนึกคิดการพิจารณานี้ ให้รู้จักว่าบัดนี้เราทำอะไรอยู่
เราผิดมั้ย ถูกมั้ย เราสุขมั้ยหรือ เราทุกข์มั้ย เราเป็นอะไร ที่เราเป็นอยู่เดี๋ยวนี้

นี่ก็การภาวนา มันรู้เรื่องเหตุผลอยู่อย่างนั้น
เราทำอะไรอยู่ เราก็ได้ภาวนาอยู่ได้ ปฏิบัติอยู่ เรามีสติอยู่
ปฏิบัติอยู่อย่างนั้น รู้จักความผิดชอบอยู่เสมอ เรียกว่าการภาวนา
วันนี้เราพูดผิดหรือเปล่า วันนี้เราทำผิด หรือเปล่า
วันนี้เราคิดผิดหรือเปล่า ถ้าเรามีสติอยู่ เราก็ต้องรู้จัก
ถ้ามีสติอยู่เสมอก็ต้องรู้จักความรู้สึกของเรานั้นอยู่เสมอ

อย่างนั้นโยมทั้งหลายอย่าเพิ่งเข้าใจว่า
การปฏิบัตินั้นจะมาบวชในวัดอย่างเดียว ไม่ใช่อย่างนั้น
การปฏิบัติคือ การมีสติทรงตัว รู้อยู่ รู้สึกความผิดชอบอยู่เสมอ
จะหยิบจับอะไรก็ได้ จะขายของอยู่ก็ได้ จะเขียนหนังสืออยู่ก็ได้
มันก็เท่าๆกับลมหายใจเรานั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะทำอะไรอยู่ เราก็หายใจ อยู่นี่เราก็หายใจอยู่เรื่อย เราจะทานข้าวก็หายใจ
จะนอนก็หายใจ ถึงหลับไป ก็หายใจ ทำไมมีเวลาหายใจเล่า ใช่ไหม "

หลวงพ่อชา สุภัทโท



เราเกิดเป็นมนุษย์ บุญพามาเกิด
มาพบพระพุทธศาสนา ให้ใช้รูปร่างกายของเรานี้
ทำบุญทำกุศล ฝึกนั่งสมาธิภาวนา
การนั่งสมาธิภาวนาไม่ใช่เรื่องอื่นเรื่องไกลนะ
การนั่งสมาธิ คือ การฝึกตั้งสติ ฝึกตั้งใจให้ใจตั้ง...
นึกพุทโธก็ได้ ธัมโมก็ได้ สังโฆก็ได้ ฝึกให้ใจรวมอยู่ในจุดๆเดียว
ให้ใช้ความสามารถของใจของเรา ไม่ต้องใช้ผู้อื่นมาช่วย มันเป็นกฎธรรมชาติ...
(หลวงปู่อุทัย สิริธโร)




ไม่ว่าคนรวยคนจนก็สามารถทำบุญให้ทานได้
โดยเฉพาะทานที่ไม่ต้องสิ้นเปลืองทรัพย์สินเงินทอง
คือ "อภัยทาน" ซึ่งทุกคนสามารถทำได้
และทานชนิดนี้พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญด้วย
ดังนั้นการสร้างคุณงามความดีมีอยู่หลายอย่าง ให้พากันเข้าใจ
บางคนคิดว่าการทำบุญให้ทานได้ผลอานิสงส์มาก
ก็ทุ่มเทใส่จนหมดเนื้อหมดตัว...ไม่รู้เรื่อง!

หลวงพ่อชา สุภทฺโท
ตอบกระทู้